สำหรับคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เป้าหมายสำคัญก็คือการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ ในช่วงแรกผู้ประกอบการจึงมักไม่เลือกหรอกว่าใครจะมาเป็นลูกค้าบ้าง แต่เมื่อไรที่ธุรกิจเติบโตขึ้นไปอีกระดับพวกเขามักเรียนรู้ว่า ไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะซื้อเยอะ
ลูกค้าโดยทั่วไปมักมีความต้องการหลากหลาย และมักมองหาของที่ดีกว่าเงินที่จ่าย แถมยังเต็มไปด้วยคำวิจารณ์ติชม แต่ท่ามกลางลูกค้าเหล่านั้นจะมีลูกค้าระดับบนที่ยินดีซื้อสินค้าและบริการราคาสูง จ่ายเลย จ่ายทันที แถมยังบอกต่อคนอื่นจนกลายเป็นการการันตี หรือเป็นการโฆษณาแบรนด์ได้อย่างดีอีกต่างหาก
มาดูกันว่า จะทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ดึงดูดลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้อย่างไรบ้าง เรามีคำแนะนำ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
- แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าธุรกิจมีรากฐานที่มั่นคง สวยงามทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ลูกค้าระดับไฮเอนด์จะไม่สนใจสินค้าหรือแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่ไม่สวยงามจะกลายเป็นตัวไล่ลูกค้าเหล่านี้ไปซะอีก ถ้าคุณเป็นธุรกิจที่ไม่มีตัวตนที่น่าเชื่อถือ หรือพิสูจน์ได้ พวกเขาจะไม่สบายใจที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ทางที่ดีคือยอมลงทุนปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นมืออาชีพ และดูยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ สร้างเว็บไซต์ที่ดูสะอาดสะอ้านและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน จัดจ้างทนายความและนักบัญชีเพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจและกฎหมายที่เหมาะสม แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางการชำระเงิน และใช้โปรแกรมออกบิล ใบแจ้งหนี้ หรือสัญญาต่างๆ
และอย่าลืมรักษามาตรฐานทั้งภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ เพราะลูกค้าระดับไฮเอนด์มักจะมองหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
- ทำคอนเทนต์ฟรีให้มีคุณค่า
ไม่ว่าจะเป็นบทความให้อ่านฟรี วิดีโอ พอดคาสต์ จดหมายข่าว หรือกระทั่งจัดอีเวนต์ต่างๆ ก็ต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นเสมอว่าคุณมีความเป็นมืออาชีพมากแค่ไหน เพื่อทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ ชอบ และเชื่อใจแบรนด์ในที่สุด การเพิ่มมูลค่าให้กับคอนเทนต์ที่ลูกค้าได้เสพไปฟรีๆ เป็นการสร้างเส้นทางในการโปรโมตสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้ เพราะลูกค้าระดับไฮเอนด์จะถูกดึงดูดเมื่อได้ใช้เวลาเสพคอนเทนต์ฟรีนี้
หากจะต้องจ้างเอาท์ซอสท์มาสร้างเนื้อหาให้เหมาะสมกับลูกค้า และเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพสูงสุด ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะลูกค้าระดับไฮเอนด์จะเข้าใจและซึมซับข้อมูลพวกนี้มากกว่าพวกโพสต์ขายสินค้าโต้งๆ
- กำหนดราคาสินค้าและบริการให้สมฐานะลูกค้า
ข้อนี้น่าจะทำให้เจ้าของธุรกิจยิ้มกริ่ม พวกลูกค้าระดับไฮเอนด์เมื่อเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าแล้วเห็นว่ามีราคาถูกแล้วล่ะก็ พวกเขาไม่สนใจสินค้านั้น เพราะคิดว่าผลิตภัณฑ์และบริการไม่มีคุณค่าสักเท่าไร
ไม่ต้องสนใจว่าคู่แข่งคนอื่นจะขายในราคาเท่าไร ตั้งราคาตามคุณค่าของสินค้าและบริการของคุณ หากรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เจ๋งพอ ก็รีบพัฒนาตัวเอง สินค้า บริการ และแบรนด์ขึ้นมาซะ แต่ไม่ว่าอย่างไรจงคิดไว้ว่าคุณมีสิทธิตั้งราคาที่คุณพอใจได้
การตั้งราคาสูงจะคัดกรองผู้ที่ไม่พร้อมจ่ายออกไป เป็นเรื่องดีที่จะมีสินค้าและบริการในราคาที่แตกต่างกัน แต่ควรทำให้แน่ใจว่าคุณมีข้อเสนอสำหรับลูกค้า “ระดับไฮเอนด์” ที่เมื่อเขามองหาก็จะเจอ คุณจะไม่พลาดลูกค้ากลุ่มนี้ไป
- ทำ Tesimonials เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
ทุกวันนี้ผู้บริโภคมองหาการรับรอง เมื่อธุรกิจของคุณได้รับมาตรฐานต่างๆ ควรสื่อสารบอกกล่าวให้ลูกค้ารับรู้ แต่นั่นก็ยังไม่เท่าคำรับรองที่มาจากบอกต่อของลูกค้าคนอื่น มีการทดสอบพบว่าเมื่อคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ได้เห็นรีวิวจากลูกค้าที่พึงพอใจ ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ ขอแนะนำว่ารีวิวเป็นวิดีโอมีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้เห็นและได้ยิน จนเชื่อมั่นได้มากกว่าข้อความไม่กี่ประโยค
- จ้างพนักงานมือโปรมาดูแลและปิดการขาย
คุณสามารถจ้างพนักงานขาย จูงใจพวกเขาด้วยค่าคอมมิชชั่น ซึ่งพนักงานขายที่ผ่านการฝึกอบรม มีทักษะการขายเป็นเลิศจะช่วยให้ปิดดีลกับลูกค้าได้ เพราะลูกค้าระดับไฮเอนด์มักชอบให้ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ บอกได้ว่าการลงทุนให้ค่าคอมมิชชั่นเป็นเรื่องคุ้มค่า
เพราะฉะนั้น อย่าลงทุนให้กับลูกค้าที่จ่ายช้า ถามหาแต่ส่วนลดมากเกินไป พึงจำไว้ว่าทั่วโลกมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 3.5 พันล้านคนทุกวัน มีโอกาสรอบตัวคุณ และแน่นอนว่าในจำนวนนั้นมีลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่เข้าใจคุณค่าและจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี