แมคฟิว่า (MCFIVA) บริษัทที่ปรึกษาด้ านการตลาดและโฆษณาชื่อดัง ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ จับมือพันธมิตรระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Denso, Singha Venture, Gaysorn Group, RISE และ SO (Siamrajathanee) ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่ อมต่อเหล่าผู้บริหารและนักลงทุ นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ งในประเทศและต่างประเทศ ให้สามารถเติบโตทางธุรกิจแบบก้ าวกระโดดและรู้ทันเทคโนโลยีได้ แบบยั่งยืน
งาน SEAT 2024 นี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในไทย ด้วย การรวมตัว Speakers ระดับแนวหน้าด้านเทคโนโลยีแห่ งอนาคตจากทุกอุตสาหกรรมไว้ ในงานเดียว เพื่อเป็นการยกระดับและแสดงให้ เห็นถึงศักยภาพที่มากขึ้นกว่ าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง MarTech, Venture Capital, ClimateTech, FinTech, HealthTech, FoodTech, IoT&Hardware เป็นต้น
งาน SEAT 2024 นี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในไทย ด้วย การรวมตัว Speakers ระดับแนวหน้าด้านเทคโนโลยีแห่
พิรีญา วิริยะพันธุ์ Chief Operating Officer (COO) บริษัท แมคฟิว่า จำกัด กล่าวเสริมว่า “งาน SEAT 2024 เรายังคงผลักดันเป้าหมายหลักที่ ช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น หนึ่งใน 5 ประเทศที่มี Tech Ecosystem ที่ดีที่สุดในเอเชียให้ได้ จึงคงคอนเซ็ปต์ของงานที่มี ความเอ็กซ์คลูซีฟแบบ Invited-Only ซึ่งใน 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เชิญผู้บริหารและนักลงทุ นทั้งในและต่างประเทศมาร่วมงาน SEAT Conference มากกว่า 600 ท่านแล้ว โดยในปีนี้ ยังคงมุ่งเน้นเชิญผู้บริ หารจากองค์กรระดั บประเทศจากหลากหลายอุ ตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้แลกเปลี่ ยนเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยี พร้อมรับมือกับ Global Technology ได้มากขึ้น ภายใต้ธีม Future of Everything อันจะมีส่วนสำคัญในการยกระดับ Tech Ecosystem ของภูมิภาคต่อไป”
นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าวเตรี ยมความพร้อมจัดงาน SEAT 2024 ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิ ดเห็นกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้ นนำระดับประเทศอย่างเจาะลึกถึงท างรอดของวิกฤตระดับโลกอย่าง Polycrisis และบทเรียนจากงานรวมตัวผู้ นำระดับ World Economic Forum
นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าวเตรี
วรัชญา อุรุพงศา Chief Digital Officer (CDO) บริษัท แมคฟิว่า จำกัด ได้กล่าวเกริ่นนำถึงวิกฤตระดั บโลกจากงาน World Economic Forum ได้หยิบยกมาเป็นประเด็นถกเถี ยงกันก็คือเรื่องผลกระทบ Polycrisis ที่โลกต้องเผชิญ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรง เงินเฟ้อที่ไม่ลดลง และความขัดแย้งของสงคราม ปัญหาการเมืองภูมิศาสตร์และสิ่ งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งเป็นความท้าทายของธุรกิ จหลากหลายอุตสาหกรรมมากที่ อาจจะต้องเผชิญในอนาคต
โดยได้รับเกียรติจาก ประดิษฐ์ มหาศักดิ์ศิริ Head of New Business Innovation, Denso International Asia ได้ให้มุมมองต่อวิกฤต Polycrisis ไว้ว่า “เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต จากทั้งเศรษฐกิจ สงคราม การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเรื่องของการที่ AI ได้เข้ามาในชีวิตประจำวัน หากมองเป็นเรื่องใกล้ตัว ก็คือเรื่องการจ้างงาน ที่ในอนาคต AI อาจจะเข้ามามีบทบาทในอุ ตสาหกรรมการทำงานมากขึ้นจนทำให้ เทรนด์การจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมองว่าทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ เพราะในด้านธุรกิจยานยนต์ของบริ ษัท Denso นั้น ประเทศไทยเราเป็นฐานการผลิตหลัก แม้ว่าในตอนนี้จะมีความกั งวลจากการย้ายฐานการผลิตไปยั งประเทศอื่นๆ แต่ Supply chain ของเราถือว่ามีความแข็งแกร่งที่ สุดในอาเซียน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ ประกอบการหรือภาคธุรกิจ เราจึงควรมีการปรับตัว reskill ให้ตามทันเทคโนโลยีและความต้ องการของตลาด และ Co-creation ร่วมมือกับองค์กรต่างๆที่เกี่ ยวข้อง เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆที่ เกิดขึ้นไปได้”
ทางด้าน นายแพทย์ ศุภชัย ปาจริยานนท์ CEO & Co-founder of RISE ได้เสริมเกี่ยวกับเรื่ องของการรับมือและปรับตัวเอาไว้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า “ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอุ ตสาหกรรมไหนก็มีการนำเอา AI เข้ามาช่วยในการทำงานแทบทั้งสิ้ น และแนะนำถึง 2 ธุรกิจที่น่าสนใจในการลงทุน ได้แก่ ธุรกิจประเภท Computing power เพราะ AI ต้องใช้พลังในการประมวลผลมหาศาล และ Clean energy บริษัทที่มีพลังงานสะอาด เช่น Solar, Wing power, Fusion energy เป็นต้น”
ยิ่งไปกว่านั้น ววรัชญา ยังกล่าวถึงข้อมูลด้านความเสี่
นายประดิษฐ์ จึงกล่าวถึงการรับมือปัญหา Climate change ที่เป็นอีกหนึ่งผลกระทบต่
นายแพทย์ ศุภชัย ได้เสริมต่อว่า “ได้ฟังรัฐมนตรีประเทศเวี
ช่วงท้าย ทั้งสองท่านได้มีการฝากถึงผู้
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี