Main Idea
- ธุรกิจริมถนนถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย เพราะเมื่อไหร่ที่เราไปเที่ยวหรือไปทำธุระในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ สิ่งที่เราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดการเดินทางคือธุรกิจริมทางที่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความโดดเด่นของจังหวัดนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
- แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารริมทาง สิ่งจะได้รับจากธุรกิจนั้นอาจไม่ใช่การให้บริการที่หรูหรา สวยงามหรือทันสมัยเท่ากับร้านอาหารตามห้างสรรพสินค้า ดังนั้นการทำธุรกิจเช่นนี้จึงต้องใช้ความสร้างสรรค์มาทำให้ร้านของตนเองแปลกและแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อดึงดูดลูกค้ารายทางให้แวะเข้ามาจอดเลือกสินค้าให้มากที่สุดนั่นเอง
เพราะธุรกิจริมทางเป็นธุรกิจที่สำคัญของบ้านเรา เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเดินทางไปต่างจังหวัดก็มักจะได้เห็นธุรกิจริมทางที่มีเอกลักษณ์และสื่อถึงความโดดเด่นของจังหวัดนั้นๆ แต่ขึ้นชื่อว่าธุรกิจริมทาง สิ่งที่จะได้รับอาจไม่ใช่ความหรูหรา สะดวกสบายเท่าร้านตามห้างสรรพสินค้า ฉะนั้น การทำธุรกิจเช่นนี้จึงต้องใช้ความสร้างสรรค์เข้ามาเพื่อช่วยดึงดูดลูกค้าให้แวะเวียนเข้ามาจอดเพื่อเลือกซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้าน
และธุรกิจริมทาง นอกจากทำเลขายของที่ต้องดีแล้ว การเรียกลูกค้าเข้าร้านก็เป็นอีกสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเปอร์เซ็นต์ลูกค้าที่จะเข้ามายังร้านริมทางเกินครึ่งคือลูกค้าที่บังเอิญผ่านหรือแค่เห็นแล้วแวะจอด ผ่านมาก็ผ่านไปเท่านั้น
ดังนั้นในเมื่อร้านเราไม่ได้ดังมากสิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือสร้างความแตกต่างที่แค่เห็นแว้บเดียว ลูกค้าก็อยากจอดแวะ เราจึงอยากมาแนะนำ 5 กลยุทธ์เรียกลูกค้าสไตล์ธุรกิจริมทางที่ไม่ว่าคุณกำลังทำธุรกิจแบบไหนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลเกินคาดแน่นอน
- สายโบก โยกให้มันส์
หลายคนอาจรู้จักแมวกวักตามความเชื่อที่ว่า...เมื่อนำแมวกวักมาตั้งไว้หน้าร้านก็จะเป็นเหมือนการกวักลูกค้า กวักความโชคดีเข้ามาสู่ร้านของตน แล้วถ้าเปลี่ยนจากแมวกวักเป็นคนโบกล่ะจะเป็นอย่างไร?
ย่อน้อยๆ โบกเยอะๆ นั่นคือสไตล์การเรียกลูกค้าริมทางของธุรกิจข้าวหลามหลายจังหวัด แต่ปัจจุบันมีสินค้าอื่นๆ เข้ามาใช้กลยุทธ์สายโบกด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการนั้นง่ายมาก เมื่อคุณตั้งซุ้มเล็กๆ ข้างทางเพื่อขายสินค้าพร้อมกับติดป้ายใหญ่ๆ ให้คนได้เห็นว่าร้านเราขายอะไร จากนั้นคุณก็แค่เดินมาที่ริมถนนแล้วทำการโบกตามจังหวะที่คุณถนัด
เพียงเท่านี้ลูกค้าที่ผ่านไปมาบนท้องถนนก็จะสามารถมองเห็นคุณได้อย่างชัดเจนและดึงดูดให้เขาจอดแวะซื้อสินค้ารับประทานหรือซื้อเป็นของฝากได้ตามใจชอบกันเลยทีเดียว แต่วิธีการนี้อาจจะต้องใช้ความอดทนสักหน่อยกับอากาศร้อน ดังนั้นก่อนออกโบกก็เตรียมเสื้อแขนยาว ผ้าโพกหน้าหรือหมวกสานให้พร้อม ไม่ก็จ้างให้คนอื่นมาโบกแทนก็ง่ายไปอีกแบบ
- อีก 500 เมตรจะถึงร้าน
คุณเคยเห็นการประชาสัมพันธ์ของงานฝังลูกนิมิตหรืองานวัดประจำปีของไทยรึเปล่า? หลายคนอาจจะรู้จักแค่การติดตั้งป้ายประกาศแผ่นใหญ่ การประชาสัมพันธ์ด้วยการติดเครื่องเสียงบนรถยนต์แล้วประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ หรือการให้พระหรือญาติโยมเข้าไปยังหมู่บ้านเพื่อบอกกล่าวงานบุญกันแบบตัวต่อตัว
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้วิธีที่ผ่านมาแถมยังได้ผลไม่แพ้ใครอย่างแน่นอนนั่นคือการปักป้ายเล็กๆ ตามรายทางที่มีข้อความเรียงกันเป็นประโยคสั้นๆ เพื่อบอกถึงจุดประสงค์ คงจะดีไม่น้อยถ้าเรานำมาใช้กับธุรกิจเพื่อบอกว่าอีก 500 เมตรจะถึงร้านเราแล้วนะ ซึ่งเราเชื่อว่าวิธีนี้คงได้ผลไม่ต่างจากการประชาสัมพันธ์งานบุญอย่างแน่นอน
- มาสคอตเรียกลูกค้า
นี่คงเป็นธุรกิจที่ส่งเสริมธุรกิจอีกแบบหนึ่งเพราะมีการถูกใช้งานกันทั่วโลก มาสคอตนั้นมีหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมีมาสคอตประจำแบรนด์เพราะจะทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ว่าจะผ่านไปไหนก็สามารถระบุได้ว่าเป็นมาสคอตของสินค้าอะไรหรืออยู่ในความดูแลของหน่วยงานไหน
การใช้มาสคอตเพื่อดึงดูดลูกค้าก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ได้ผลไม่ว่าจะกับคนรุ่นไหนก็ตาม โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่เดินทางมากับครอบครัวหรือลูกค้าวัยรุ่นที่มักจะมาขอกอดขอถ่ายรูปคู่เพราะเอ็นดูในความน่ารักของเจ้ามาสคอต หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องโพสต์รูปลงในโลกโซเชียลซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ลูกค้าบอกต่อให้คุณเอง
- เข้าถึงลูกค้าอย่างไวเมื่อไฟแดง
การเข้าถึงลูกค้าให้ว่องไวก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเชิญชวนลูกค้าให้ซื้อของ ซึ่งบางครั้งเราต้องมีการเว้นระยะให้เหมาะสมเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป หนึ่งตัวอย่างในการเสนอขายที่ฉวยโอกาสในช่วงเร่งด่วนได้เป็นอย่างดีนั่นคือตอนที่ลูกค้ากำลังจอดติดไฟแดง ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจไม่น้อย
เพราะการขายของในลักษณะนี้ทุกคนคงเคยเห็นเพียงแค่การขายพวงมาลัยเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีธุรกิจอื่นที่สามารถใช้กลยุทธ์นี้ในการขายสินค้าให้ลูกค้าได้ในระยะเวลาอันสั้นด้วย อาทิ โดนัทนมสด แต่บางทีธุรกิจก็ต้องยอมรับความเสี่ยงอันตรายและอาจจะผิดกฎหมายจากการห้ามประกอบการค้าบนผิวการจราจรด้วย
- ใหญ่เข้าไว้ ให้ลูกค้าสะดุดตา
สัญลักษณ์ของธุรกิจมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งนี้แหละที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจของคุณนั้นโดดเด่นต่างจากธุรกิจอื่นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งธุรกิจริมทางจะต้องส่งเสริมจุดเด่นนี้ให้มากกว่าหลายเท่า ลองคิดดูว่าถ้าร้านคุณมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ยิ่งใหญ่อลังการตั้งโชว์ใกล้ร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกเข้าร้านคุณหรือร้านอื่นมากกว่ากัน
ยกตัวอย่างร้านอาหารบางร้านที่สร้างรูปปั้นใหญ่ๆ มาโชว์หน้าเพื่อเรียกลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรูปคน รูปสัตว์ต่างๆ ที่สะดุดตา ลูกค้าก็จะสามารถรู้ได้เลยว่าร้านของคุณมีสิ่งใดเป็นจุดเด่นได้ทันที
การเรียกลูกค้าของแต่ละธุรกิจมีความหลากหลาย บางอย่างดี บางอย่างอาจไม่เหมาะกับคุณ ผู้ประกอบการก็ต้องคิดวิเคราะห์ให้ดีก่อนที่จะเลือกกลยุทธ์ไปใช้ ซึ่งการเรียกลูกค้าเช่นนี้อาจทำให้ได้ลูกค้าก็จริง แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงต่อไปคือทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นคือคุณภาพของสินค้า ความหลากหลาย โปรโมชั่นโดนใจและความอร่อยที่จะต้องคงอยู่จนไม่อยากไปซื้อร้านอื่นนั่นเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี