หนังสือรวมเรื่องสั้น #HARSHTAG ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจาก ‘แนวปฏิบัติเพื่อลดปัญหาการกลั่นแกล้งทางออนไลน์’ หรือ ‘สัญญาใจวัย Gen Z’ ที่ถอดมาจากข้อเสนอแนะของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ร่วมระดมความเห็นผ่านแคมเปญ #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา ภายใต้โครงการ dtac Safe Internet
Behind the Scenes: เบื้องหลังหนังสือรวมเรื่องสั้น #HARSHTAG ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา ที่เกิดจากเสียงเรียกร้องของคนรุ่นใหม่
1.44 ล้านครั้ง คือจำนวนข้อความที่คนรุ่นใหม่ หรือ generation Z เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นผ่านแคมเปญ #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา บนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มที่ดีแทคเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไซเบอร์บูลลี่ต่อเนื่องเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ในเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
ภายหลังการระดมความคิดเห็น ดีแทค และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้คัดเลือก 205 ทางออก ที่มีเสียงสนับสนุนมากที่สุด วิเคราะห์ออกมาเป็น ‘สัญญาใจวัย Gen Z’ ที่ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความ ปฏิบัติตามได้ทันที และ ‘คู่มือให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา (Stop Cyberbullying Playbook)’ เล่มแรกในประเทศไทย’ ซึ่งข้อเสนอแนะของคนรุ่นใหม่ สามารถสรุปออกเป็น 3 แนวทางใหญ่ในการแก้ไขปัญหาไซเบอร์บูลลี่ ได้แก่
1. การแก้ไขด้านทัศนคติ (Attitude) ปลูกฝังการให้เกียรติและเคารพความแตกต่าง
2. สร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคม (Awareness) สร้างบรรทัดฐานสังคมใหม่และกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้จริง
3. มีการกำหนดมาตรการลงโทษและเยียวยา พร้อมกฎหมายเอาผิดผู้กระทำและช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ
อรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคให้ความสำคัญกับวันต่อต้านไซเบอร์บูลลี่สากลต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 ในปีนี้ ด้วยความตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัล ต่อความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 28% ในไทยเป็นเด็กและเยาวชน โครงการ dtac Safe Internet ยังคงเดินหน้าให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกันบนโลกออนไลน์ และเป็นภาคีสำคัญในการร่วมหาทางออกและลดความรุนแรงจากภัยออนไลน์ ซึ่งไซเบอร์บูลลี่เป็นประเด็นปัญหาในลำดับต้นๆ ที่เยาวชนไทยตระหนักถึงอันตรายและอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ในปีนี้ ดีแทคได้ร่วมกับสำนักพิมพ์แซลมอน หยิบข้อเสนอของเยาวชนใน ‘สัญญาใจวัย Gen Z’ มาถ่ายทอดเป็นเรื่องสั้นที่เปิดเผยถึงค่านิยม ทัศนคติ และประสบการณ์ของคนรุ่นใหม่ และสอดแทรกด้วยแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้จริงทั้ง 23 ข้อ เพื่อหยุดไซเบอร์บูลลี่ ซึ่งรายได้ทั้งหมดจากการจัดจำหน่ายหนังสือ ดีแทคจะส่งต่อให้สำนักพิมพ์แซลมอน (Salmon Books) ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย”
ทำไมต้องอ่าน #HARSHTAG หนังสือรวมเรื่องสั้นทวนกระแส #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา
ปฏิกาล ภาคกาย บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์แซลมอน กล่าวว่า “แม้จะมีผู้คนและองค์กรจำนวนมากร่วมกันส่งเสียงให้เรา ลด ละ เลิกการบูลลี่ทั้งในชีวิตจริงและในโลกออนไลน์ แต่เราเชื่อว่า ถ้าหยิบมือถือหรือหยิบคอมพิวเตอร์เข้าไปในโลกโซเชียลฯ ตอนนี้ ก็อาจพบเห็นการกระทำแบบนั้นได้ไม่ยาก ในฐานะของคนทำสำนักพิมพ์ เราพยายามสอดแทรกเรื่องนี้เท่าที่มีโอกาส และเมื่อดีแทคเล่าให้ฟังว่าพวกเขาไปเก็บข้อมูลการไซเบอร์บูลลี่จากคนรุ่นใหม่มาต่อยอดพัฒนาเป็น สัญญาใจวัย Gen Z ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนเห็นว่าเรากลั่นแกล้งทางออนไลน์โดยไม่รู้ตัวมากมายเท่าไรและเราควรทำตัวอย่างไรไม่ให้ไปกระทบกระเทือนใจบุคคลอื่น พวกเราก็มีความคิดอยากทำเรื่องนี้เป็นหนังสือขึ้นมาทันที แต่แทนที่จะนำเสนอสัญญาใจ 23 ข้อ แล้วจบไป เราก็นึกสนุกอยากชวนนักเขียนทั้งที่เคยร่วมงานและเพิ่งเคยร่วมงานกันมาตีความสัญญาใจในแบบของตัวเอง ต่อเติมเป็นเรื่องแต่งที่นักเขียนแต่ละคนได้แรงบันดาลใจจากสัญญาใจที่ตัวเองอยากเล่า
#HARSHTAG ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา เป็นหนังสือที่จะช่วยให้ผู้ใหญ่เข้าใจโลกของคนรุ่นใหม่ ผ่านเรื่องสั้นที่อ่านสนุก สดใหม่ และแฝงไปด้วยประเด็นไซเบอร์บูลลี่ที่ชวนให้ฉุกคิดอย่างแยบยล ผ่านเรื่องราวเฉพาะตัวของนักเขียนขวัญใจ Gen Z ทั้งหมด 9 ท่าน ได้แก่ 1) afterday 2) โชติกา ปริณายก 3) จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์ 4) JittiRain 5) serene seaborn x summer december 6) ตัวแม่* 7) สะอาด 8) ธนชาติ ศิริภัทราชัย 9) นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี