ในการทำธุรกิจหลายคนอาจคิดว่า ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตต้องทำการตลาดแบบจัดหนักๆ ใช้เงินเยอะๆ เพื่อสู้กับคู่แข่ง แต่มันอาจไม่ใช่เสมอไป วันนี้เราจึงได้รวมรวบวิธีการทำการตลาดสำหรับคนตัวเล็ก ที่สามารถโตได้ไม่ต้องลงทุน เป็นเคสจริงที่เกิดขึ้นและมีการแชร์ในโลกออนไลน์ ทำแล้วได้ทั้งยอดขายบางรายก็กลายมาเป็นลูกค้าประจำ มาดูว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง
การตลาดแบบใช้ใจ
การตลาดชิ้นแรกขอเริ่มจากร้านน้ำชงร้านหนึ่งที่มีหลอดให้ลูกค้าเลือกมากมากหลายสี แต่มีลูกค้ารายหนึ่งที่เป็นมักหยิบแต่หลอดสีฟ้า ทำให้เจ้าของร้านที่ใส่ใจลูกค้าก็เกิดความสงสัย จึงถามกลับไปด้วยความห่วงใยว่า ทำไมชอบหลอดสีฟ้า
“เวลากินน้ำด้วยหลอดสีที่ชอบมันมีความสุข” นี่คือคำตอบที่เจ้าของร้านได้กลับมา
หลังจากวันนั้นเจ้าของร้านก็หยิบหลอดสีฟ้าที่ลูกค้าคนนี้ชอบให้ทุกครั้ง
ใครจะไปรู้ว่าการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ของป้าร้านขายน้ำ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างมากมาย
“เป็นการสร้างประสบการณ์ที่เกินความคาดหวังจากลูกค้า รับรองได้ว่าร้านของป้าคนนี้ต้องมีลูกค้าชอบหลอดสีฟ้าเป็นลูกค้าประจำอย่างไม่ต้องสงสัย”
ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ @cewlixm เขาเป็นลูกค้าประจำของร้านน้ำชงร้านหนึ่ง และเลือกหลอดเองบางครั้ง ป้าคนขายก็เลยถามเขาว่าทำไมชอบหลอดสีฟ้า เขาก็ตอบกลับไปว่าเวลากินน้ำด้วยหลอดสีที่ชอบมันมีความสุข หลังจากวันนั้นป้าก็หยิบหลอดสีฟ้าที่เขาชอบให้ตลอดเลย ใครจะไปรู้ว่าการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ของป้าร้านขายน้ำ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
“เป็นการสร้างประสบการณ์ที่เกินความคาดหวังจากลูกค้า รับรองได้ว่าร้านของป้าคนนี้ต้องมีลูกค้าชอบหลอดสีฟ้าเป็นลูกค้าประจำอย่างไม่ต้องสงสัย”
ลงทุนด้วยคำพูด
อีกหนึ่งการตลาดที่ไม่ต้องลงทุนมากมายก็คือ การพูดจาน่ารักๆ กับลูกค้าทุกวัน เหมือนกับเจ้าของร้านข้าวแกงที่มักทักทายและพูดจากับลูกค้าประหนึ่งญาติมิตรจนลูกค้าท่านหนึ่งเก็บความประทับใจไม่ไหวได้ทวิตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า บางทีการได้เจอคุณป้าคุณลุงร้านขายข้าวที่ใจดีมากๆ พูดจาน่ารักๆ ก็เหมือนเป็นการฮีลใจเหมือนกันนะ เป็นคนที่ไม่รู้จักไม่สนิทแต่ช่วยให้วันนั้นสดใสได้เหมือนกัน
“แค่การพูดจาน่ารักกับลูกค้า นอกจากจะทำให้ลูกค้ามีความสุขแล้ว ยังเป็นเสน่ห์ทำให้ลูกค้ากลับมาร้านคุณบ่อยๆ เพราะคุณไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่คุณยังช่วยฮีลใจลูกค้า บางทีความสุขก็เกิดจากสิ่งเล็กๆ”
แก้ไขปัญหาให้ลูกค้า
ข้อนี้เป็นการแก้ Pian Point ให้ลูกค้า เมื่อคุณรู้ว่าลูกค้ามีปัญหาหรือต้องการอะไร ณ เวลานั้น ก็แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า และมันจะสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าด้วย ดูตัวอย่างได้จากเคสนี้
ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ @Kooky_ppm ได้สั่งอาหารผ่าน Food Delivery ซึ่งวันนั้นที่เขาสั่งน้ำที่บ้านไม่ไหล แต่อยากกินยำ เขาจึงสั่งเผ็ดน้อย และได้เขียนในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เผ็ดน้อยมากๆ เพราะที่บ้านน้ำไม่ไหล แม่ค้าเขาก็เลยแถมน้ำมาให้
จะเห็นได้ว่าปัญหาของลูกค้า คือ อยากกินยำ สั่งเผ็ดน้อย เพราะน้ำที่บ้านไม่ไหล สิ่งที่แม้ค้าแก้ไขปัญหาก็คือ แถมน้ำให้ ซึ่งแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ส่งผลให้ลูกค้าประทับใจจนบอกต่อลงสื่อโซเชียล
“แม้มันอาจเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ อาจกลายเป็นความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับลูกค้าได้ แถมยังอาจเป็นไวรัลช่วยบอกต่อร้านให้ลูกค้ามาอุดหนุนกันเยอะๆ ด้วยนะ”
การตลาดใช้ความรู้สึก หลังปิดการขาย
การตลาดข้อสุดท้ายนี้ เป็นการตลาดหลังการขาย เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ต้นจนจบการซื้อขาย ตัวอย่างจากเคสนี้ เป็นการเซอร์ไพรส์ให้ลูกค้าหลังการขาย โดยการเขียนจดหมายขอบคุณลูกค้า จนลูกค้าประทับใจจนต้องประกาศให้ชาวทวิตเตอร์ได้รับรู้
ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ @yoxrgravity ได้ทวิตข้อความพร้อมรูปจดหมายที่พ่อค้าร้านโปสเตอร์เขียนมาให้ เขาก็แอบตกใจนิดหนึ่ง ที่เขาซื้อโปสเตอร์มาแค่ใบเดียว แต่แถมจดหมายเขียนด้วยลายมือน่ารักๆ กลับมาด้วย ซึ่งเขาประทับใจมาก
เรื่องนี้สุขทั้งคนให้และคนรับ ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ อาจเป็นเสน่ห์ของร้านเล็กๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เห็นได้จากการนำไปโพสต์บอกต่อ ทำให้มีคนไปซัพพอร์ตร้านเล็กๆ สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยฮีลคุณพ่อค้าได้เหมือนกัน
“ความสุขจากการขายของไม่ใช้ตัวเงินทั้งหมดหรอก บางครั้งก็มีความสุขจากการได้สื่อสารกับลูกค้านี่แหละ”
เรื่องสุดท้ายขอแถมให้ละกัน เป็นเรื่อง ส่งต่อความประทับใจ จากแม่ค้าสู่ลูกค้า
ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ @_idkpy เขาได้สั่งก๋วยเตี๋ยวผ่าน Food Delivery ตลอดระยะเวลาที่เขาเรียน คุณป้าร้านก๋วยเตี๋ยวอยากเจอลูกค้าคนนี้ และเนื่องจากที่ไรเดอร์เขาสนิทกับคุณป้า จึงพิมพ์ไปบอกลูกค้าให้ว่าถ้ามีโอกาสลองมีกินที่ร้านป้าเขาสักครั้ง เพราะป้าเขาอยากเจอ เขาประทับใจมากก็เลยออกมาขอบคุณคุณป้าที่ทำของอร่อยให้เขากินจนเรียนจบ ซึ่งเป็นการส่งต่อความประทับใจที่แฮปปี้ทั้งลูกค้าและแม่ค้า
“รสชาติ + บริการแบบนี้ คงเป็นขวัญใจชาวหอไม่ยาก”
บางทีการตลาดอาจแฝงอยู่ในขีวิตประจำวันที่คุณก็ทำได้โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินทองก้อนโต
TEXT: Momo
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี