Main Idea
- ทำธุรกิจยุคใหม่ ไม่ใช่จะ “อะไรก็ได้” แต่ต้องคิดอย่างมีกลยุทธ์ตั้งแต่ก่อกำเนิดเป็นตัวธุรกิจด้วยซ้ำ เพื่อฉีกตัวเองออกจากโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน มาเป็นธุรกิจที่ลูกค้าต้องการและพิชิตใจผู้ซื้อได้
- การทำธุรกิจยุคนี้ไม่จำเป็นต้องขายคนทั้งโลก แต่จะอยู่รอดได้ถ้ามีเหล่าสาวกและแฟนพันธุ์แท้คอยสนับสนุน มาเรียนรู้วิธีเติมเสน่ห์ให้ธุรกิจน่าค้นหา เพื่อดึงดูดลูกค้าธรรมดาๆ มาเป็น “สาวก” กัน
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมธุรกิจยุคนี้ถึงต้อง “พิเศษจำเพาะ” ไม่เน้นขายความแมส (Mass) เหมือนธุรกิจในยุคก่อน ตัวแปรสำคัญคือ ผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้ชอบความแมส ไม่ได้ปรารถนาสินค้าหรือบริการที่เหมือนๆ กันคนอื่น ดังนั้นการมีจุดขายที่ความพิเศษน่าค้นหาก็จะยิ่งเป็นตัวดึงดูดให้ผู้คนอยากเข้าถึง เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ก่อนคนอื่น อย่างน้อยๆ ก็จะได้มีเรื่องใหม่ๆ มาบอกเล่าเพื่อนฝูงในโซเชียล กลายเป็นกระแสของการบอกต่อ (Word of mouth) ที่ทรงพลังอย่างมากต่อการทำธุรกิจในยุคนี้
เติมเสน่ห์ธุรกิจด้วยความลึกลับน่าค้นหา
สรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) จำกัด บอกเราว่า หากผู้ประกอบการอยากทำตลาดกับผู้บริโภคยุคนี้ ต้องมีจุดขายที่ไม่เหมือนคนอื่น ต้องมีคุณค่า ดูลึกลับแต่น่าค้นหา มีเอกลักษณ์ (Unique) มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน แล้วลูกค้าจะดั้นด้นเข้ามาหาเอง
โดยการทำธุรกิจแบบเดิมๆ เราอาจให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าปริมาณมากๆ หากเปิดร้านอาหารก็อยากรับลูกค้าให้ได้หลายๆ โต๊ะ ทำสปาก็ต้องมีหลายๆ ห้อง เพื่อรองรับลูกค้าให้ได้มากเท่าที่จะมากได้ แต่กับการทำธุรกิจปัจจุบัน “คุณภาพของลูกค้า” สำคัญกว่าปริมาณ
นั่นคือเหตุผลที่การทำธุรกิจทุกวันนี้ ต้องเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง ซึ่งหนึ่งในเสน่ห์ที่ว่าคือการทำให้ธุรกิจดูลึกลับน่าค้นหาเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งร้านเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเปิดเล็กๆ รองรับคนได้จำกัด และยิ่งดีไซน์ให้ร้านดูเข้าถึงยากได้เท่าไร ก็จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญเธอบอกว่า วิธีนี้ยังสามารถ “เพิ่มมูลค่า” ให้กับสินค้าและบริการนั้นๆ ได้อีกด้วย
“อย่างพวกบาร์ลับจะตกแต่งอย่างมีคาแรกเตอร์ และตั้งราคาแพงกว่าร้านทั่วๆ ไปด้วยซ้ำ เช่น เครื่องดื่มแก้วหนึ่งอาจแพงกว่าในโรงแรม แต่คนก็ยอมจ่ายให้กับความพิเศษนั้น ส่วนตัวเคยไปร้านแถวเยาวราช เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Restaurant & Bar) ที่เอาตึกแถวมารีโนเวตใหม่ พอเข้าไปข้างในนึกว่าโซโหนิวยอร์ก เครื่องดื่มแก้วเล็กๆ เขาขายแก้วละ 500 บาท แต่คนยอมจ่ายเพื่อแลกกับบรรยากาศ อันนี้ที่ไปก็เพราะได้รับการบอกต่อมาอีกที พอเข้าไปก็ได้เจอคนคาแร็กเตอร์คล้ายๆ กัน เจอคนที่เซอร์ๆ ติสต์ๆ หน่อย ไม่ใช่ใส่รองเท้าส้นสูงมา นี่เป็นการรวมกลุ่ม Tribe (ชนเผ่า) ของคนที่ชอบแบบเดียวกัน เป็น Tribe Marketing ที่จะดึงคนประเภทเดียวกันมาอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ประกอบการที่อยากทำธุรกิจให้น่าค้นหา ต้องหาลูกค้ากลุ่มนี้ให้เจอ” สรินพรบอก
สร้างเสน่ห์ที่แตกต่าง ดึงดูดผู้บริโภคที่ใช่
ธุรกิจที่สร้างเสน่ห์ให้ตัวเองน่าค้นหากำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ พิเศษ และไม่จำเจ มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่เงินทุนไม่ได้สูงเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ ทรัพยากรไม่ได้มีมากมาย และคนยังมีจำนวนจำกัด สิ่งเดียวที่จะทำให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่ในตลาดได้ ก็คือ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความเข้าใจในอินไซท์ของผู้บริโภค มาพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ดึงดูด มีจุดขาย และเป็นของที่คนยุคนี้มุ่งมาดปรารถนา ซึ่งธุรกิจลักษณะนี้น่าสนใจสำหรับ SME ทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายๆ ธุรกิจด้วย
โดยหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจประเภทนี้ อาจไม่ใช่ตัวสินค้าหรือบริการ แต่คือการ “หาผู้บริโภคที่ใช่” ให้เจอ และรักษาความจงรักภักดีเอาไว้ให้ได้ เช่นเดียวกับที่ ดร. เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเราว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้อาจมีจำนวนไม่มาก แต่คุณภาพดี และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีเงิน ที่พร้อมยอมจ่ายให้กับความ Exclusive มีเสน่ห์ ในราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วๆ ไป ซึ่งธุรกิจทุกวันนี้ต้องการคนกลุ่มนี้ เพราะคือตัวแปรที่จะทำให้ธุรกิจ อยู่รอดและอยู่รุ่งไม่ใช่แค่ตัวสินค้าหรือบริการที่มีเท่านั้น
“คนที่ทำธุรกิจยุคนี้ต้องอย่าทำธุรกิจเดียว เพราะสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดไม่ใช่ตัวธุรกิจแต่คือท่านเจอกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้หรือไม่ เพราะหากหาเจอแล้วเราสามารถเอาธุรกิจอื่นมาต่อยอดต่อไปได้อีก อย่างผมมีโอกาสไปคุยกับคนที่ทำพวกคลับเฉพาะสำหรับผู้บริหาร เขาบอกว่า ของที่ดีที่สุดไม่ใช่คลับหรือธุรกิจที่เขาทำขึ้น แต่คือคนกลุ่มนี้ที่สามารถไปต่อยอดอะไรต่อไปได้อีกมากเพราะเท่าไรก็จ่ายไหว เช่น จากคลับเขาก็เริ่มเอาทัวร์ท่องเที่ยววีไอพีเข้ามา ขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เพราะเรียนรู้จากความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ โอกาสใหม่ๆ จึงเกิดขึ้น ฉะนั้นคุณค่าจึงไม่ได้อยู่ที่ธุรกิจหรือบริการ แต่อยู่ที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ว่าคุณจะหาเจอหรือไม่”
ในวันนี้โลกการทำธุรกิจเปลี่ยนไปจากเดิม SME จึงต้องเรียนรู้ที่จะรับมือ ซึ่งการใส่เติมเสน่ห์ให้กับธุรกิจ ก็คือหนึ่งในแนวทางที่จะใช้ความแตกต่างมาดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งจุดสิ้นสุดของธุรกิจเหล่านี้ อาจไม่ใช่ทันทีที่ลูกค้าไปสัมผัสเสน่ห์ต่างๆ ที่สร้างขึ้น หากแต่ยังสามารถต่อยอดโอกาสไปได้อีกเรื่อยๆ เมื่อผู้ประกอบการ SME รู้จักพฤติกรรมของลูกค้าตนเองเพิ่มมากขึ้น สร้างกลุ่มก้อนที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ มาตอบสนอง รวมถึงการขยายไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่จะถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหาตามมาในอนาคตอีกด้วย
ถ้าไม่หยุดคิดและพัฒนา ธุรกิจ SME ก็จะอยู่อย่างยั่งยืนต่อไปได้ ภายใต้ “เสน่ห์” ที่สร้างขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี