เพราะโลกทุกวันนี้ คือ การสื่อสาร หลายธุรกิจจึงพยายามแข่งขันกันที่การสร้างคอนเทนต์ให้ดัง ให้ปังกว่า เพื่อหวังว่าให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อคนเห็นเยอะขึ้น ก็จะได้กลับมาซื้อสินค้าเราเยอะขึ้น แต่ความจริงแล้วเป็นแบบนั้นจริงไหม หรือคุณอาจกำลังหลงทางอยู่ ลองมาเช็คลิสต์ตัวเองและทำความรู้จักกับการทำคอนเทนต์อย่างแท้จริงกับ ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง ผู้ก่อตั้ง Dots Consultncy กูรูนักการตลาดด้านคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่จะมาช่วยขยี้ให้คุณเข้าใจการทำคอนเทนต์ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายได้กัน
ปัญหาในการทำคอนเทนต์วันนี้ของผู้ประกอบการ
- สื่อสารยังไงให้ขายของได้
- ยิ่งแอดแล้วเงียบ ไม่มีคนทักมาเลย
- ทำยังไงให้แบรนด์เป็นที่จดจำ ฯลฯ
- สรุปสิ่งที่ทุกธุรกิจอยากได้ คือ “ยอดขายที่เพิ่มขึ้น”
โดยก่อนจะถามว่าทำยังไงให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ เราต้องรู้ก่อนว่าการจะขายสินค้าได้ในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่งไม่ได้เกิดจากข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น แต่มาจากหลายๆ ข้อรวมกัน เช่น สินค้าดี แต่โปรโมตไม่ดี ก็ขายไม่ได้ หรือสินค้าไม่ดี แต่โปรโมตดี ก็ขายไม่ได้อีกเช่นกัน หรือสุดท้ายโปรโมตดี สินค้าดี แต่มีคนดีกว่า ก็ขายไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งความจริงแล้วการทำคอนเทนต์ คือ เครื่องมือที่เป็นปลายทางมากๆ ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขทุกอย่างได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ เราจะสามารถนำคอนเทนต์มาสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจในจุดใด และอย่างไรได้บ้างต่างหาก
Content Selling ทำยังไงให้ขายได้ หรือขายได้เพิ่มขึ้น?
ก่อนที่ถามว่าทำคอนเทนต์ยังไงให้ขายของได้ ลองถามในมุมกลับดูก่อนว่า
การจะขายสินค้าได้สักอย่างหนึ่ง คุณต้องรู้อะไรบ้าง
ตอบ : ลูกค้า คือ ใคร ใครบ้างต้องการสินค้าของเรา, ต้องการอะไร, มีพฤติกรรมความชอบยังไง, จุด ขายสินค้าของเรา คือ ใคร
แล้วทำไมเขายังไม่ซื้อคุณล่ะ?
ตอบ : เพราะไม่มั่นใจคุณภาพสินค้า (เพราะอะไร แบรนด์ใหม่ไปหรือเปล่า)
เพราะเขาไม่รู้จักสินค้า (แล้วถ้ารู้จักจะซื้อไหม)
เพราะแพง (แล้วถ้าทำราคาถูก แล้วเขาจะซื้อไหม)
สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องถามต่อ แล้วตอบตัวเองให้ได้ เช่น มีสินค้าอยู่มากมายที่แม้แพงกว่า แต่เราก็ยินดีจ่าย เพราะอะไรต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน บางทีต่อให้เป็นสินค้าแบบเดียวกันเลย แต่ชิ้นหนึ่งนำเข้าจากบริษัทที่อยู่ต่างประเทศโดยตรง กับอีกชิ้นมีบริษัทตัวแทนอยู่ในไทยนำเข้ามา ถึงจ่ายแพงกว่า แต่ลูกค้าอาจยินดีจ่ายมากกว่า เพราะมองถึงบริการหลังการขาย รู้ว่าหากสินค้ามีปัญหาจะสามารถติดต่อให้ช่วยแก้ไขได้ที่ใคร เราต้องมองให้ออกเพื่อจะได้รู้ว่าต้องสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร และอะไร คือ จุดเด่น จุดขายที่เราจะนำออกมาพูดบอกลูกค้า
เข้าใจลูกค้า แล้วมาสื่อสารให้ได้
โดยในที่นี้ลูกค้าแต่ละคนก็มีความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างกันไปอีก ดังนั้นต้องรู้เหตุผลที่แท้จริงให้ได้ว่าการที่เขาไม่ตัดสินใจเลือกเราเพราะอะไร แล้วจึงทำคอนเทนต์นั้นขึ้นมาเสริม
ยกตัวอย่าง
ไม่ซื้อ เพราะไม่รู้จัก หน้าที่ คือ ต้องทำคอนเทนต์ให้คนรู้จัก
ไม่ซื้อ เพราะไม่เห็นคุณค่า หน้าที่ คือ ต้องทำคอนเทนต์ให้เขาเห็นคุณค่าของสินค้าเรา
รู้จัก เห็นคุณค่า แต่คิดว่าไม่จำเป็น หน้าที่ คือ ต้องทำคอนเทนต์ให้เขาเห็นความจำเป็นในการ เลือกซื้อสินค้าให้ได้
แต่การทำธุรกิจเราไม่ได้เจอเพียงแค่ปัญหาเดียวเท่านั้น ดังนั้นต้องแยกให้ออกว่าสิ่งที่เราเจอนั้น คือ โรค หรือแค่อาการ เพราะสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญและแก้ไขเร่งด่วน ก็คือ โรค
โดยก่อนที่รู้ว่าจะต้องทำการตลาดยังไง ใช้เทคนิควิธีการอะไร ผ่านช่องทางไหน เช่น ติ๊กต๊อก, เฟซบุ๊ก สิ่งที่เราต้องรู้ก่อน ก็คือ กลยุทธ์ ซึ่งกลยุทธ์ต่างๆ ก็มาจากปัญหา จากความต้องการของลูกค้านั่นเอง
ลูกค้า » กลยุทธ์ » เทคนิค / วิธีการ
ทำคอนเทนต์ยังไงโดนใจลูกค้า?
ก่อนที่จะถามว่าทำคอนเทนต์ยังไงให้โดนใจลูกค้า ปัญหาที่ธุรกิจส่วนใหญ่เจอ ก็คือ ยังไม่รู้เลยว่าลูกค้าที่แท้จริงของตัวเองนั่นเป็นใคร
ยกตัวอย่างเช่น บางคนอาจบอกว่ากลุ่มลูกค้าของพวกเขา คือ คนรักสุขภาพ แต่เอาเข้าจริงคนที่กินเหล้า สูบบุหรี่ ก็รักสุขภาพของตัวเองเช่นกัน ไม่ว่าใครก็รักตัวเอง ไม่อยากเจ็บป่วยด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าการรักสุขภาพของคนกลุ่มนั้น คือ อะไร เป็นแบบไหน หรืออีกตัวอย่างเช่น การที่พ่อแม่ส่งลูกไปเรียนพิเศษ ความจริงแล้วก็มีหลายเหตุผลด้วยกัน อาทิ บางคนอาจมีปัญหาสอนลูกไม่ได้, ลูกสอบตก, ลูกเรียนไม่เก่ง หรือจริงๆ แล้วพ่อแม่อาจอยากมีเวลาว่างบ้าง เลยส่งลูกไปเรียนก็ได้ ดังนั้นหน้าที่จริงๆ ของคุณอาจไม่ใช่การสอนหนังสือ แต่คือ การเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องสื่อสารออกไป อาจไม่ใช่ถ้าลูกเขามาเรียนแล้วจะเก่งนะ แต่อาจเป็นถ้าเรียนที่นี่แล้วลูกคุณจะสนุกนะ ลูกคุณจะชอบนะ เพราะถ้าไม่ชอบขึ้นมา ก็จะไม่อยากเรียนต่อ พ่อแม่ก็ไม่มีเวลาว่าง เป็นต้น
อีกปัญหาสำคัญของคนทำธุรกิจ ก็คือ โฟกัสลูกค้าผิดคน เพราะหลายครั้งที่คนที่คุณอยากได้เป็นลูกค้า เขาอาจไม่ได้อยากมาเป็นลูกค้าของคุณ แต่คนที่คุณไม่ได้คาดหวังไว้ กลับเป็นลูกค้าตัวจริงที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของคุณ ดังนั้นต้องวิเคราะห์ให้ดี
ปัญหาการทำคอนเทนต์ที่พบบ่อย
- ทำตามๆ กัน โดยไม่เข้าใจว่าที่ทำเพราะอะไร หรือทำกับลูกค้ากลุ่มไหน
- สนตัวเลข อยากได้ไลค์ แชร์เยอะๆ เพราะคิดว่าจะทำให้คนซื้อเยอะขึ้น
- คอนเทนตที่ทำมา ไม่ได้เกี่ยวกับลูกค้าเลย
คนส่วนใหญ่ตอนนี้เข้าใจว่าการสร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง คือ การพยายามสร้างคอนเทนต์ในสื่อของเราให้มีคนติดตามเยอะๆ ให้มีคนชอบ แต่จริงๆ คือ ไม่ใช่เลย นั่นคือ ความคิดของคนที่ไม่เข้าใจ จริงๆ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าจะขายของ เขาจะมาซื้อคุณเพราะอะไร
สื่อสารยังไงให้ได้ผล
- คุยกับคนที่ใช่
- คุยด้วยสื่อที่ใช่
- คุยด้วยเรื่องที่ใช่
ทำคอนเทนต์จำเป็นต้องปัง ต้องสวยจริงไหม?
สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนพลาด ก็คือ หลายคนมักคิดว่าการทำคอนเทนต์ให้ดังให้ปัง จะทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งความจริงแล้วไม่จำเป็นเลย การที่จะรู้ได้ว่าคุณควรทำให้คนเห็นมากที่สุดแค่ไหน ลองเริ่มจากตั้งเป้าถึงยอดขายหรือสิ่งที่ต้องการก่อนว่าคุณต้องการในแต่ละครั้งเท่าไหร่ อาทิ หากอยากขายเสื้อได้สักพันตัว จริงๆ คนที่ควรจะมองเห็นเสื้อผ้าเราอาจแค่ 5 หมื่นคนก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องให้เห็นมากเยอะๆ เกินจำเป็น
อีกข้อ คือ การทำคอนเทนต์จำเป็นต้องสวยไหม อยากให้ลองดูที่ใบปลิวของห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ ซึ่งกลุ่มลูกค้า คือ พ่อบ้านแม่บ้าน เพื่อมาซื้อของใช้เข้าบ้าน เขาไม่ได้ต้องการประสบการณ์พิเศษอะไรมากไปกว่าการรู้ข้อมูลของสินค้า หากเราทำโบว์ชัวร์สวยแบบเลิศหรูเหมือนห้างใหญ่ๆ อาจเป็นการสื่อสารที่ผิดวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมายของลูกค้า ณ เวลานั้นได้
คอนเทนต์สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?
ข้อมูล » ความรู้สึก » ความเชื่อ » พฤติกรรม
คนเราส่วนใหญ่มักจะเริ่มเชื่ออะไรจากข้อมูล จากนั้นก็เป็นเรื่องความรู้สึก ประสบการณ์ที่ได้ยินมา สุดท้ายก็จะส่งผลต่อพฤติกรรม รูป รส กลิ่น เสียง ประมวลผลทำให้เราเชื่อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากธุรกิจสามารถแทรกอยู่ในกระบวนการเหล่านี้ที่เป็นชีวิตประจำวันของลูกค้าตนเองได้ โดยการสร้างคอนเทนต์ เราก็จะสามารถโน้มน้าวให้เขาเกิดความคล้อยตาม มาเป็นลูกค้าของเราในที่สุดได้ แต่อย่าลืมว่าลูกค้าคนหนึ่งไม่ได้มีแค่ความเชื่อเดียว และทุกความเชื่อไม่ได้สำคัญต่อธุรกิจเราทั้งหมด ควรเลือกความเชื่อที่ส่งผลต่อธุรกิจเรามากที่สุด และนำมาสื่อสารออกไป ถ้าตีถูกจุด เข้าเป้า ทุกอย่างก็จบ ชนะใจลูกค้าไปแบบเต็มๆ ได้
ขอเชิญผู้ประกอบการ SME ร่วม “สัมมนา ยกระดับ-ปรับกลยุทธ์-ฟื้นฟูธุรกิจ 10 Ways to improve your business“ กับ 10 กูรูมืออาชีพชั้นนำ โดยกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อมรบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!!! ผ่านระบบ Zoom Meeting
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/10waystoimproveyourbusiness/
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08-4555-0802
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี