Main Idea
- วิกฤตไวรัสกำลังปรับเปลี่ยนอุปนิสัยและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยไปจากเดิม โดยคนมีความกังวลเรื่องสุขภาพทางการเงินมากกว่าสุขภาพร่างกาย ปรับตัวและให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเรื่องการเงินของตนเองมากขึ้น ราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
- คนไทยจำนวนมากจับจ่ายใช้สอยผ่านทางอีคอมเมิร์ซเป็นครั้งแรก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นในอนาคต โดย 67 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคชาวไทย คิดว่าพวกเขาจะมีการซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น
- คนไทย 61 เปอร์เซ็นต์ กำลังพัฒนานิสัยในการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด โดยเลือกจ่ายด้วยบัตรชำระเงินหรือผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนมากกว่าเงินสด ขณะที่คนไทย 69 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มที่จะผูกติดกับการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการกลับไปใช้เงินสดแบบเดิมหลังสถานการณ์ปัจจุบันสิ้นสุดลง
คิดจะดึงเงินออกจากกระเป๋าลูกค้ายุคนี้ไม่ง่าย!
เมื่อผู้บริโภคชาวไทยเริ่มปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย หลังต้องเผชิญกับวิกฤตไวรัสตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยคนมีความกังวลเรื่องสุขภาพทางการเงินมากกว่าสุขภาพร่างกายด้วยซ้ำ ขณะที่ต่างตระหนักถึงการปรับตัวและให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเรื่องการเงินของตนเองมากขึ้น
ไปหาคำตอบเรื่องนี้ จาก “สุริพงษ์ ตันติยานนท์” ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย ที่มาพร้อมผลการสำรวจเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนอุปนิสัยและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทย ในยุคที่สังคมทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ New Normal หรือ วิถีชีวิตใหม่ ซึ่งวีซ่าทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างใน 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
- คนไทยกังวลเรื่องสุขภาพการเงิน มากกว่ากลัวไวรัส
วีซ่า รายงานว่า แม้ประชากรทั่วโลกมีความกังวลในเรื่องสุขภาพร่างกายหลังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่พบว่าผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกกลับมีความกังวลด้านสุขภาพทางการเงินมากกว่า โดย 4 ใน 5 หรือ 79 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยเห็นพ้องว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้พวกเขาจำเป็นต้องมีการปฏิบัติตัวในเชิงรุกมากขึ้นกับการวางแผนด้านการเงิน โดยมีคนประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 53 เปอร์เซ็นต์ ที่บ่งชี้ถึงความกังวลในเรื่องการเจ็บป่วย
- ช้อปปิ้งออนไลน์มาแรง คนไทยช้อปเก่งติดอันดับโลก
จากผลสำรวจพบว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากเริ่มจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นครั้งแรก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยจากผลการสำรวจพบว่า 67 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคชาวไทย คิดว่าพวกเขาจะมีการซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเป็นจำนวนเกือบเท่าตัวของนักช้อปทั่วโลก (35 เปอร์เซ็นต์) และค่อนข้างจะมากกว่าค่าเฉลี่ย (47 เปอร์เซ็นต์) สำหรับนักช้อปในแถบเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
เมื่อพูดถึงประสบการณ์การช้อปปิ้ง มากกว่าครึ่ง หรือประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างชาวไทย กล่าวว่า การช้อปปิ้งออนไลน์ให้ประสบการณ์ที่ดีมากกว่าการช้อปปิ้ง ณ ร้านค้าแบบเดิม เปรียบเทียบกับข้อมูล 46 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก และ 37 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างทั่วโลก
- ราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
ผลสำรวจยังพบอีกว่า ผู้บริโภคมีการคำนึงในเรื่องของราคามากขึ้น โดยเกือบ 4 ใน 5 หรือประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ ของคนไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องราคามากยิ่งขึ้น ซึ่งสูงกว่าผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก (59 เปอร์เซ็นต์) และทั่วโลก (53 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวไทยยังให้ความสนใจกับสินค้าลดราคา โดย 65 เปอร์เซ็นต์ จะพุ่งความสนใจไปที่สินค้าปรับลดราคาลง
- สังคมไร้เงินสดกำลังมา คนนิยมจ่ายแบบไม่ใช้เงินสดมากขึ้น
จากการศึกษาครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่า การเสริมสร้างนิสัยการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดกำลังก่อตัวขึ้นทั่วโลก โดย 61 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวไทย กล่าวว่า ชอบที่จะชำระด้วยวิธีที่ไม่ใช้เงินสดมากกว่า ในทำนองเดียวกัน 58 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก และ 64 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างทั่วโลก กล่าวว่า พวกเขาชอบวิธีการชำระแบบไร้เงินสดมากกว่าเช่นเดียวกัน
โดยแนวโน้มด้านการชำระเงินของผู้คนทั่วโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก โดยผู้บริโภคชาวไทย (69 เปอร์เซ็นต์) เอเชียแปซิฟิก (75 เปอร์เซ็นต์) และทั่วโลก (66 เปอร์เซ็นต์) เลือกที่จะใช้วิธีการชำระแบบไร้เงินสดหลังจากสถานการณ์ในปัจจุบันสิ้นสุดลง
ในทางตรงข้าม มีเพียง 1 ใน 4 หรือประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคชาวไทย ที่บอกว่า พวกเขาจะกลับไปชำระด้วยเงินสดอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เปรียบเทียบกับกลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก (17 เปอร์เซ็นต์) และทั่วโลก (20 เปอร์เซ็นต์) โดยผู้บริโภคที่เหลือยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยังคงเลือกชำระเงินด้วยวิธีแบบใหม่นี้หรือกลับไปใช้วิธีการแบบเดิม
นี่คือสัญญานของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังการมาถึงของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนว่า SME ต้องปรับตัวรับมือ และพลิกกลยุทธ์เพื่อให้สามารถดึงเงินออกจากกระเป๋าลูกค้าได้ ในวันที่ลูกค้าใช้เงินยากขึ้น แม้จะยังมีหน้าร้านที่แข็งแกร่ง แต่ต้องมีตัวตนในโลกออนไลน์ด้วย รวมถึงปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด เพื่อรับมือให้ทันในวันที่พฤติกรรมลูกค้าแปรเปลี่ยนนั่นเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี