Main Idea
- Fast Fashion ที่ผลิตออกมาจำนวนมากเพื่อขายในราคาถูกเป็นต้นตอของการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ของการสร้างมลพิษและเอาเปรียบแรงงาน
- ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยตระหนักถึงผลเสียของ Fast Fashion จึงหันมาเลือกใช้สินค้าอย่างมีจริยธรรม ทำลายวงจรของการซื้อ-ใช้-ทิ้งอย่างรวดเร็ว และกำลังค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างมาก
ธุรกิจแฟชั่นเป็นต้นตอของการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล จากข้อมูลของกรีนพีซเผยว่า ในปี 2562 อุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงประมาณ 1.2 พันล้านตัน การเติบโตของ Fast Fashion ที่ผลิตสินค้าออกมาจำนวนมากอย่างรวดเร็วเพื่อขายในราคาถูก (Mass Product) ทำให้ผู้บริโภคอยากซื้อใหม่เรื่อยๆ ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับโลกใบนี้มากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันก็กดขี่แรงงานในโรงงานให้ต้องทำงานเกินเวลาและไม่ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม
ในช่วงจังหวะนี้เอง ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกำลังเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อการจับจ่ายใช้สอย พวกเขาเริ่มตระหนักถึงผลเสียของ Fast Fashion แล้วหันมาเลือกซื้อสินค้าอย่างมีจริยธรรม ทำลายวงจรของการซื้อ-ใช้-แล้วทิ้งอย่างรวดเร็ว ทัศนคติแบบนี้กำลังค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้อุตสาหกรรมแฟชั่น กลายเป็นโอกาสของแบรนด์ที่ออกแบบและผลิตโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมโลก
มาเรียนรู้พฤติกรรมของเหล่านักช้อปกลุ่มนี้ว่าวิธีการจับจ่ายของพวกเขาเป็นแบบไหนและจะช่วยโลกใบนี้ได้อย่างไร
- ช้อปออนไลน์และค้นหาแบรนด์เล็กที่มีเรื่องราวดีๆ
การซื้อของออนไลน์ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้านไปยังร้านค้า ในอีกแง่หนึ่งบนโลกออนไลน์มีแบรนด์ให้เลือกมากมายไปหมด พวกเขาสามารถค้นหาแบรนด์เล็กๆ ที่มีเรื่องราวดีๆ โดยเรียนรู้จากข้อมูลในเว็บไซต์ที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมและวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคจะมั่นใจและสบายใจเมื่อรู้ว่าเสื้อผ้าของแบรนด์มาจากไหน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรบอกเล่าทั้งทัศนคติและเส้นทางการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- มองหาแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง
แค่เพียงบอกเล่าว่าเป็นแบรนด์ที่รักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ผู้บริโภคไม่ปักใจเชื่อได้ง่ายขนาดนั้น พวกเขาต้องการใบรับรอง เช่น OEKO-TEX ที่รับรองผลิตภัณฑ์ว่าปราศจากสารเคมีอันตราย, มาตรฐาน Global Organic Textile Standard (GOTS) รับรองว่าสิ่งทอมีเส้นใยอินทรีย์ขั้นต่ำ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือการรับรองการค้าที่เป็นธรรมซึ่งหมายถึงพนักงานในโรงงานมีสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีและได้รับเงินเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ
- ซื้อสินค้ามือ 2
วิธีที่ดีที่สุดในการเป็นนักช้อปที่มีจริยธรรมคือการมีตู้เสื้อผ้าแบบมินิมอล ซื้อเสื้อผ้าให้น้อยและเน้นไปที่การซื้อสินค้าคุณภาพดีที่มีอายุการใช้งานยาวนานเพราะยิ่งใช้งานบ่อยและนานเท่าไร ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
ร้านขายเสื้อผ้าวินเทจเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเมื่อเสื้อผ้าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ร้านเหล่านี้จะสามารถอยู่ได้เหนือกาลเวลา เสื้อผ้าวินเทจเป็นวิธีรีไซเคิลแฟชั่นที่ดีไม่น้อย และช่วยลดจำนวนเสื้อผ้าที่ต้องฝังกลบ และยังช่วยประหยัดเงินของลูกค้าเพราะราคาที่ถูกกว่าเสื้อผ้าใหม่
- ใช้บริการเช่าเสื้อผ้า
การใช้บริการเช่าสินค้าแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นของที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือเสื้อผ้าในโอกาสพิเศษช่วยให้ใช้ทรัพยากรน้อยลงใสขณะที่เพลิดเพลินกับแฟชั่นที่หลากหลาย
ใครที่อยากนำเสนอสินค้าให้กับเหล่าแฟชั่นนิสต้าสายกรีน ก็ลองเอาเทรนด์นี้ไปปรับใช้กับกลยุทธ์ธุรกิจของตัวเองได้ นอกจากจะได้ธุรกิจ ก็ยังช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี