ความนิยมท่องเที่ยวหัวหิน ประกอบกับขนมไทยชื่อดังประจำท้องถิ่นเมืองเพชร โดยเฉพาะ “ขนมหม้อแกง” นักท่องเที่ยวสัญจรผ่านไปมา มักไม่พลาดซื้อฝาก ทำให้เกิดธุรกิจร้านขายของฝาก ผุดขึ้นหลากหลายแห่งในพื้นที่ ร้านที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต้องแวะพักซื้อ จึงต้องมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างชัดเจน อย่าง “พันธ์สุข ฟู้ดแอนด์ฟาร์ม” (1,000Sook Food&Farm) ตอบโจทย์ได้โดนใจ จากการผสานผสมระหว่างดีไซน์สิ่งปลูกสวยงามแปลกตา สไตล์อเมริกัน-อิงลิชคันทรี กับขนมไทยอร่อยตามสูตรต้นตำรับ พร้อมกิจกรรมเสริมครบวงจร สร้างทางเลือกใหม่แก่ผู้ใช้บริการ ได้สินค้าดีแถมมีความสุขกับบรรยากาศสวยงาม
“สมสุข ทรัพย์อัประไมย” เจ้าของกิจการ พันธ์สุข ฟู้ดแอนด์ฟาร์ม เห็นศักยภาพการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ริเริ่มโครงการร้านขายของฝาก พันธ์สุข ฟู้ดแอนด์ฟาร์ม บนเนื้อที่ 18 ไร่ ตั้งอยู่ริม ถ.เพชรเกษม กม.182 ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปิดตัวเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ชูจุดขายสินค้าของฝากขนมไทยนานาชนิดที่ลงมือปรุงสดทุกวัน โดยเฉพาะพระเอกขาดไม่ได้ คือ ขนมหม้อแกง ที่มีกรรมวิธีอบด้วยเตาถ่าน ให้กลิ่นหอม รสหวานไม่หนักเกินไป
ไม่เพียงเท่านั้นยังเติมเต็มบริการด้วยโซนร้านอาหาร และฟาร์ม ดังนั้น พันธ์สุขฯ จึงไม่ใช่แค่ร้านขายของฝาก แต่ขึ้นแท่นแลนด์มาร์คเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยว เพื่อรับประทานอาหาร ซื้อของฝาก รวมถึง ทำกิจกรรมพักผ่อนและถ่ายภาพเก็บความประทับใจ ภาพความสำเร็จนี้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย อยู่เคียงคู่ตั้งแต่ตั้งตนจนถึงวันนี้
“ด้วยเป็นจังหวัดท่องเที่ยว และอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก ทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมเดินทางมา และก่อนกลับก็มักจะซื้อของฝากติดไม้ติดมือ เราจึงตั้งใจสร้างให้ พันธ์สุขฯ เป็นจุดแวะก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ”
ทำเลดีติดถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ คือที่ตั้งของ พันธ์สุข ฟู้ดแอนด์ฟาร์ม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ดึงสายตาให้ต้องหักเลี้ยวพวงมาลัยรถเข้าไปค้นหาว่าสถานที่นี้มีดีอะไร
เริ่มต้นจากโซนจำหน่ายของฝากที่มีขนมไทยให้เลือกนานาชนิด เช่น บ้าบิ่นมะพร้าวน้ำหอม ขนมชั้นใบเตยน้ำตาลโตนด วุ้นกะทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และขาดไม่ได้คือขนมหม้อแกงที่มีให้เลือกถึง 24 รส จัดทำสดใหม่ให้ลูกค้าเห็น ขณะที่โซนร้านอาหารมีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้ง ไทย อีสาน ยุโรป ญี่ปุ่น
ส่วนผู้ที่ต้องการกิจกรรมเรียกรอยยิ้ม สามารถซื้อบัตรราคา 50 บาท หรือซื้อสินค้าครบทุก 200 บาท รับบัตรเข้าชมฟาร์มฟรี 1 ท่าน พร้อมรับอาหารไปป้อนสัตว์ที่น่ารัก ไม่ว่าจะเป็น ม้าแคะ แกะ กระต่าย ปลาคาร์ฟ และอย่าลืมแวะพักถ่ายรูปกับมุมต่างๆ ที่จัดไว้อย่างสวยงามเพื่อเก็บความทรงจำดีๆ
“ลูกค้าหลักของเราเป็นคนไทย ฉะนั้นช่วงไฮซีซั่นจึงเป็นช่วงปิดเทอม คือมีนาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน และอีกครั้งราวเดือนตุลาคม นอกจากนั้นจะมีช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอด”
ด้วยบริการครบวงจรดังกล่าว ผลักดันให้พันธ์สุขฯ ได้รับความนิยมอย่างสูง ส่งต่อประโยชน์ให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น เฉพาะพนักงานประจำกว่า 110 คน ช่วงในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ มีนักเรียนนักศึกษาลูกหลานของพนักงานประจำมาทำงาน สร้างรายได้เสริมให้ครอบครัว และนอกจากสนับสนุนแรงงานในพื้นที่แล้ว วัตถุดิบต่าง ๆ ยังคัดเลือกจากเกษตรกรผู้ปลูกและผู้ผลิตในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลโตนด ไข่เป็ด เผือก กล้วยหอม ทุเรียน เป็นต้น
“พันธ์สุขฯ เติบโตมาถึงวันนี้ประมาณ 8 ปีแล้ว ผมมองว่าความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดแต่เราเพียงผู้เดียว แต่เกิดจากพนักงาน เกษตรกร ลูกค้า และที่มองข้ามไม่ได้คือแหล่งเงินทุน SME D Bank ถือเป็นธนาคารที่อยู่เคียงคู่พันธ์สุขมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยจะมีผลิตภัณฑ์รองรับกับการทำธุรกิจครอบคลุม อย่าง สินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยว ลงทุนเครื่องจักร เงินทุนหมุนเวียน และสต็อกสินค้า เรียกได้ว่าช่วยผู้ประกอบการอย่างแท้จริง”
สมสุข ยังกล่าวถึง SME D Bank นอกเหนือด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อเติมทุนที่พร้อมช่วยผู้ประกอบการ SMEs แล้ว ยังสนับสนุนองค์ความรู้จัดอบรมสัมมนา และช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ส่งให้ธุรกิจเติบโตสู่ความยั่งยืน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี