บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด (“Sunday“) กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและการประกันภัยเต็มรูปแบบ (Full-stack insurtech) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำโดย สุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Chief Data Scientist) เข้าร่วมงานเสวนา “ยานยนต์ไฟฟ้าและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต” จัดโดย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง ณ ห้องประชุมจูปิเตอร์ 4 ศูนย์เเสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดย สุรเดช ได้แชร์อินไซต์การใช้ AI ในอุตสาหกรรมประกันภัย ในหัวข้อ “พลิกโฉมวงการประกันภัยยุคใหม่ ผ่าน AI” ซึ่งทางซันเดย์ได้นำ AI เข้ามาช่วยคำนวณเบี้ยประกัน โดยลูกค้าจะได้ราคาเบี้ยที่ออกแบบมาโดยเฉพาะแต่ละบุคคล ในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ซันเดย์ยังใช้โมเดลการออกแบบราคา (Pricing engine) ที่สามารถสลับเข้าปรับเปลี่ยนได้หลายโมเดล (เหมือนการต่อเลโก้) ในการออกแบบราคา ซึ่งทำให้เบี้ยประกันของซันเดย์ สามารถปรับ เสริม เติมแต่งได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้ AI เข้ามาพัฒนาการให้บริการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การเคลม และการประเมินราคาค่าซ่อม
ในปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสนใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวรถไฟฟ้าของค่ายรถยักษ์ใหญ่มากมายในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น MG และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่น ORA อ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศไทยถือว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากกว่า 200% ภายในปีนี้
จากการสนับสนุนของทุกภาคส่วน รวมถึงการตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อมของผู้คน ซึ่งประกันภัยถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยปัจจุบันซันเดย์ได้จำหน่ายประกันรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์อีก 2 แบรนด์ ได้แก่ MG และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นอกเหนือไปจากการให้การรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งในอนาคตเรามีแพลนที่ขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งทางซันเดย์ได้นำ AI มาคำนวณเบี้ยที่ทำให้ลูกค้าได้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่สมเหตุสมผลและยกระดับบริการผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น
AIเฟืองสำคัญของวงการประกันภัยยุคใหม่
บริษัทประกันโดยทั่วไปจะคิดเบี้ยประกันจากการการนำความเสี่ยงของทุกคนมาเฉลี่ยเพื่อหาเบี้ยประกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซันเดย์เล็งเห็นถึงความแตกต่างนี้จึงได้นำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์เบี้ยประกันเพียงไม่กี่วินาทีคุณก็สามารถได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุณ โดยเฉพาะ ซันเดย์คำนวณค่าเบี้ยจากข้อมูลภายใน (Internal data) เช่น ข้อมูลการเคลมและข้อมูลที่คุณ กรอกผ่านเว็บไซต์ และข้อมูลภายนอก (External data) เช่นที่อยู่ โดยนำข้อมูลเหล่านี้มาคำนวณ (Analytic data set) ซึ่งหลังจากคำนวณแล้ว AI จะดักจับความเสี่ยงของคุณเพื่อคำนวณทุนเบี้ยประกัน ยกตัวอย่างเช่น บริเวณที่คุณอาศัยมีทางโค้งอันตรายหรือไม่ คุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหรือไม่ รวมไปถึงอัตราการเกิดอุบัติเหตุในละแวกที่คุณอยู่ โดยทุนประกันของคุณจะถูกลด ปรับ เพิ่มผ่านปัจจัยต่างๆ เช่น การติดตั้งกล้องโปรโมชัน รวมไปถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยราคาค่าเบี้ยประกันยังอยู่ในข้อกำหนดของคปภ.
การคำนวณเบี้ยประกันแบบเลโก้โมเดลโดย AI
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุตสาหกรรมประกันเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดจากภาครัฐหรือการสนับสนุนต่างๆ ทำให้โมเดลการคำนวณเบี้ยประกันต้องมีความยืดหยุ่น เพื่อให้การคำนวณเบี้ยประกันสามารถทำได้อย่างเรียลไทม์ ซันเดย์เลยใช้เลโก้โมเดล กล่าวคือ ทุกปัจจัยที่มีส่วนในการคำนวณเบี้ยประกันภัยสามารถปรับ เสริม เติมแต่ง ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เหมือนบริษัทประกันทั่วไป ยกตัวอย่าง ประกันรถไฟฟ้า มีความเสี่ยงใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ ค่าแรงของช่างซ่อมเฉพาะทาง (Technician cost) ที่อาจจะมีราคาสูงกว่าช่างซ่อมรถสันดาปทั่วไป ราคาแบตเตอรี่ที่สูงขึ้น การลดภาษีของกรมสรรพสามิตการนำเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันรถไฟฟ้า ซึ่งซันเดย์สามารถนำปัจจัยเหล่านี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าไปในระบบการคำนวณเบี้ยประกันได้ทันที ทำให้ผู้บริโภคสามารถได้รับค่าเบี้ยที่เหมาะสมและถูกต้องอย่างรวดเร็ว
เคลมยุคใหม่ รวดเร็ว แม่นยำ โปร่งใส
กระบวนการเคลมถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทั้งตัวผู้บริโภคเองและบริษัทประกันภัยพบเจอปัญหาอยู่บ่อยครั้ง เช่น การประเมินความเสียหายจากบริษัทประกันและอู่ซ่อม ซึ่งปัจจุบันจะถูกวินิจฉัยผ่านดุลพินิจของบริษัทประกันและอู่ ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่มีความแม่นยำ ใช้เวลานาน รวมถึงอาจจะไม่โปร่งใสได้ แต่การที่เรานำ AI เข้ามาช่วยประเมินความเสียหายนั้นสามารถขจัดข้อโต้แย้งส่วนบุคคล (Personal objections) ได้อย่างชัดเจน และแม่นยำ สมเหตุสมผลมากขึ้น โดย AI จะคำนวณความเสียหายและประเมิณผ่านรูปภาพ ยกตัวอย่าง การเคลมแบบไม่มีคู่กรณี (Dry claims) คุณสามารถถ่ายรูปความเสียหาย โดยส่งรูปมาที่แอปพลิเคชัน ซึ่ง AI สามารถคำนวณความเสียหาย พร้อมออกใบ เคลมได้ภายใน 5 นาทีโดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (Surveyor) ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็วเมื่อเทียบกับกระบวนการเคลมทั่วไป
บริษัทประกันที่อยากเป็นเพื่อนแท้ของคุณ
บริษัทประกันสามารถพัฒนาและยกระดับการให้บริการได้ไปอีกระดับผ่านการทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น รถในปัจจุบันมีเซนเซอร์อยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ดังนั้นหากบริษัทประกันสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเหล่านั้นได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุคุณไม่จำเป็นต้องโทรหาบริษัทประกัน หรือรถพยาบาล แต่บริษัทประกันสามารถจับเซนเซอร์ของรถแล้วสามารถรู้ได้ทันทีว่ารถประสบอุบัติเหตุ รวมไปถึงการแจ้งเตือนความเสี่ยงต่างๆ เช่น แจ้งเตือนคุณว่าถนนข้างหน้าจะมีหลุม ให้ชะลอความเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ของคุณได้ ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะสามารถปฏิวัติวงการประกันได้อย่างแน่นอน รวมถึงยกระดับการให้บริการแก่ผู้รับบริการ
สุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า “หลายคนอาจจะมีการเข้าใจว่า อินชัวร์เทคคือประกันที่คุณสามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ ซึ่งความจริงแล้ว อินชัวร์เทค คือการนำเทคโนโลยีกับประกันมาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนา 3 ด้าน หลักๆ ดังนี้ 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.การยกระดับการให้บริการ และ 3. การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งซันเดย์ เป็น อินชัวร์เทค อย่างเต็มรูปแบบ หรือที่เรียกว่า Full-stack insurtech นั้นเอง เรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหาร การจัดการ อย่างเต็มรูปแบบ ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีอย่างแท้จริง โดยการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเบี้ย การคำนวณความเสียหาย เป็นสิ่งที่ซันเดย์ทำมาเป็นระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และเรายังคงไม่หยุดพัฒนาเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup