“พฤกษา” ผู้นำวงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย ประกาศรายชื่อ 5 ทีมผู้ชนะจากโครงการ “Accelerate Impact with PRUKSA" โครงการที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจเพื่อสังคมของไทย (Social Enterprise) ที่ต้องการเงินทุนสนับสนุน รับโอกาสต่อยอดขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมจัดโปรแกรมบ่มเพาะสตาร์อัพ ยกระดับศักยภาพบุคคลากรก้าวไกล โดยมีวิทยากร และผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาตลอดโครงการ
อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยรายชื่อพร้อมแสดงความยินดีกับผู้ชนะ 5 ทีมที่ได้รับการคัดเลือกร่วมในโครงการ “Accelerate Impact with PRUKSA ที่พฤกษาจัดขึ้นเป็นปีแรก โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายและปณิธาน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ร่วมสานฝัน สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสังคมให้เป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืน สำหรับการจัดโครงการครั้งแรกนี้ มีนักธุรกิจเพื่อสังคมให้ความสนใจ สมัครเข้าร่วมในโครงการเกือบ 70 รายทั่วประเทศไทย โดยในปีนี้ มีองค์กรธุรกิจเพื่อสังคมที่มีรูปแบบและเป้าหมายธุรกิจ สอดคล้องตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการครั้งนี้มากที่สุด 5 ทีม ได้แก่
1. Local Alike สตาร์ทอัพที่ให้บริการธุรกิจท่องเที่ยว โดยมุ่งให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาชุมชนให้สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมถึงการขายสินค้าชุมชน และ ของอร่อยในชุมชน ธุรกิจดังกล่าวได้ช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนมาแล้วมากกว่า 200ชุมชนในกว่า 60 จังหวัด
2. Happy Grocers สตาร์ทอัพร้านค้าออนไลน์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฟาร์มออร์แกนิกโดยตรงเพื่อให้เกษตรกรสามารถขายตรงต่อลูกค้า ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น สร้างความยั่งยืนในอาชีพ ในขณะเดียวกันผู้ซื้อก็ได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาและคุณภาพสินค้า ปัจจุบันมีเกษตรกรมากกว่า 100ราย ที่เข้าร่วม จัดส่งสินค้าถึงลูกค้ามากกว่า 20,000 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2563 โดยใช้บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมจากธรรมชาติ พร้อมจำหน่ายผักผลไม้ที่ไม่สวยสมบูรณ์ ซึ่งไม่ได้รับความนิยมในตลาด เพื่อลดการสูญเปล่าทางด้านอาหาร (Food Waste)
3. Vulcan Coalition สตาร์ทอัพสายเทคที่สนับสนุนการจ้างงานคนพิการ ให้คนพิการได้เข้ามาสอน และพัฒนาความฉลาดของระบบ AI (Artificial Intelligent) ในระบบ Chatbot พร้อมเป็น Live Agent ช่วยให้เกิดการจ้างงานคนพิการ มากกว่า 600 คน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 62 ล้านบาท
4. Buddy Homecare กิจการเพื่อสังคมที่ช่วยแก้ปัญหาผู้สูงอายุ และเด็กชาวเขาที่ขาดโอกาสในเวลาเดียวกัน โดยจัดฝึกอบรมอาชีพ พัฒนาศักยภาพเด็กชาวเขาด้วยการมอบทุน และอบรมความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถทำงานด้านการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ในขณะเดียวกันก็พร้อมช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุยากไร้ ร่วมกับชุมชนและมูลนิธิต่าง ๆ ปัจจุบันมีการช่วยเหลือผู้สูงอายุยากไร้ไปแล้วกว่า 600 ชีวิต
5. findTEMP แพลตฟอร์มที่จับคู่ผู้จ้างงานกับ พนักงานพาร์ทไทม์ ในร้านอาหาร คลังสินค้า โรงแรม และธุรกิจจัดเลี้ยง ช่วยสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้กับพนักงานมากกว่า 14,000 คน โดยเกิดการจ้างงานกว่า 220,000 ครั้ง และช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการมากกว่า 500 ราย ปัจจุบันมีพนักงานในระบบมากกว่า 45,000 คน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
อุเทน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ชนะทั้ง 5 ทีม มีพันธกิจองค์กร ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ในการมุ่งแก้ไขปัญหาการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ การสร้างและเสริมทักษะที่จำเป็นต่อโอกาสในการสร้างงานและรายได้ และด้านความเป็นอยู่ของผู้สูงวัย โดยทีมผู้ชนะได้รับเงินทุนสนับสนุน 6 แสนบาท ถึง 1.9 ล้านบาท จากพฤกษา (รวมเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมจากทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์) ทั้ง 5 ทีมได้เข้าร่วม “โปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจ” ที่อัดแน่นด้วยความรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจ ผ่านกิจกรรมเวิร์กชอปและพัฒนากิจการในหลากหลายมิติ ตลอดหลักสูตร 4 วันเต็ม ก่อนเตรียมเดินหน้าเข้าสู่ช่วงการดำเนินงานด้านการขยายกิจการจริงสู่ความแข็งแกร่งและเติบโต ในช่วงต้นปีหน้าต่อไป พร้อมกับจะได้รับโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจและแผนงานอีกครั้ง (Pitching) ในเดือนเมษายน 2566 เพื่อรับโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติม และร่วมเป็นพันธมิตรกับพฤกษา และต่อยอดพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่ส่งเสริมให้ผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup