ความหวังหนึ่งที่ SME ทั่วประเทศต่างเฝ้ารอ และคิดว่าจะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้งหนึ่ง หากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มสงบลง ก็คือ การส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศในพื้นที่ทั่วโลกต่างๆ ซึ่งในขณะนี้หลายตลาดก็เริ่มขยายตัวต่อเนื่องได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกับ 6 กลุ่มประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ CLMV มีสัญญาณฟื้นตัวได้ดีขึ้น เป็น 6 ดาวเด่นตลาดส่งออก 2564 ของไทยที่ดูจะมีอนาคตสดใสและความหวังให้ SME หลายๆ คน
- สหรัฐฯ ขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยที่ 12.4 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากขยายตัว 15.7 เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าสำคัญที่ทำให้ตลาดขยายตัว ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (6.7 เปอร์เซ็นต์ YOY) ผลิตภัณฑ์ยาง (27.4 เปอร์เซ็นต์ YOY) และรถยนต์และส่วนประกอบ (34.2 เปอร์เซ็นต์ YOY)
- จีน กลับมาขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 9.9 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากขยายตัว 7.2เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าสำคัญที่ช่วยให้ตลาดขยายตัว อาทิ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (33.9 เปอร์เซ็นต์ YOY) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (148.3 เปอร์เซ็นต์ YOY) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (107.5 เปอร์เซ็นต์ YOY) และเคมีภัณฑ์ (13.0 เปอร์เซ็นต์ YOY)
- ญี่ปุ่น ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ 7.4 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากขยายตัว 14.8 เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ประกอบด้วย รถยนต์และส่วนประกอบ (77.8 เปอร์เซ็นต์ YOY) เคมีภัณฑ์ (80.8 เปอร์เซ็นต์ YOY) และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (5.4 เปอร์เซ็นต์ YOY)
- ออสเตรเลีย ขยายตัวเร่งขึ้นที่ 30.0 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากขยายตัว 15.3 เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า สินค้าหลักที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ (48.7 เปอร์เซ็นต์ YOY) อัญมณีและเครื่องประดับ (88.8 เปอร์เซ็นต์ YOY) และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (12.8 เปอร์เซ็นต์ YOY)
- ตะวันออกกลาง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 13.1 เปอร์เซ็นต์ YOY สินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์และส่วนประกอบ (50.9 เปอร์เซ็นต์ YOY) ผลิตภัณฑ์ยาง (41.4 เปอร์เซ็นต์ YOY) และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (14.9 เปอร์เซ็นต์ YOY)
- CLMV พลิกกลับมาขยายตัวที่ 3.8 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากหดตัวติดต่อกัน 9 เดือน โดยการส่งออกไปเวียดนามขยายตัวถึง 20.1 เปอร์เซ็นต์ YOY ทั้งนี้สินค้าสำคัญที่ขยายตัวในตลาด CLMV ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ (6.2 เปอร์เซ็นต์ YOY) เม็ดพลาสติก (40.5 เปอร์เซ็นต์ YOY) และน้ำตาลทราย (42.4 เปอร์เซ็นต์ YOY) เป็นต้น
สำหรับตลาดที่ยังหดตัวและมีแนวโน้มยังไม่ดีขึ้น คือ สหภาพยุโรป 15 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ที่ -5.4เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากหดตัว -2.4 เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ รถยนต์และส่วนประกอบ (-0.5 เปอร์เซ็นต์ YOY) อัญมณีและเครื่องประดับ (-45.6 เปอร์เซ็นต์ YOY) และแผงวงจรไฟฟ้า (-11.5 เปอร์เซ็นต์ YOY)
อีกตลาดหนึ่ง คือ อาเซียน 5 พลิกกลับมาหดตัวที่ -11.0 เปอร์เซ็นต์ YOY หลังจากขยายตัว 0.8 เปอร์เซ็นต์ YOY ในเดือนก่อนหน้า สินค้าสำคัญที่หดตัว ประกอบด้วย น้ำมันสำเร็จรูป (-41.5 เปอร์เซ็นต์ YOY) และเคมีภัณฑ์ (-8.4 เปอร์เซ็นต์ YOY)
ในด้านการฟื้นตัวของการส่งออกไทยในปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอยู่ 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
- ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และอัตราค่าระวางเรือที่ยังสูงต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดคาดว่าจะกดดันการส่งออกไทยอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564\
- ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมาที่อาจส่งผลต่อการปิดด่านค้าชายแดนและอุปสงค์สินค้าจากเมียนมา โดยจากข้อมูลล่าสุดในเดือนมกราคม 2564 ด่านค้าชายแดนไทย-เมียนมา เปิดอยู่เพียง 3 ด่านจาก 21 ด่าน
- ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าเร็วกว่าคู่ค้าและคู่แข่ง ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและผลกำไรของผู้ส่งออก
ที่มา : EIC
www.smethailandclub.com
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี