เทศกาลทุเรียนประจำปี 2566 กำลังจะเริ่มขึ้น ตลาดไทในฐานะตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้จัดกิจกรรมอบรม “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ให้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าที่มีความสนใจค้าขายทุเรียน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมบรรยายทั้งภาคทฤษฎีและลงมือปฏิบัติ เจาะลึกตั้งแต่เทคนิคการคัด ตัด และปอกทุเรียนเพื่อสร้างอาชีพ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 120 คน
ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ทั้งด้านปริมาณและมูลค่าในอันดับ 1 ของโลก โดยปี 2564 ทุเรียนไทย มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงถึง 68% ในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศนโยบายให้เป็นปีทุเรียนไทยคุณภาพ มีการบูรณาการจากหน่วยงานหลายภาคส่วนในการรณรงค์ ควบคุม ป้องกันทุเรียนอ่อนและทุเรียนด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาด โดยสร้างมาตรฐานให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด Supply Chain ด้วยมาตรการตรวจก่อนตัด กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน เมื่อผนวกรวมกับการประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน ภาคตะวันออกประจำปี 2566 ที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแก่เกษตรกร ผู้ซื้อ และผู้ขาย พร้อมกับการสร้างองค์ความรู้ในการคัดทุเรียนให้แก่พ่อค้าแม่ค้า นับเป็นปัจจัยร่วมที่ลดการซื้อทุเรียนอ่อน ลดการขาดทุนจากปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น ตอกย้ำสร้างความมั่นใจในคุณภาพของทุเรียนให้แก่ผู้บริโภคทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ
โชคชัย คลศรีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ผู้บริหาร ตลาดไท เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ที่จัดขึ้นในปีนี้ว่า “เนื่องจากตลาดไทเป็นตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ช่วงเทศกาลผลไม้ตามฤดูกาลที่สำคัญของปีคือ เทศกาลทุเรียน จะมีสินค้ามาที่ตลาดไทหลายหมื่นตันต่อปี การจัดอบรมคัดทุเรียนแบบเซียนมีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างอาชีพ เราต้องการให้คนที่อยู่ในซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูก ไปจนถึงผู้ขาย ไม่ว่าจะขายปลีกหรือส่ง มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับทุเรียน ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการขายทุเรียน เข้ามาเรียนรู้ถึงกระบวนการการคัดทุเรียน มาที่ตลาดไทแล้วควรเลือกทุเรียนแบบไหนไปขาย
ขายให้ใคร ขายอย่างไรจึงจะได้กำไร ซึ่งเป็นประโยชน์มากต่อผู้เข้ารับการอบรมซึ่งมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายส่ง ขายกึ่งส่งกึ่งปลีก และขายปลีก การที่พ่อค้าแม่ค้ามีองค์ความรู้อย่างแท้จริง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่ซื้อทุเรียนไปรับประทานว่าทุกคนจะได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ มีรสชาติอร่อยหอมหวานมันถูกใจ”
ดร. พีรพงษ์ แสงวนางค์กูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ศูนย์เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ย้ำความสำคัญของการเข้าใจในเรื่องสรีรวิทยาการสุกแก่ของทุเรียนให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมว่า ทุเรียนที่ตัดเมื่อแก่ได้ที่หรือมีอายุการเก็บกี่ยว 110-120 วัน นับจากดอกบาน นับเป็นทุเรียนคุณภาพ เมื่อสุกแล้วจะหวานหอมมันเป็นเนื้อครีมที่มอบความรื่นรมย์ทั้งรสชาติและรสสัมผัสให้แก่ผู้บริโภค ในขณะที่ทุเรียนอ่อนหรือตัดก่อนแก่จะใช้เวลาสุกช้ากว่าและมีรสชาติที่ไม่หวานหอมเท่าที่ควร ดังนั้นทุเรียนคุณภาพสามารถทำกำไรได้ดีเพราะนอกจากจะขายได้ราคาดีกว่าแล้ว เมื่อลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นว่าสามารถซื้อทุเรียนที่อร่อย มีคุณภาพ จะนำไปสู่การซื้อซ้ำของผู้บริโภคและการขายในระยะยาวทุกปี
ชลธี นุ่มหนู แกนนำเครือข่ายพิทักษ์ทุเรียนไทย/ผู้ก่อตั้งองค์กรเครือข่ายทุเรียนไทย เปิดเผยถึงหลัก 5 ด. ในการตัดและคัดเลือกทุเรียน ให้ได้คุณภาพไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ ดู – การดูลักษณะภายนอก สีผิว เปลือกแห้ง ฐานหนามแผ่ออก ปลายหนามแห้งเปราะ ร่องหนามเป็นสีน้ำตาล ขั้วผลสาก ปลิงบวมโต ก้านผลแข็ง ดีด – การเคาะฟังเสียง ทุเรียนที่ตัดตอนแก่และสุก จะมีโพรงอากาศระหว่างเนื้อและเปลือกให้เสียงที่ก้องกังวานกว่าทุเรียนอ่อนและห่าม ที่เนื้อจะติดเปลือก ดูด – ในการตัดทุเรียนหน้าสวน จะมีน้ำเลี้ยงที่ปลิง ซึ่งถ้าชิมแล้วมีรสหวาน หมายถึงทุเรียนแก่พร้อมตัด ดม – ทุเรียนที่แก่ได้ที่จะมีกลิ่นหอมออกมา การรับประทาน – จะช่วยให้ทราบถึงรสชาติที่แท้จริงของทุเรียนได้
ด้าน ประสาทพร ศรีสกุลเดช เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมืออาชีพ เผยเทคนิค เคล็ดลับการตัดและคัดเลือกทุเรียนเพื่อไปจำหน่ายให้ได้ราคาและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดว่า “แน่นอนที่ผู้บริโภคต้องการทุเรียนที่มีคุณภาพ รสชาติหวานหอม เรียกว่า ซื้อกลับไปแล้วไม่ผิดหวัง ดังนั้น การตัดและคัดทุเรียนที่แก่ได้ที่ จะทำให้ลดปัจจัยลบที่มีต่อทุเรียนด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนใหญ่ต้องการทานทุเรียนแบบที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องลงมือปอกเอง ดังนั้นทุเรียนคัดคุณภาพที่ผ่านการตัดแต่ง โดยชั่งขายแต่เนื้อ จึงสามารถเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้นกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่คัดทุเรียนได้ดี ตรงกับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะชอบเนื้อแบบไหน เปรียบเสมือนมีต้นทุนด้านความเชื่อมั่นของลูกค้าอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ยิ่งสามารถบริการปอกให้หรือขายแต่เนื้อทุเรียน จะยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มกำไรได้อย่างงาม
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมการอบรม ยังได้ลงมือปฏิบัติปอกทุเรียนด้วยตัวเองโดยมี วิทยา ชอบชน อุปนายกฝ่ายผลิต สมาคมทุเรียนไทย และเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพ ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลักการปอกทุเรียนมีสองแบบคือ ผ่าหลังซึ่งจะทำให้เป็นรอยมีดได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการปอกขายเนื้อ ควรใช้การปอกด้านข้าง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรปาดไส้หรือแกนออกก่อนจะช่วยให้ปอกง่ายขึ้น
กิจกรรมอบรมผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ที่ตลาดไท จัดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากจะสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งภาคทฤษฎีไปจนถึงภาคปฏิบัติแล้ว ยังเป็นการย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในแง่ของการเป็นตลาดขายส่งทุเรียนที่มีคุณภาพให้แก่พ่อค้าแม่ค้า เพื่อส่งมอบผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศอีกด้วย สามารถรับชมไฮไลท์การอบรม “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ได้ที่ www.youtube.com/watch?v=5GbxWW6BXh4 และสำหรับพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ที่สนใจค้าขาย สร้างรายได้ในช่วงฤดูกาลทุเรียน สามารถเลือกซื้อทุเรียนคุณภาพได้ที่ ตลาดผลไม้ฤดูกาล ตลาดไท ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี