ในยุคหนึ่งอาชีพราชการเคยเป็นที่ใฝ่ฝันของใครต่อใครหลายคน แต่มาถึงยุคนี้อย่าว่าแต่อาชีพราชการ หลายๆ อาชีพที่เคยเป็นคณะยอดนิยมในมหาวิทยาลัยก็ยังเปลี่ยนไป และนอกรั้วมหาวิทยาลัยก็มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายทุกวันนี้
ฉะนั้นในแวดวงธุรกิจเองก็มีทั้งธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งและดาวร่วง ว่าแล้วก็มาอัปเดตธุรกิจดาวรุ่งปี 2565 ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ จากฐานข้อมูลทางธุรกิจที่มีอยู่ ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ และข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอก ได้ข้อสรุปว่ามีธุรกิจน่าจับตามองและเป็นธุรกิจดาวเด่นในปี 2565 รวม 10 ธุรกิจ ที่มีแนวโน้มการเติบโตได้ดีดังนี้
1. ธุรกิจ e-Commerce ได้แก่ ธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์และแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภคไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าและสถานบริการได้ตามปกติ รวมทั้ง การปรับตัวของผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มช่องทางการตลาดค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social media) ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับปี 2564
2. ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ ได้แก่ ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ (Delivery) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Logistic) กลุ่มธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce เนื่องจาก ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อ-ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริการด้านขนส่งโลจิสติกส์มากขึ้นตามไปด้วย
3. ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร กลุ่มธุรกิจนี้มีปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในปี 2565 ทั่วโลกอาจต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่อาจต้องพึ่งพากลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ และธุรกิจผลิต/แปรรูปพืชสมุนไพรเพื่อบรรเทาและป้องกันสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว
4. ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงจุด เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง
5. ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับอิทธิพลมาจากรูปแบบการประกอบธุรกิจให้ยั่งยืนด้วย ESG (Environmental, Social, and Governance) และ BCG (Bio, Green, and Circular) model โดยประกอบธุรกิจผ่านการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล อีกทั้ง ยังเน้นเรื่องการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งธุรกิจการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ตอบโจทย์ความต้องการตามรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนนี้
6.ธุรกิจเครื่องสำอาง ได้แก่ ธุรกิจค้าส่งเครื่องสำอางและธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอาง มีปัจจัยมาจากกระแสการดูแลสุขภาพ การดูแลตนเอง เพื่อเสริมภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง อีกทั้ง มีปัจจัยเรื่องการขายสินค้าออนไลน์ การเป็นตัวแทนขาย มาช่วยสนับสนุนยอดขายทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในธุรกิจมากขึ้น
7. ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการแข่งขันด้านพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และการทำการตลาดสินค้าราคาแพง (Premium) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า และเติมเต็มคุณค่าทางใจเมื่อเกิดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง
8. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2560 จากสัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มากกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนประชากรในประเทศ รวมทั้งสัดส่วนประชากรวัยแรงงานต่อผู้สูงอายุในปัจจุบันที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
9. ธุรกิจกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระดาษ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคลดการเดินทางออกจากที่พักและตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการบรรจุภัณฑ์สำหรับการจัดส่งสินค้าให้แก่ผู้บริโภคจำนวนมาก สอดคล้องกับธุรกิจ e-Commerce ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น
10. ธุรกิจโฆษณา สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้การทำโฆษณาโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจากสถิติของสมาคมโฆษณาดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ค (Facebook) และยูทูบ (Youtube) ครองสัดส่วนการใช้จ่ายมากที่สุด 2 อันดับแรก รวมกันกว่าร้อยละ 50
มูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ธุรกิจดาวเด่นทั้ง 10 ธุรกิจ มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท (งบการเงินปี 2563) และมีธุรกิจคงอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564 จำนวน 49,117 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 482,576.70 ล้านบาท แบ่งเป็น
- ธุรกิจ e-Commerce จำนวน 4,858 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 42,829.97 ล้านบาท
- ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ จำนวน 2,551 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 25,817.90 ล้านบาท
- ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร จำนวน 12,247 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 90,096.31 ล้านบาท
- ธุรกิจด้านเทคโนโลยี จำนวน 7,173 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 137,792.53 ล้านบาท
- ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) จำนวน 726 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 7,079.00 ล้านบาท
- ธุรกิจเครื่องสำอาง จำนวน 9,028 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30,694.25 ล้านบาท
- ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 494 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,635.72 ล้านบาท
- ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 533 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,191.56 ล้านบาท
- ธุรกิจกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระดาษ จำนวน 1,225 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 35,625.45 ล้านบาท
- ธุรกิจโฆษณา จำนวน 10,282 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 53,814.01 ล้านบาท
ผู้ประกอบการที่กำลังจะลงทุนประกอบธุรกิจ และกำลังมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่ง 10 ธุรกิจดังกล่าวข้างต้น น่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่นอกจากกระแสธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมแล้ว ความชื่นชอบและความถนัดเป็นอีกคุณสมบัติที่ต้องคำนึง เนื่องการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนทำธุรกิจต้องมีรอบคอบให้มากที่สุด
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี