Main Idea
4 เทรนด์โรงแรมไทยหลังสิ้นพิษโควิด
- มีการนำรูปแบบการให้บริการแบบ Self Service มาใช้มากขึ้น
- ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
- เกิดนิยาม Luxury รูปแบบใหม่ การให้บริการที่ดีไม่จำเป็นต้องหรูหราเพียงอย่างเดียวเสมอไป
- มีความยืดหยุ่น ปรับรูปแบบการให้บริการห้องพักที่หลากหลายมากขึ้น
ไวรัสโควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง เมื่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รูปแบบการทำธุรกิจที่ทำอยู่ก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย โดยเฉพาะกับธุรกิจโรงแรมที่พัก ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ลองมาดูกันว่าระยะเวลากว่า 7-8 เดือนที่ผ่านมาที่ต้องเผชิญหน้าอยู่กับโรคระบาดครั้งนี้ โดยที่ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะจบลงเมื่อไหร่ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะส่งผลต่อการเปลี่ยนไปของธุรกิจอย่างไร
ลองไปจับตา 4 เทรนด์อนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจโรงแรมที่พักไทยหลังจากนี้กัน
Self Service ถูกนำมาใช้มากขึ้น
จากมาตรการเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย ไปถึงความพยายามในการประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดให้ได้มากที่สุด ทำให้โรงแรมหลายแห่งเริ่มมีการปรับตัว โดยพยายามนำรูปแบบการให้บริการแบบ Self Service และเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยบริหารจัดการมากขึ้น อาทิ การให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลการเข้าพักและเช็กอินได้ด้วยตนเอง โดยอาจส่งรหัสเข้าห้องพักผ่าน SMS หรืออีเมลของลูกค้า วิธีการนี้นอกจากสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า โดยสามารถทำการเข้าพักได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลารอเช็กอิน ยังทำให้โรงแรมประหยัดทรัพยากรบุคคล โดยไม่ต้องมีพนักงานคอยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
ธุรกิจมีการ Lean มากขึ้น
จากความพยายามเอาตัวรอดเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ขณะเดียวกันก็มีเวลาว่างมากขึ้น ทำให้โรงแรมที่พักต่างๆ ได้ใช้เวลาเพื่อหันกลับมาทบทวนตนเอง รวมถึงวางแผนเส้นทางธุรกิจที่จะเติบโตไปต่อ หลายโรงแรมจึงได้ใช้โอกาสนี้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจของตัวเองเสียใหม่ ส่งผลให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีความรอบคอบเพิ่มมากขึ้น ช่วยลดสิ่งฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองลง ทำให้องค์กรมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาได้อย่างทันท่วงที
เกิดการให้นิยาม Luxury รูปแบบใหม่
ด้วยรูปแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีการเปิดกว้างและทางเลือกให้มากขึ้น ซึ่งเริ่มเป็นเทรนด์ขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเกิดไวรัสโควิด-19 จะระบาดด้วยซ้ำ และกลับมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นหลังจากเกิดวิกฤต โดยเฉพาะการให้นิยามกับคำว่า Luxury รูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบการให้บริการที่หรูหราเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เช่น การให้บริการห้องพักที่ดีที่สุดอาจไม่จำเป็นต้องเป็นห้องที่มีบริการ Butler หรือผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่แขกผู้เข้าพักเสมอไป แต่โรงแรมที่พักสามารถสร้างประสบการณ์เข้าพักที่ดีในรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้ เช่น ปัจจุบันนี้ที่มีการนิยมเสิร์ฟ Floating Breakfast หรือเซ็ตอาหารเช้าลอยน้ำแบบส่วนตัว สำหรับห้องพักแบบพูลวิลล่า ทำให้แขกได้รับความเป็นส่วนตัวและใช้เวลาพักผ่อนเต็มที่อยู่กับห้องพักได้มากขึ้น โดยไม่ต้องรีบออกมารับประทานที่ห้องอาหารร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับที่พักโรงแรมใหญ่ๆ เท่านั้น ที่พักเล็กๆ ก็สามารถสร้างรูปแบบประสบการณ์เข้าพักที่แสนวิเศษของตัวเองขึ้นมาได้เช่นกัน
ยืดหยุ่น ปรับการให้บริการห้องพักหลากหลายมากขึ้น
อีกหนึ่งเทรนด์สุดท้ายที่สามารถเห็นได้มากขึ้นหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ของโรงแรมที่พักต่างๆ ก็คือ มีการปรับรูปแบบการให้บริการและราคาที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น จากรายวัน เป็นรายสัปดาห์ และรายเดือน หรือมีการปรับพื้นที่เป็น Co-Working Space ให้นั่งทำงานเป็นรายวัน สำหรับคนที่เบื่อบรรยากาศการทำงานอยู่ที่บ้าน ต้องการสมาธิ ขณะกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ได้เรียนรู้วิธีการปรับตัวและหารายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องยึดติดแต่เพียงรูปแบบเดิม และแม้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาแล้วก็ตาม แต่วิธีการดังกล่าวก็สามารถนำมาใช้ได้อยู่เหมือนเช่นเดิม ยิ่งกลับทำให้ธุรกิจมีความแข็งแรงและมั่นคงมากขึ้นด้วย
และนี่คือภาพของ 4 เทรนด์ ที่จะสะท้อนอนาคตของธุรกิจโรงแรมไทย หลังผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้ กลายเป็น New Normal รูปแบบใหม่ของธุรกิจโรงแรมที่เราจะได้เห็นมากขึ้นนับจากนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี