เป็นสายมัง(สวิรัติ) ก็ต้องการหวาน! เกาะเทรนด์ขนมหวานวีแกนที่กำลังโตรุ่งในตลาดโลก

TEXT  : รุจรดา วัฒนาโกศัย





Main Idea
 
 
  • ก่อนหน้านี้จะหาร้านอาหารมังสวิรัติกินยังยากเย็น ต้องหาร้านเฉพาะหรือไม่อย่างนั้นก็ต้องซื้อวัตถุดิบมาปรุงกินเอง แต่การที่สายมังสวิรัติจะหาของหวานกินนั้นยากยิ่งกว่าเสียอีก
 
  • แต่ตอนนี้ ทั้งร้านอาหารมังสวิรัติหรือแบรนด์อาหารเพื่อสุขภาพหันมาผลิตไอศกรีม คุกกี้ หรือแม้กระทั่งโดนัทที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ เสิร์ฟทั้งชาววีแกนและเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคทั่วไปด้วย ปลุกให้ตลาดของหวานมังสวิรัติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 

 
               
     ก่อนหน้านี้ ขนมหวานสำหรับผู้บริโภคอาหารแบบมังสวิรัติ หรือ วีแกน (Vegan) เป็นของหายาก ไม่ได้มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหารทั่วไป หากอยากกินเมื่อไรก็ต้องหาร้านที่ขายขนมมังสวิรัติโดยเฉพาะ หรือไม่ก็หาซื้อวัตถุดิบมาทำเองเท่านั้น
               

     แต่ในช่วงหลังนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำหรือร้านค้าปลีกทั่วไปมีของหวานวีแกนจากหลายแบรนด์ตั้งแต่ Halo Top, So Delicious ไปจนถึง Ben&Jerry’s ได้เพิ่มตัวเลือกที่ไม่ใช่นมเป็นส่วนผสม อาจจะเป็นกะทิ นมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ หรือนมถั่วเหลือง รวมไปถึงแบรนด์ Daiya ที่ขึ้นชื่อเรื่องชีสวีแกนก็ผลิตชีสแช่แข็งไปวางขายด้วยเช่นกัน



 
 
  • เทรนด์ขนมมังสวิรัติกำลังมา
               
     แม้ว่าตลาดกลุ่มผู้บริโภคสายมังฯ กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยตลาดอาหารมังสวิรัติทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 9.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่ก็ยังนับเป็นกลุ่มเล็กๆ อยู่ดี ถึงอย่างนั้นของหวานสำหรับวีแกนก็ยังดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มอื่นด้วย มีตัวเลขที่บอกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก แพ้แลคโตสที่มีอยู่ในนมวัว แต่ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ยอมปวดท้องแลกกับการได้ลิ้มรสขนมหวานอร่อยๆ ในเมื่อตอนนี้มีตัวเลือกที่ดีกว่า สามารถตักของหวานเข้าปากโดยไม่จำเป็นต้องทนปวดท้องอีกต่อไป ดังนั้นแล้ว แม้แต่แบรนด์ที่ไม่ได้ผลิตอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะก็ยังหันมาให้ความสำคัญกับของหวานที่ทำจากพืชเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น





     Territory Foods บริษัทจัดส่งอาหารเพื่อสุขภาพก็กำลังเพิ่มตัวเลือกของหวานมังสวิรัติลงไปในเมนูรายสัปดาห์หรือรายเดือน เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าปกติ และขยายตลาดไปยังชาววีแกนได้พร้อมกัน
               

     Amy’s Kitchen ร้านนี้มีชื่อเสียงจากอาหารมังสวิรัติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่อาหารคาว แต่ล่าสุดพวกเขาทำขนม Dreamy bar ขนมมังสวิรัติอัดแท่งถึง 2 รสชาติ คือ ตังเมและมินท์ ไปวางขายไว้ในร้านสะดวกซื้อหรือร้านของชำในพื้นที่ต่างๆ เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมจากที่เคยมีแต่ช็อกโกแลต กำลังเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในขณะนี้



 
 
  • โอกาสของแบรนด์เล็กที่รายใหญ่มองข้าม
     
          
     ในขณะที่แบรนด์ดังส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตลาดมังสวิรัติมากนักเพราะยอดขายหรือกำไรที่ได้จากตลาดนี้ค่อนข้างน้อย แต่สำหรับแบรนด์เล็กๆ หรือแบรนด์หน้าใหม่ได้คว้าเอาโอกาสจากตลาดนี้ เช่น แบรนด์ Noops ที่ผลิตพุดดิ้งจากนมข้าวโอ๊ตหลากหลายรสชาติจึงอุดมไปด้วยโปรตีนและพรีไบโอติก โดยไม่มีส่วนผสมจากสัตว์และไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม
               

     แบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Pride Enjoy ซึ่งผลิตคุกกี้วางขายทั่วนิวยอร์ค ผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีทั้งคุกกี้ช็อกโกแลตชิป บราวนี่ฟัดจ์ หรือแม้แต่คุกกี้สายรุ้ง ที่นอกจากจะเป็นขนมมังสวิรัติแล้วยังปราศจากกลูเตน และสำหรับคนที่สนใจสูตรการทำขนมง่ายๆ ก็ต้องนึกถึง Kookie Cat แบรนด์เล็กๆ ที่ทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตออแกนิก ที่ใส่มะม่วงหิมพานต์และมะพร้าวลงไปด้วย



               

     แม้แต่โดนัทที่ต้องกินตอนสดใหม่ เก็บไว้นานไม่ได้ ที่ผ่านมาจึงไม่ค่อยมีใครทำโดนัทมังสวิรัติเพราะจำนวนคนกินไม่มากพอ แต่ร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่ชื่อว่า Pasadena Yvonne's Vegan Kitchen ทำให้ความฝันของชาววีแกนเป็นจริง
               

     เมื่อเห็นตัวอย่างแบรนด์เล็กๆ เหล่านี้ตอบสนองผู้บริโภคสายมังสวิรัติได้ มั่นใจได้เลยว่าแม้แต่ในประเทศไทยเราก็จะได้เห็นขนมมังสวิรัติเข้าสู่ตลาดมากขึ้นอีกแน่นอนเร็วๆ นี้
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

ททท. จับมือ สายการบิน EVA Air ผลักดันไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวนานาชาติ ททท.และสายการบิน EVA Air จึงขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวต่อเนื่อง 4 ปี ในการกระตุ้นตลาดหลักทั้งระยะใกล้และระยะไกลผ่านเครือข่ายเส้นทางการบินของ EVA Air

รู้แล้วรุ่ง 10 กลยุทธ์ พิชิตตลาดภูธร ปี 2568

จากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย ทำให้หลายแบรนด์มุ่งหน้าบุกตลาดต่างจังหวัด และนี่คือเคล็ดลับ 10 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณรุกตลาดภูธรได้สำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน