คินเซนทริค (ประเทศไทย) เผยเทรนด์การบริหารองค์กรและบุคลากรยุคใหม่ เพื่อธุรกิจเติบโตอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

     บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลระดับโลก เผยการบริหารงานองค์กรและบุคลากรเพื่อให้พนักงานได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงทั้งในรูปแบบการทำงานระดับบุคคลและทีมเวิร์ค คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน พร้อมสอดรับกับกระแสโลกที่เทคโนโลยีดิจิทัลและแนวคิดการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการจะกลายเป็นวาระสำคัญที่ทุกองค์กรนำเข้ามาผนวกในการทำธุรกิจ โดยวัดผลได้จริงผ่านความสำเร็จของงานประกาศรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2565 (Kincentric Best Employers Thailand Awards 2022) 

      ด้วยสังคมในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนต่างมองหาความหมายและการสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงาน จึงทำให้องค์กรจำนวนไม่น้อยต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อย่างการทำงานระยะทางไกล การทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ การใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ล้ำสมัยมาเชื่อมโยงการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งการเสริมสร้างหรือเพิ่มพูนทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพนักงานขององค์กรที่จะต้องมีการเรียนรู้อย่างเหมาะสม และตรงตามลักษณะงาน ที่องค์กรยุคใหม่ควรให้ความสำคัญ 

      ดร. อดิศักดิ์ จันทรประภาเลิศ กรรมการผู้จัดการและพาร์ทเนอร์ บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 และความผันผวนที่เกิดขึ้นแผ่กว้างไปทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดได้นำมาซึ่งความท้าทาย ทำให้ในหลากหลายธุรกิจต้องมองหาทางและนำพากิจการให้เดินหน้าและเติบโตต่อไปได้ คินเซนทริคในบทบาทของการเป็นที่ปรึกษาและเชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลและองค์กร มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้ธุรกิจมากมายได้เสริมสร้างศักยภาพองค์กรและบุคลากร อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละองค์กรไม่เพียงแต่จะต้องพัฒนาองค์กรให้มีความทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เท่านั้น หากแต่ยังต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงาน (Employee eXpereience) รวมถึงการเสริมสร้างวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมในองค์กรที่เอื้อต่อการทำงานที่สร้างสรรค์และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน”

      ในขณะเดียวกันด้านสังคม ในหลาย ๆ องค์กรมีการปรับหรือยอมรับแนวคิดในการเคารพและยอมรับในความหลากหลาย (Diversity & Inclusion) ที่ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อสังคมวัฒนธรรมในองค์กรและงานบริหารบุคคลที่เคยยึดถือปฏิบัติ โดย คินเซนทริคได้เข้าไปมีบทบาทช่วยให้ผู้ประกอบกิจการมากมายผ่านช่วงเวลาสำคัญในการเปลี่ยนผ่านที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับพื้นฐานของแต่ละองค์กร เพื่อให้การบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจเป็นไปต้องตามเป้าหมายและสอดรับกับกระแสโลกให้ได้มากที่สุด

      นภัส ศิริวรางกูร พาร์ทเนอร์ บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ด้วยรูปแบบการจ้างงานที่เปลี่ยนไป ในหนึ่งองค์กรอาจจะมีทั้งพนักงานประจำและไม่ประจำ เช่น การจ้างบุคคลภายนอก (Outsource) หรือแรงงานอิสระ (Gig worker) ที่มีแนวโน้มว่าจะมีมากขึ้นในตลาดแรงงานประเทศไทย รวมถึงกลุ่มบุคลากรที่มีพรสวรรค์ (Talent) ที่จะเข้ามาทำงานในองค์กรจะไม่ได้มองแค่ภาพของความเป็นคนสัญชาติไทยแล้วเท่านั้น แต่ผู้สมัครยังอาจเป็นในลักษณะพลเมืองของโลก (Global citizen) มากขึ้น ทั้งยังมีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม รวมถึงแนวคิดและวิถีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของผู้นำองค์กร ที่ต่อเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพธุรกิจ ทั้งในเรื่องการออกแบบโครงสร้าง การบริหารจัดการบุคลากร และการสร้างวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการทำงานในกลุ่มคนที่หลากหลายให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ขณะเดียวกัน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเองก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งวิธีการทำงานและทัศนคติที่เปิดกว้างและเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตลาดแรงงานปัจจุบันไม่เพียงแค่องค์กรเลือกคน แต่คนก็เลือกทำงานกับองค์กรที่ตอบโจทย์ชีวิตทั้งในด้านกายภาพ สังคม และการค้นหาความหมายในชีวิตการทำงานของพวกเขาด้วย ดังนั้น นอกจากสวัสดิการพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานแล้ว ยังต้องใช้ประโยชน์จากแนวคิดการยอมรับและเคารพในความแตกต่างมาพัฒนาองค์กร สร้างความสุข ตลอดจนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานให้เอื้อต่อการทำธุรกิจขององค์กรให้มากที่สุด

     ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดให้องค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและให้ดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืนด้วยความสร้างสรรค์อย่างแท้จริง คินเซนทริค (ประเทศไทย) จึงได้จัดโครงการคัดเลือกสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย (Kincentric Best Employers Thailand) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือศศินทร์  อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 20 ปี  ด้วยวิธีการและเครื่องมือประเมินที่เป็นที่ยอมรับและได้มาตรฐานระดับโลก

     ซึ่งโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2565 นี้ นับเป็นครั้งที่ 22 โดยมีบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการพิจารณาจำนวนมากกว่า 90 องค์กร ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจและกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น พลังงานและสาธารณูปโภค การเงินธนาคาร สินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งต้องผ่านการประเมินครอบคลุมสามประเด็นหลักคือ การสำรวจความคิดเห็นของลูกจ้าง ดัชนีการปฏิบัติของภาคประชาชน และผลการดำเนินงานขององค์กร 

      ปอลิน ปอแก้ว ผู้จัดการโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2565 บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่คัดเลือกองค์กรจากแนวทางหรือวิธีการบริหารบุคลากรของฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลเท่านั้น แต่เป็นโครงการที่คัดเลือกสุดยอดนายจ้างดีเด่นจากการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างกลยุทธ์องค์กร ประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรบุคคล และนโยบายจากผู้นำองค์กร รวมถึงประสิทธิภาพของการบริหารองค์กรผ่านเสียงสะท้อนจากการสำรวจความผูกพันและความคิดเห็นของพนักงาน และในปีนี้ เราจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ด้านการบริหารองค์กรจากผู้ที่ได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2565 นี้ ผ่านแนวคิด Reveal, Relearn, Rethink และ Reshape ซึ่งจะเป็นการสะท้อนให้เห็นสิ่งที่คินเซนทริคพยายามเน้นความสำคัญว่า การเป็นนายจ้างที่ดีที่สุดคือการพัฒนาองค์กรและบุคลากรอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้เป็นองค์กรที่ดีมีคุณภาพและคุณค่า รางวัลนี้เป็นอีกหนึ่งมาตรวัดประสิทธิภาพให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่เพียงเป็นแค่รางวัลประกาศเกียรติคุณ หากแต่เรายังมองเห็นผลลัพธ์ที่องค์กรเหล่านั้นได้ปรับปรุงพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้ผ่านเกณฑ์วัดต่าง ๆ ที่ได้เพิ่มเติมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผลและยั่งยืน

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup

NEWS & TRENDS