AURORA ปั้นแบรนด์ สู่ “ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” ที่ใครก็เข้าถึงได้ ปักธงลูกค้าคนรุ่นใหม่

 

     บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ปักหมุดภาพลักษณ์ผู้นำตลาดค้าปลีกทองคำ เดินเกมแผนการตลาดครึ่งปีหลัง ด้วยแนวทางการทำตลาด “First Mover” นำเสนอจุดเด่นด้านนวัตกรรม เพื่อเพิ่มไลน์สินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ที่ใครก็เข้าถึงได้ พร้อมสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อเชื่อมโลกซื้อขายทองคำระหว่างร้านสาขา (ออฟไลน์) กับออนไลน์ย้ำภาพลักษณ์ด้วยแคมเปญล่าสุด The New Way of Gift ภายใต้แนวคิด ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” กระตุ้นให้คนไทยเลือกทองคำเป็นของขวัญ สร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของทองคำที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ไม่รู้จบ

     อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับคนไทยมานานกว่า 50 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ เข้าใจในธุรกิจรวมถึง Insight ฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าตลอดมา ประกอบกับมุมมองความคิดแบบ First Mover ที่กล้าคิดค้นและท้าทายความแปลกใหม่อยู่เสมอ ทำให้แบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ  ของบริษัทฯ ได้แก่ แบรนด์ออโรร่า เซ่งเฮง ของขวัญ by Aurora Diamond และทองมาเงินไป สามารถตอบสนองและนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลายและโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ จนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกโอกาสและทุกโมเมนต์

      บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ (1) ผลิตภัณฑ์ โมเดิร์น โกลด์ (Modern Gold) ผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ในประเภทสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู ทองแผ่น  เป็นต้น (2) ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ โกลด์ (Design Gold)” ผลิตภัณฑ์จากทองอื่นๆ (ไม่รวมผลิตภัณฑ์ Modern Gold ที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5%) อาทิ กลุ่มพระเครื่องเลี่ยมทอง กลุ่มสินค้าเสริมสิริมงคล กลุ่มเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้ากลุ่มของขวัญ และ (3) ผลิตภัณฑ์ เครื่องประดับเพชร (Diamond)” ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร ต่างหูเพชร สร้อยข้อมือเพชร และจี้เพชร

      นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ ภายใต้แบรนด์ “ทองมาเงินไป” โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน

      อนิพัทย์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า แบบไม่หยุดนิ่ง โดยนำมุมมองของแบรนด์ที่เป็นกลยุทธ์หลักทางความคิด นั้นคือ “First Mover” มาต่อยอด ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่นำนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ รวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หรือการดีไซน์ทองในรูปแบบคอลเลคชั่นของขวัญใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการวางแผนสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในการซื้อขายทองคำผ่านสาขาหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่ปัจจุบันมีร้านสาขารวม 255 สาขา ทั่วประเทศ  และยังมีช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ทั้ง Official Website และแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ (E-Commerce) ทั้ง Shopee Lazada และ JD Central และโซเชียล คอมเมิร์ซ (Social Commerce)

      นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำ Big Data โดยนำสถิติข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า และช่วงอายุของลูกค้าเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริง รวมถึงการสร้างโอกาสขยายตลาดเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการสื่อสารเพื่อขยายลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่มากขึ้น ผ่านการนำเสนอมุมมองและ แง่คิดเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีประสิทธิภาพ บนบริบท คุณค่าของทอง โดยนำเสนอผ่านแคมเปญ “The New Way of Gift” บนแนวคิด ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า เพื่อการกระตุ้นให้คนไทยเห็นถึงโอกาสในการเลือกทองคำเป็นของขวัญ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของทองคำที่สามารถส่งต่อได้จากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไม่รู้จบ

      “อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรม บริษัทฯ ยังคงเน้นความสำคัญผ่านมุมมอง Consumer Centric ที่พร้อมรับฟังเสียงลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาแผนการตลาดและสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและสร้างมุมมองใหม่เกี่ยวกับทองคำ ให้เป็น ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า โดยบริษัทฯ พร้อมเป็นผู้นำในการส่งมอบ ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” ให้กับคนไทยในทุกโอกาสและทุกโมเมนต์” อนิพัทย์ กล่าวสรุ

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

NEWS & TRENDS