หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมบางธุรกิจมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์สูงเหลือเกิน แต่พอมองย้อนกลับมาที่ตัวเองแล้วก็ไม่ได้มีอะไรต่างกับคู่แข่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ การบริการ การตอบคำถาม การดูแลรับประกันสินค้า ฯลฯ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วแบรนด์ที่ขายดีเหล่านั้น มีเทคนิคดีๆ ที่ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์พร้อมบูสต์ยอดขายอยู่ตลอดเวลา
ใครไม่อยากพลาดไม่อยากตกขบวน มาดูเทคนิคที่ว่านี้กัน
1. Content ที่ตอบคำถามได้
ไม่ว่าเราจะขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ประเภทใดก็ตาม ทั้ง Facebook, Instagram, Lazada, Shopee สิ่งหนึ่งที่ต้องชัดเจนคือ Content ต้องสามารถบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร มีประโยชน์หรือแก้ปัญหาอะไรให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ หากเรานำเสนอแค่รูปภาพ โดยไม่มีคำบรรยายและปล่อยให้ลูกค้าหาคำตอบเอง หรือนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ แต่ไม่สามารถตอบคำถามหรือแสดงความชัดเจนหรือจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ได้ ลูกค้าก็คงหันไปหาแบรนด์คู่แข่งที่มีข้อมูลและเนื้อหาที่ชัดเจนกว่าแน่นอน
2. มี Call to Action ที่ดี
Call to Action ก็คือ คำที่กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ ซึ่งโดยปกติมักใช้กับเว็บไซต์ เช่น สร้าง Content ขึ้นมาว่า “ด่วน ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น” “ราคาพิเศษสำหรับลูกค้า 100 คนแรก” หรือเป็นแถบสำหรับการคลิกสมัครสมาชิก (Subscribe) เพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษ แต่ถ้าเป็นในโซเชียลมีเดีย เราสามารถใช้ Call to action ด้วยการโพสต์วิดีโอลง Facebook พร้อมแทรก Link เว็บไซต์ที่ด้านล่างวิดีโอ เพื่อให้เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม จอง หรือซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์โดยตรงได้
หรืออย่างง่ายก็สามารถใช้แฮชแท็ก เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจได้เช่นกัน เช่น #ราคาพิเศษจำนวนจำกัด หรือ #ส่งฟรีทั่วประเทศ ชิ้นเดียวก็ส่ง หรือ #ชอบกดLike ใช่กด Share เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้แบรนด์ และเพิ่มโอกาสขายในอนาคต
3. เน้น Social Proof
ถ้าเราจะซื้อของสักชิ้นหนึ่ง เราจะใช้อะไรประกอบการตัดสินใจบ้าง หนึ่งในนั้นคงเป็นคนรอบข้าง กับคนที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการนั้นๆ มาก่อน ถ้าคนเหล่านั้นบอกว่าดี เราย่อมมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ดังนั้น การนำรีวิวเชิงบวกของลูกค้า และการพูดคุยส่วนตัวทาง Line หรือ Chat มาโพสต์ย่อมเป็น Social Proof ที่ดี ยิ่งถ้ามีดารา เพจใหญ่ เน็ตไอดอลมาโฆษณาให้หรือพูดถึงผลิตภัณฑ์ / บริการของเราให้แบบไม่คิดเงิน ยิ่งต้องบอกว่าโชคลาภและโอกาสหล่นมาถึงประตูบ้านเลยทีเดียว
4. พัฒนา CX
Customer Experience (CX) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เราไม่มีโอกาสจับต้อง ลอง และสัมผัส นอกจากจะจ่ายเงินไปก่อนแล้วรอสินค้ามาส่ง ดังนั้น ต่อให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าขั้นตอนการสั่งซื้อซับซ้อน ชำระเงินยาก รอเจ้าของร้านตอบแต่ละคำถามนานเหลือเกิน มองหา Chatbot ก็ไม่มี รับประกันได้เลยว่าลูกค้าส่ายหน้าหนีกันหมดแน่นอน
5. ความเร็วของเว็บไซต์
ในส่วนของแบรนด์ใหญ่ที่มีเว็บไซต์ ต้องบอกว่าความเร็วในการแสดงผลของเว็บไซต์มีความสำคัญมากๆ เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเรากดเปิดเว็บไซต์ หากเว็บนั้นๆ โหลดช้า เรามักจะโทษเว็บไซต์มากกว่าอินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณ wifi ซึ่งผลสำรวจพบว่าผู้ใช้งานกว่า 40 เปอร์เซ็นต์จะออกจากเว็บไซต์ที่ไม่ตอบสนองภายใน 3 วินาที และคนกลุ่มนั้นอาจไม่กลับไปหาแบรนด์นั้นๆ อีกเลย เพราะดูไม่มีความเป็นมืออาชีพนั่นเอง
เอาล่ะ ใครมีเว็บไซต์อยู่ รีบกลับไปเช็คด่วน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี