Main Idea
- หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มซา ผู้คนเริ่มออกมาท่องเที่ยว กลายเป็นกระแสไทยเที่ยวไทยปลุกความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในวันนี้
- นี่คือโอกาสที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ต้องปรับกลยุทธ์ทั้งในด้าน การตลาด การขาย และการดำเนินงานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังจะเพิ่มสูงขึ้น
- มาดูผลวิจัยจาก SiteMinder ที่ส่งสัญญานให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทย ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อตอบรับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังเปลี่ยนไปในยุค New Normal
โควิดเริ่มซา คนไทยเริ่มออกมาเที่ยว ปลุกตลาดการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง!
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนผ่านหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าพักเต็มในวันหยุดยาว หลายโรงแรมเริ่มกลับมาเปิดให้บริการและมียอดจองกลับเข้ามา หลังต้องปิดให้บริการไปชั่วคราวจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมในประเทศไทย นี่คือห้วงเวลาที่ต้องปรับกลยุทธ์ทั้ง การดำเนินธุรกิจ ด้านการตลาด และการขาย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังจะเพิ่มสูงขึ้นนี้
คนไทยกว่า 74 เปอร์เซ็นต์วางแผนเที่ยวในสิ้นปีนี้
รายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวฉบับล่าสุด ซึ่งจัดทำขึ้นโดย SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มตัวกลางระดับโลกในการเข้าถึงลูกค้าให้กับธุรกิจโรงแรม เผยให้เห็นถึงความจำเป็นที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยต้องปรับกลยุทธ์ทั้งในด้านการตลาด การขาย และการดำเนินการเพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังจะเพิ่มสูงขึ้น
Changing Traveller Report ฉบับล่าสุดจาก SiteMinder มีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 600 คน ชี้ให้เห็นว่า คนไทยเกือบ 2 ใน 3 ที่ตอบแบบสอบถามกำลังวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนดังกล่าวมีการจองห้องพักเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังพบว่ากว่า 74 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะท่องเที่ยวภายในสิ้นปี และกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้ วางแผนที่จะท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนข้างหน้า
ผลจากรายงานสอดคล้องกับการประกาศของรัฐบาลในการออกแพ็กเกจท่องเที่ยวด้วยงบกว่า 22,400 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้รับจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
ผู้ประกอบการโรงแรมเตรียมปรับตัวรับมือ
“มร.แบรด ไฮนส์” รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า ผลจากรายงานแสดงให้เห็นถึงทิศทางธุรกิจในอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ากำลังต้องการการสนับสนุนจากคนไทยมากกว่าครั้งไหนๆ อย่างไรก็ตามรายงานยังแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น
“แม้ว่าปัจจุบัน นักท่องเที่ยวส่วนมากที่เดินทางเข้าพักโรงแรมในประเทศไทยจะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมต้องไม่ลืมที่จะวางกลยุทธ์และการดำเนินงานเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยในประเทศ ซึ่งผลจากการสำรวจของเราเป็นเครื่องยืนยันได้ดีถึงความสำคัญของการเข้าถึงนักท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังวางแผนท่องเที่ยว ในขณะที่การเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศยังคงถูกระงับเป็นส่วนใหญ่” เขากล่าว
มร.แบรด ไฮนส์ บอกอีกว่า แม้เทรนด์การจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศหรือที่รู้จักกันว่า Travel Bubble มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มจำนวนการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าให้กับธุรกิจโรงแรม อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวคนไทยก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ธุรกิจโรงแรมไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะมีผลสำคัญต่อการฟื้นตัวของธุรกิจหลังการแพร่ระบาดในครั้งนี้
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวคนไทยหลังโควิด-19
ผลการสำรวจยังพบว่า หลังสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวไทยกว่า 47 เปอร์เซ็นต์ จะใช้เวลาในช่วงวันหยุดสั้นลง และเหลือเพียงแค่ 11 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่จะใช้เวลาท่องเที่ยวนานขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือการส่งเสริมเรื่องสุขภาพและมาตรการความปลอดภัย โดยจำนวนมากกว่าครึ่งหรือ 52 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการจองที่พัก คือ มาตรการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ปัจจัยสำคัญรองลงมาคือนโยบายการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการจองห้องพักโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม( 21 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่เกือบ 3 ใน 5 ของทริปท่องเที่ยว จะถูกวางแผนภายในเดือนเดียวกับที่คนออกเดินทาง
นี่คือข้อมูลที่ผู้ประกอบการโรงแรมไทยสามารถนำไปพิจารณาและกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจของตัวเองได้ เพื่อให้เมื่อการท่องเที่ยวกลับมา ธุรกิจจะได้เดินหน้าต่อ และสามารถหลุดจากวิกฤตครั้งนี้ได้ในเร็ววัน
ที่มา : SiteMinder
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี