TEXT : ยุวดี ศรีภุมมา
Main Idea
- การทำธุรกิจเหมือนเป็นการปลดล็อกสกิลที่หลากหลายแบบไม่รู้ตัว อะไรที่ทำได้ก็ต้องทำ อะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องลอง
- และหนึ่งในกลยุทธ์ที่มาแรงสุดๆ คือการฝากร้านออนไลน์ ไม่ว่าจะในโพสต์ของดารา หรือโพสต์ตามกลุ่มมหาวิทยาลัย ถ้าคุณสร้างโพสต์ดีๆ รับรองว่าออเดอร์ล้นชัวร์ๆ!
___________________________________________________________________________________________
หนึ่งในกระแสที่มาแรงไม่หยุดในช่วงนี้คือการฝากร้านเพื่อช่วยซัพพอร์ตธุรกิจต่างๆ ที่ชะลอตัวลงจากพิษของไวรัสโควิด ไม่ว่าจะเป็นดารา คนดังต่างๆ ที่สร้างโพสต์ให้ทุกคนเข้ามาฝากร้าน ไปจนถึงกลุ่มของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องที่ทำธุรกิจเข้าไปแนะนำตัวและฝากร้านกันได้ ซึ่งกลยุทธ์การฝากร้านกลายเป็นการกระตุ้นยอดขาย ให้ผู้ประกอบการ SME ได้อย่างดี หลายคนกลับมามีออเดอร์ล้นหลาม มีทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางเข้ามาฝากร้านกันมากมาย แต่ท่ามกลางร้านเป็นพัน เป็นหมื่นที่เข้าไปฝากร้านนั้น จะทำอย่างไรให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่น จะทำอย่างไรให้ลูกค้าเห็นแล้วโดนใจจนต้องคลิกสั่งเลยทันที วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
- รูปคือ First impression
ท่ามกลางโพสต์ที่เข้ามาฝากร้านมากมาย หากคุณอยากทำให้ลูกค้าสะดุดแล้วคลิกอ่านต่อ คุณต้องเริ่มตั้งแต่รูปภาพ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีภาพแบบ Professional ต้องจ้างช่างภาพราคาแพงหรือต้องถ่ายในสตูดิโอ เพราะรูปที่ดีในการขายสินค้าอาจจะไม่ต้องการความเป๊ะขนาดนั้น เพียงแค่คุณต้องสื่อสารสิ่งที่ต้องการขายออกมาให้ครบถ้วน ต้องดึงดูดสายตา หากคุณขายอาหารก็ต้องดูน่ากินมากกว่าความสวย หากขายเสื้อผ้าต้องให้ลูกค้าเห็นว่าใส่แล้วออกมาเป็นอย่างไร หากขายที่พักต้องให้เห็นบรรยากาศและ Facility ต่างๆ ให้ครบถ้วน โชว์รูปที่สื่อสารได้ครบถ้วนที่สุดเอาไว้รูปแรก จากนั้นค่อยเพิ่มเติมรูปรายละเอียดต่างๆ
- เล่าเรื่องสินค้าให้น่าซื้อ
ถัดจากรูปภาพก็คงหนีไม่พ้น Caption หรือข้อความขายสินค้า จะเขียนขายอย่างไรดีให้คนอ่านแล้วอยากซื้อเลยทันที เริ่มจากย่อหน้าแรก คุณต้องเขียนให้ลูกค้าเห็นว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ เช่น ‘ท่ามกลางไวรัสระบาดแบบนี้ ใครๆ ก็คงไม่อยากออกจากบ้านใช่ไหม?’ จากนั้นก็เขียน Pain Point ของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณ ‘แต่อยู่บ้านตลอดเวลา จะคุมน้ำหนักก็ยาก ขยับร่างกายก็น้อย อยากหาอาหารเฮลตี้มาเสิร์ฟเลยทันทีจะหาได้จากที่ไหน?’ จากนั้นก็ปูทางสู่สินค้าของคุณ ‘จะดีกว่าไหมถ้ามีร้านอาหารคลีนแบบเดลิเวอรีที่ทำสดใหม่ทุกวันหรือจะผูกปิ่นโตกันยาวๆ เลยก็ได้!’ สุดท้ายก็เข้าสู่รายละเอียดของธุรกิจ เช่น ขายอะไร รายละเอียด ราคา ช่องทางการติดต่อ ต้องบอกให้ครบถ้วน
- ถ้ามีเวลาให้เล่าสตอรี่เพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจ
นอกจากการขายสินค้าแล้ว ถ้าคุณอยากเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจและช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอินไปกับธุรกิจของคุณได้มากขึ้น ก็หาเวลาเล่าเรื่องสตอรี่ของคุณ สมมติว่า โพสต์แรกของคุณประสบความสำเร็จในการได้ออเดอร์เรียบร้อยแล้ว โพสต์ต่อมาก็ลองเปลี่ยนมาเล่าเรื่องให้ลึกขึ้น เช่น เล่าว่าธุรกิจนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณอาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพครั้งใหญ่ จนต้องปฏิวัติตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เริ่มจากลองทำกินเอง ทำให้เพื่อนกินจนหลายคนติดใจเลยอยากแบ่งปันความเฮลตี้ให้ผู้อื่นจะได้มีสุขภาพที่ดีไปด้วยกัน เป็นต้น
หรือจะเป็นการเล่าถึงที่มาของวัตถุดิบ เช่น ผักชีมาจากสวนหลังบ้านที่ปลูกเองแบบเกษตรอินทรีย์ รดน้ำต้นไม้ยามเช้าในช่วงที่แดดอุ่นกำลังพอดีพร้อมกับเปิดเพลงฟังไปด้วย กลายเป็นผักชีสุนทรี หรือไข่เค็มมาจากอำเภอไชยา ที่คุณลุงคุณป้าบ่มเพาะด้วยความรัก เป็นต้น
- ให้ความสำคัญกับเสียงของลูกค้า
หลังจากที่คุณลงโพสต์ฝากร้านแล้ว มักจะมีลูกค้ามาแสดงความคิดเห็นหรือว่างส่งข้อความไปหาคุณ เตรียมทีมงานตรงนี้ไว้ให้ดีเพื่อตอบลูกค้าให้ครบถ้วน หากว่าคุณลงรายละเอียดไม่ชัดเจน ลูกค้าก็จะถามถึงรายละเอียดต่างๆ ฉะนั้น ถ้าอยากตัดปัญหาตรงนี้ ก็ให้ใส่รายละเอียดให้ชัดเจน จัดหน้าให้อ่านง่าย นอกจากนี้ถ้าลูกค้ามี Feedback ก็อย่าลืมขอบคุณพวกเขาด้วย ยิ่งถ้าลูกค้ามี Feedback ในแง่ลบ พยายามอย่าแก้ตัว แต่ให้ใช้วิธีการขอโทษอย่างจริงใจและดูว่าปัญหานั้นๆ สามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง บอกโซลูชันของคุณและคราวหน้าจะไม่ให้ผิดพลาดอย่างเดิมอีก นี่คือเวทีทดสอบของคุณขนาดย่อมเลยทีเดียว เพราะว่าคุณจะโพสต์อะไร ทุกคนเห็นกันหมด หากคุณแก้ไขปัญหาพลาดนิดเดียวโดยใช้อารมณ์เป็นตัวตั้ง คุณจะกลับมายากมากท่ามกลางตัวเลือกหลายพันหลายหมื่นร้าน
การขายสินค้าให้ปัง บางครั้งจะคิดถึงแต่ตัวสินค้าไม่ได้ แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องของแพ็กเกจจิ้ง การนำเสนอ การถ่ายรูป ไปจนถึงการเล่าเรื่องด้วย! ลองนำสูตรนี้ไปใช้กันดู ขอให้ทุกคนขายดีจนออเดอร์ล้น ทาง SME Thailand Online เอาใจช่วย!
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี