TEXT : กองบรรณาธิการ
Mai Idea
พาส่อง 4 ไอเดียคิดนอกกรอบ ดักลูกค้าให้เข้าร้าน
1. ซื้อกาแฟ ลุ้นโชคกินฟรีตลอดปี
2. เปลี่ยนซองกาแฟให้เป็นงานศิลปะ
3. สร้างคอนเซปต์กวน ดักลูกค้าให้อยากมาลองชิม
4. ปรับแพ็กเกจจิ้งให้เป็นของสะสม นำไปใช้งานต่อได้
หนึ่งในธุรกิจยอดฮิตของบ้านเราคงไม่พ้น ร้านกาแฟ ที่มีให้เห็นกันทั่วทุกตรอก ซอก ซอย ไม่ต้องบอกว่าการแข่งขันจะรุนแรงแค่ไหน นอกจากร้านสวย หรือรสชาติแล้ว ยังมีอะไรที่จะดึงดูลูกค้า SME Thailand Online จะพาไปดูไอเดียดึงดูดใจหรือเรียกลูกค้าเข้าร้านแบบไม่เหมือนใคร เป็นการคิดนอกกรอบให้น่าลองนำไปประยุกต์ใช้กันด้วย
ซื้อกาแฟ ได้ลุ้นลอตเตอรี่กินฟรีตลอดปี
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยกับการเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคเป็นของคู่กัน ด้วยเหตุนี้ “Roast Runner” ร้านกาแฟและโรงคั่วย่านทวีวัฒนา จึงนึกสนุกนำมาสร้างเป็นไอเดียเรียกลูกค้า ด้วยการจัดทำเป็นแผงลอตเตอรี่ให้ลูกค้าได้ชิงโชค หากซื้อกาแฟหรือสินค้าภายในร้านครบ 500 บาท มีสิทธิลุ้นจับลอตเตอรี่ได้ 1 ใบ โดยมีรางวัลใหญ่สูงสุด คือ ได้ลุ้นกินกาแฟฟรีตลอด 1 ปีจากทางร้าน นอกจากโชคชั้นแรกแล้ว ยังได้ลุ้นโชคชั้นที่สอง หากเลขสลากตรงกับรางวัลเลขหน้าและเลขท้าย 3 ตัวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่ 16 ก.ค. 66 ตรงกับวันสุดท้ายที่จัดงานพอดี เรียกว่าเป็นไอเดียเจ๋งๆ ที่หยิบเอาความชอบคนไทยมาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัวจริงๆ
เปลี่ยนซองกาแฟให้เป็นงานศิลปะ เอาใจเหล่า FC กับศิลปินในดวงใจ
เคยนึกไหมว่ากาแฟกับงานศิลปะจะกลายเป็นเรื่องเดียวกันได้ ไอเดียเรียกลูกค้านี้เป็นของร้าน “Any Owl Any Minute” ที่เปลี่ยนจากซองกาแฟสีขาวธรรมดาให้เป็นเสมือนเฟรมวาดภาพจากเหล่าศิลปินร่วมสมัย ทั้งนักวาดภาพ คนทำงานกราฟฟิก ทำให้จากซองกาแฟที่ใช้แล้วทิ้งกลายเป็นของสะสม บางชิ้นเป็น Limited edition ที่ออกแบบมาเฉพาะงานนั้นๆ หมดแล้วหมดเลย ทำให้นอกจากจะได้ฐานแฟนคลับกาแฟ ยังได้ฐานลูกค้าจากเหล่า FC แฟนคลับของศิลปินที่ตามมาเก็บสะสมผลงาน ไม่ต่างจากการช่วยอุดหนุนสินค้าศิลปินยังไงยังงั้นเลย เรียกว่าได้ชิมทั้งรสชาติกาแฟดีๆ และเสพงานศิลป์พร้อมกันไปด้วย
สร้างคอนเซปต์กวน ดักลูกค้าให้อยากมาลองชิม
ปกติแล้ว เวลาอธิบายรสชาติ หรือกลิ่นหอมของกาแฟ เรามักนึกไปถึงพืชพันธุ์ต่างๆ ตามถิ่นที่ปลูก เช่น ผลไม้ หรือดอกไม้ต่างๆ จะทำสื่อสารยังไงให้คนเข้าใจคุณสมบัติพิเศษของกาแฟได้ดียิ่งขึ้น “Sleep Enemy” ร้านกาแฟและโรงคั่วเล็กๆ ย่านสะพานควายจึงคิดคอนเซปต์สุดแหวก แถมใส่ความกวนลงไปนิดๆ ด้วยลองเปรียบเทียบกลิ่นกาแฟกับอาหารหรือสิ่งของใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมหรือจินตนาการได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น “กาแฟหมูกระทะเบลน” ที่นำเมล็ดกาแฟนำเข้า 9 ชนิดมาคั่วรวมกัน หรือ “กาแฟกลิ่นตีน” ที่ถอดมาจากประสบการณ์ส่วนตัวจากครั้งแรกที่ได้ลองดมเมล็ดดิบ จนเมื่อนำมาคั่ว และลองชงชิม กลับได้เป็นกาแฟรสชาติดี แปลกไม่เหมือนใคร จึงนำมาสร้างคอนเซปต์ที่ฉีกออกไป เพื่อดักลูกค้าเข้าร้านให้เกิดความสงสัย จนอยากทดลองชิมนั่นเอง
ปรับแพ็กเกจจิ้งให้เป็นของสะสม นำไปใช้งานต่อได้
ไอเดียสุดท้ายที่จะนำมาเหล่าให้ฟัง คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มของแพ็กเกจจิ้งด้วยรูปแบบการใช้งานแบบใหม่ที่ฉีกไปจากเดิม ด้วยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์กาแฟให้กลายเป็นของที่ระลึก หรือของสะสมที่หากใช้งานหมดแล้ว สามารถเก็บนำมาใช้ต่อได้ เหมือนเช่น ไอเดียกล่องบรรจุเมล็ดกาแฟของร้าน “Calico Koff” ที่เปลี่ยนรูปแบบจากซองให้กลายเป็นกล่องพลาสสติกใส ตกแต่งด้วยรูปแบบกราฟฟิกที่ทางร้านออกแบบเอง ดูคล้ายกับเทปคลาสเซตสมัยก่อนยังไงยังงั้น จะซื้อไปเป็นของฝาก ของที่ระลึก หรือสะสมเอาไว้ใช้ก็ได้ เท่ไม่เบาเลย
เห็นไหมล่ะว่า ถึงจะขายกาแฟ แต่ก็สามารถหาลูกเล่น หรือวิธีการขายที่แตกต่างไปจากเดิมได้ สิ่งสำคัญขอเพียงอย่าทิ้งมาตรฐานคุณภาพที่มี นำมาใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ลงไป เราอาจเจอรูปแบบการดึงดูดความสนใจลูกค้าใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้ ใครอยากลองหาไอเดียใหม่ๆ ให้กับสินค้าของตัวเอง จะลองนำไปปรับใช้ดูก็ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี