TEXT : ภัทร เถื่อนศิริ
Main Idea
- หนึ่งในกลยุทธ์ที่ผมมักเลือกใช้เวลาทำการตลาดให้กับ SME อยู่บ่อยครั้ง คือ Guerrilla Marketing (กลยุทธ์แบบกองโจร)
- เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่เน้นความเฉลียวฉลาด งบประมาณที่ลงไปต้องสร้างยอดขายหรือรายได้กลับมา มากกว่าแค่การรับรู้
- วันนี้ผมจึงอยากชวน SME คุยกันครับว่า Guerrilla Marketing ที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องทำอย่างไรบ้าง
Guerrilla Marketing คืออะไร
การตลาดแบบกองโจร เป็นกลยุทธ์การโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์ที่แปลกใหม่เพื่อสร้างความพึงพอใจและดึงดูดลูกค้าเหมาะสำหรับการเป็นกลยุทธ์ของคนตัวเล็ก เพราะการใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดในประสิทธิภาพสูงสุด
โดยที่ประสิทธิผลของการตลาดแบบกองโจรอยู่ที่ความสามารถในการสร้างกระแสปากต่อปากและโซเชียลมีเดีย สร้างเอฟเฟกต์ไวรัสและขยายการเข้าถึงของแคมเปญ ด้วยการคิดนอกกรอบและใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ที่แปลกใหม่ ธุรกิจสามารถบรรลุผลลัพธ์ทางการตลาดที่สำคัญได้แม้จะมีงบประมาณจำกัดก็ตาม
เป็นตัวอย่างที่ดีของการกบฏในขอบเขตของการตลาด! มันเหมือนกับการจัดฉากปฏิบัติการลับเพื่อดึงดูดใจและความคิดของกลุ่มเป้าหมายของคุณ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด กำลังแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด แต่คุณปฏิเสธที่จะถูกพ่ายแพ้
การตลาดแบบกองโจรเป็นอาวุธลับของคุณ มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการสร้างการหยุดชะงัก ดึงดูดผู้คนให้สนใจระวังตัว และภาพจำที่ลบไม่ออกไว้ในใจของพวกเขา คุณต้องเปิดรับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความกล้า ลืมป้ายบิลบอร์ดหรือโฆษณาทีวีแบบเดิมๆ ไปได้เลย คุณมาที่นี่เพื่อสร้างปรากฏการณ์!
ความสวยงามของการตลาดแบบกองโจรคือมักมาพร้อมกับงบประมาณที่พอประมาณ
คุณไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณการโฆษณาจำนวนมากเพื่อสร้างผลกระทบ แต่คุณพึ่งพาความเฉลียวฉลาด การคิดนอกกรอบ และองค์ประกอบของความประหลาดใจ ด้วยการดึงดูดความสนใจและสร้างความฮือฮา แคมเปญการตลาดแบบกองโจรของคุณจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ดึงดูดใจคนหมู่มาก และขับเคลื่อนแบรนด์ของคุณไปสู่จุดสูงสุดใหม่
รูปแบบหลักของ Guerrilla Marketing
Ambient : เป็นวิธีการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยใช้สถานที่และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อประโยชน์ในฐานะช่องทางการสื่อสาร มักเกี่ยวข้องกับการส่งข้อความโฆษณาที่สร้างสรรค์ สร้างความดึงดูดใจให้กับผู้บริโภค
Core Concept : เน้นการกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่ออะไรก็ตาม
Ambush : เป็นกลยุทธ์ที่นำมาใช้โดยบริษัทหรือแบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากแคมเปญการตลาดของผู้อื่นเพื่อให้เป็นที่รู้จักและได้ประโยชน์จากคู่แข่ง
Core Concept : เน้นซุ่มยิงแบบสไนเปอร์ โจมตีคู่แข่ง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม Guerrilla Marketing จะอาศัยการบอกต่อ Buzzword หรือ การกล่าวถึงในโลกออนไลน์ Viral เพื่อกระจายต่อในกลุ่มผู้บริโภค
สมการ Guerrilla Marketing
Guerrilla Marketing = Blue Ocean x Insight x Wow Factor
= ต้องใหม่ยังไม่มีใครทำ x ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย x สร้างความประหลาดใจ
วิธีการคิดกลยุทธ์ Guerrilla Marketing
⁃ Target กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร
⁃ Insight มีความสนใจ หรือ pain point อะไร
⁃ Perception / Realtime กลุ่มเป้าหมายมีสิ่งที่รับรู้อยู่เดิมอะไรบ้าง สถานการณ์ปัจจุบันที่น่าสนใจเอามาเล่น
⁃ Message ที่อยากจะสื่อสารคืออะไร
⁃ WoW Factor อะไรที่ทำให้น่าสนใจ
ส่วนผสมลับที่ปลดล็อกความสำเร็จของการตลาดแบบกองโจร!
1.Shock and Awe ความตกใจและความหวาดกลัว: องค์ประกอบของความประหลาดใจคือกุญแจสำคัญ แคมเปญการตลาดแบบกองโจรที่ประสบความสำเร็จสร้างความประทับใจให้กับผู้คน พวกเขาท้าทายแบบแผน ฝ่าเสียงรบกวน และเรียกร้องความสนใจ
2.Emotional Connection การเชื่อมต่อทางอารมณ์: แคมเปญกองโจรที่ดีที่สุดดึงหัวใจหรือขำจนกระดูกสั่น พวกเขาทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ ความอยากรู้อยากเห็น ความคิดถึง หรือการเอาใจใส่ การเชื่อมต่อในระดับอารมณ์จะสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนและสร้างความผูกพันกับแบรนด์
3.Amplified Shareability ขยายความสามารถในการบอกต่อ: การตลาดแบบกองโจรเติบโตบนการแบ่งปันทางสังคม การสร้างประสบการณ์หรือเนื้อหาที่สามารถแชร์ได้สูง ดึงดูดสายตา หรือยั่วยุทางสังคมจะเพิ่มการเข้าถึงของแคมเปญแบบทวีคูณ เนื่องจากผู้คนไม่สามารถต้านทานการแบ่งปันความตื่นเต้นได้
4.Localization and Contextualization การปรับให้เข้ากับท้องถิ่นและบริบท: แคมเปญกองโจรที่ประสบความสำเร็จใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมท้องถิ่น เหตุการณ์ปัจจุบัน หรือสถานที่เฉพาะเพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ การเชื่อมต่อกับบริบททำให้แคมเปญมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพ
5.Buzz-Worthy Experiences ประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับการบอกต่อ : แคมเปญการตลาดแบบกองโจรมักจะสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและลงมือปฏิบัติจริงซึ่งดึงดูดผู้ชมอย่างแข็งขัน เมื่อผู้คนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว พวกเขาจะกลายเป็นผู้สนับสนุน แบ่งปันประสบการณ์และส่งเสริมการบอกต่อแบบปากต่อปาก
6.Targeted Guerrilla Warfare : การระบุและกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ แคมเปญการตลาดแบบกองโจรมุ่งเน้นไปที่กลุ่มและกลุ่มเฉพาะ ปรับแต่งแนวทางของพวกเขาให้โดนใจผู้ชมเป้าหมาย
7.Unforgettable Branding การสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำ: การสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำเป็นจุดเด่นของแคมเปญกองโจรที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการผสานรวมองค์ประกอบของแบรนด์ โลโก้ หรือสโลแกนเข้ากับแคมเปญอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แบรนด์กลายเป็นสิ่งที่แยกออกจากประสบการณ์ไม่ได้ และทิ้งความประทับใจไว้ไม่รู้ลืม
8.Seizing the Moment คว้าช่วงเวลา: เวลาคือทุกสิ่ง แคมเปญการตลาดแบบกองโจรใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาทางวัฒนธรรม หัวข้อที่กำลังเป็นกระแส หรือความรู้สึกที่เป็นกระแสนิยมเพื่อกระตุ้นความสนใจของสาธารณชนและได้รับการเปิดเผยสูงสุด
9.Authenticity and Relevance ความ Real และความเกี่ยวข้อง: ความRealเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการตลาดแบบกองโจร แคมเปญที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์และสื่อสารข้อความที่แท้จริงมักจะโดนใจผู้ชมมากขึ้น
10.Flexibility and Agility ความยืดหยุ่นและความคล่องตัว: แคมเปญกองโจรต้องการความสามารถในการปรับตัวและการตอบสนอง ความสามารถในการปรับเปลี่ยน ทำซ้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพตามความคิดเห็นและผลลัพธ์ตามเวลาจริงเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความสำเร็จสูงสุด
สุดท้ายนี้ผมอยากให้ทุกท่านน้อมรับจิตวิญญาณของการกบฏ คิดอย่างสร้างสรรค์ และปลดปล่อยพลังการตลาดแบบกองโจรของคุณเพื่อสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับโลก!
จุดเริ่มต้นของ Guerrilla Marketing มาจากกลศึกในสมัยก่อน ที่ฝ่ายที่มีกำลังน้อยกว่าต้องสร้างความประหลาดใจแก่ทัพคู่แข่งเพื่อที่จะชนะศึกให้ได้ โดยมีตัวอย่าง ดังนี้
ฮันนิบาล (Hannibal) เป็นแม่ทัพชาวคาร์เธจ (Carthage) ที่เริ่มต้นชีวิตนักรบอันน่าจดจำตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ เมื่อเขามีอายุเพียงหกปี คาร์เธจ อันเป็นอาณาจักรของชาวฟินิเชียและเป็นมหาอำนาจทางการค้าและการทหารในแอฟริกาเหนือพ่ายแพ้แก่โรมันในสงครามพิวนิกครั้งแรกเมื่อ 241 ปีก่อนคริสตกาล บิดาของเขา ฮามิลการ์ บาร์กา (Hamilcar Barca) เป็นแม่ทัพและรัฐบุรุษที่ไม่พึงพอใจในสนธิสัญญาสงบศึกกับโรมัน ซึ่งทำให้คาร์เธจต้องเสียทั้งอาณานิคมซิซิลี และต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้โรมัน นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันได้บันทึกไว้ว่า ฮามิลการ์สั่งให้ฮันนิบาลในวัยเยาว์สาบานเลือดว่าจะจองเวรกับโรมันตราบชั่วชีวิตของเขา
ในสงครามพิวนิกครั้งที่สอง เมื่อ 218 ปีก่อนคริสตกาล ในสงครามครั้งนี้ ฮันนิบาลได้สร้างตำนานจากกลยุทธ์อันบ้าบิ่น Guerrilla Marketing โดยการนำกองทัพกว่า 40,000 นายและช้างศึกอีกหลายเชือกบุกข้ามเทือกเขาแอลป์ ซึ่งยังผลให้เขาต้องสูญเสียทหารไปเกือบครึ่งหนึ่งเนื่องจากสภาพภูเขาอันโหดร้ายทารุณ ช้างศึกที่รอดชีวิตมาได้ถูกนำมาใช้เสมือนรถถังในการรบยุคปัจจุบัน ด้วยการใช้ขนาดอันใหญ่โตของพวกมันบุกทะลวงแนวรบของศัตรู ลิวี (Livy) นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันบันทึกถึงสิ่งนี้ว่า “ส่วนหน้าสุดของกองทัพคาร์เธจประกอบไปด้วยทหารม้าและช้างศึก ส่วนฮันนิบาลอยู่ในแนวหลังกับทหารราบบางส่วน เพื่อจับตาดูสถานการณ์และเตรียมรับมือกับเหตุฉุกเฉินทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น”
การรุกรานของฮันนิบาลในครั้งนี้ทำให้ชาวโรมันตกตะลึง ในการยุทธที่ Cannae เมื่อ 216 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพของเขาขยี้กองทัพโรมจนย่อยยับ เขาพลิกวิกฤตเป็นโอกาสโดยการถอนกำลังตรงกลางแนวรบ ซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตราย มาใช้สร้างแนวตีโอบ สิ่งนี้ทำให้ทหารโรมันซึ่งกำลังบุกโจมตีถูกขนาบข้างและถูกล้อม การดำเนินกลยุทธ์ครั้งนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์การทหาร และยุทธการที่ Cannae ยังเป็นหนึ่งในการรบที่นองเลือดที่สุดสำหรับกองทัพใดๆ ในยุโรป ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดียว
สงครามเวียดนาม : กองทัพประชาชนเวียดนามซึ่งได้รับการสนับสนุนและอิทธิพล จากขบวนการเวียดมินห์ (Việt Minh) มีส่วนสำคัญในการจัดตั้งแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนาม ใต้เพื่อแทรกแซงและต่อต้านรัฐบาลของโงดินห์เดียม (Ngô Đình Diệm) และสหรัฐอเมริกาใน เวียดนามใต้โดยใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจรและยุทธวิธีการระดมพล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่นำไปสู่ ความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม
เหมา เจ๋อตง : เป็นนักยุทธศาสตร์การทหารที่ทั่วโลกยอมรับ กลศึกของท่านเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา หลายกลศึกถูกนำมาศึกษา เรียนรู้ ถอดรหัสแห่งชัยชนะ ว่าท่านทำได้อย่างไร อย่างเช่นคำกล่าวที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ว่า “เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตี เอ็งหนี ข้าตาม” ซึ่งหลายคนนำไปปรับใช้ในโลกธุรกิจ โลกการเงินการลงทุน และก็หลายคนเช่นกันที่ไม่ทราบว่า คำนี้มีที่มาอย่างไร หมายความว่าอย่างไร
ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือกลยุทธิ์ในสงครามกองโจรกลยุทธิ์ 16 คำของเหมา เจ๋อตง ซึ่งหมายถึงการฉกฉวยโอกาสจากคู่ต่อสู้ในทุกวินาที ซึ่งหมายความอยู่ในคำที่กล่าวมาชัดเจนแล้วคือศัตรูอย่าผิดพลาด พลาดเมื่อไหร่ จะกลายเป็นโอกาสของเราทันที เป็นลูกล่อลูกชนที่ส่งผลถึงชัยชนะ
กลศึกเหมา เจ๋อตง คือ หลักวิธีการ หรือกลยุทธ์ที่ต้องใช้อุบายอันหลากหลาย และต้องสุขุมรอบคอบ ไม่รบก็แล้วไป แต่ถ้ารบต้องชนะ การศึกษาต้องพลิกแพลงได้ตลอดเวลา จึงจะกุมชัยชนะไว้ได้ เหนือสิ่งอื่นใด
Ref : https://ngthai.com/history/19818/hannibal/
https://www.paperyard.co/product-page/9786163884442
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี