Main Idea
- เพราะสีนั้นมีพลังมากกว่าที่คุณคิด! โดยเฉพาะการทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบหรือว่าแฟชั่นต้องหมั่นติดตามเทรนด์ให้ไวก่อนใคร
- เพราะว่าโทนสีใหม่มักจะเผยโฉมช่วงปลายปีเพื่อให้คุณได้นำสีประจำปีหน้าไปจุดประกายและวางแผนออกแบบเพื่อทำสินค้าในคอลเล็กชันใหม่ๆ หรือว่าทำโทนสีนั้นๆ มาสร้างแคมเปญหรือเปลี่ยนลุคธุรกิจให้เข้ากับเทรนด์สีปีหน้า
เพราะสีนั้นมีพลังมากกว่าที่คุณคิด! โดยเฉพาะการทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบหรือว่าแฟชั่นต้องหมั่นติดตามเทรนด์ให้ไวก่อนใคร เพราะว่าโทนสีใหม่มักจะเผยโฉมช่วงปลายปีเพื่อให้คุณได้นำสีประจำปีหน้าไปจุดประกายและวางแผนออกแบบเพื่อทำสินค้าในคอลเล็กชันใหม่ๆ หรือว่าทำโทนสีนั้นๆ มาสร้างแคมเปญหรือเปลี่ยนลุคธุรกิจให้เข้ากับเทรนด์สีปีหน้า
หนึ่งในผู้มีอิทธิพลต่อวงการสีของโลกใบนี้คือ Pantone บริษัทด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์ที่ครอบคลุมการผลิตสีโดยเขามีมาตรฐานการเทียบสีที่เรียกว่า Pantone Matching System (PMS) ระบบจับคู่สีที่สำคัญที่สุดในโลก เกิดขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2506 เพื่อแก้ไขปัญหาการจับคู่สีที่มีความซ้ำซ้อนในวงการ เขาจะมีการกำหนดสีต่างๆ ด้วยรหัสเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานของ Pantone และกลายเป็นมาตรฐานสากลของคนที่คุยกันเรื่องสี
สิ่งสำคัญคือมีการจัดตั้ง Pantone Color Institute ผู้ที่คาดการณ์เทรนด์สีในแต่ละปี โดยจะมีการประกาศ ‘สีแห่งปี’ หรือ Color of the year ออกมา ทำให้คนในวงการออกแบบ แฟชั่นรวมถึงคนทำธุรกิจจับตารอว่าสีไหนที่จะเป็นสีแห่งปีเพื่อจะได้นำสีนั้นไปเป็นการกำหนดทิศทางการออกแบบหรือใช้ในการวางแผนผลิตสินค้าในปีหน้า
และเรากำลังจะพาคุณไปพบกับ Color of the year 2020…
- สีแห่งปีได้แก่...PANTONE 19-4052 Classic Blue
สำหรับสีแห่งปีประจำปี 2020 ได้แก่สี Classic Blue หรือว่าสีฟ้า ที่จะสื่อถึงความรู้สึกสงบ ความมั่นใจและความรู้สึกเชื่อมโยงถึงกัน โดยสีนี้จะเป็นสีตรงกลางระหว่างสีน้ำเงินและสีฟ้า เป็นสีที่มีความเป็นอมตะ ไร้กาลเวลา อีกทั้งยังมีความหรูหราและเรียบง่าย แถมยังเต็มไปด้วยความลึกลับ
- Classic Blue ในวงการแฟชั่น
สี Classic Blue เป็นสีที่สื่อถึงความมั่นใจ มีความสง่าและเรียบง่าย นอกจากนี้ยังมีความเป็น Genderless หรือว่าแฟชั่นไร้เพศสภาพ ใส่ได้ง่ายทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่สีตามเทรนด์และมีความคลาสสิก เป็นสีที่มีความแข็งแกร่งในตัวเอง โดยสี Classic Blue ยังสามารถไปประยุกต์ให้เข้ากับวัสดุที่แตกต่างและหลากหลาย
- Classic Blue ในวงการความงาม
สำหรับโทน Classic Blue ในวงการความงามจะช่วยสร้างความโดดเด่นได้ทั้งบนดวงตา เล็บและผม เป็นสีที่จะช่วยให้คุณได้แสดงออกถึงความเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดี คุณสามารถประยุกต์สี Classic Blue ให้สวยขึ้นได้ด้วยความแวววาวจากกลิตเตอร์
- Classic Blue ในการตกแต่งบ้าน
สี Classic Blue จะช่วยเสริมความมั่นใจ ความแข็งแกร่ง รากฐานที่มั่นคง เป็นสีที่ได้รับความนิยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณสามารถนำโทนสีนี้ไปตกแต่งบ้านได้อย่างง่ายดายเพราะว่าสามารถจับคู่กับสีไหนหรือว่าวัสดุ พื้นผิวแบบไหนก็ได้
- Classic Blue ในการออกแบบและแพ็คเกจจิ้ง
โทนสี Classic Blue มีความคล้ายคลึงกับท้องฟ้าในยามพลบค่ำ ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้อยู่ทุกวัน มันจึงเป็นสีที่มีความน่าเชื่อถือและคงที่ เสมอต้นเสมอปลาย ใครที่เห็นสีนี้ก็จะรู้สึกถึงความเชื่อมโยง จึงเหมาะมากที่จะใช้สี Classic Blue ในการออกแบบและสร้างสรรค์แพ็คเกจจิ้งในปีหน้า โดยสีนี้จะช่วยสื่อสารถึงผู้บริโภคถึงความซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ ความน่าไว้วางใจ ที่จะทำให้คุณสามารถเชื่อมโยงได้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน
- Classic Blue ในอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับโทนสี Classic Blue เป็นสีที่อุดมไปด้วยสาร Anthocyanins หรือสารสีแดง ม่วง น้ำเงินที่เป็นสีธรรมชาติในอาหารเชื่อมโยงกับการดูแลรักษาสุขภาพ โดยสีฟ้าเหล่านี้จะเป็นสีที่กลายเป็นรากฐานของสุขภาพที่แข็งแรง ทำหน้าที่ในการป้องกันเพื่อสุขภาพที่ดี นอกเหนือจากเรื่องของสุขภาพแล้วยังสามารถนำสไตล์ที่ดีมาสู่โต๊ะอาหารได้อีกด้วย
- โทนสีอื่นๆ ที่โดดเด่นในปี 2020
1. A strong, bright red 185C
เริ่มต้นที่สีแรกนั่นคือสี Bright Red หรือสีแดงสว่าง ซึ่งมาจากการคาดการณ์ของผู้ทรงอิทธิพลในวงการความงาม
2. Pantone 16-5119 Sea Blue
ส่วนสีที่ 2 คือสี Sea Blue หรือว่าสีฟ้าน้ำทะเล ที่ดูแล้วมีความใสๆ สบายตา ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเล Mediterranean
3. Pantone Yellow PMS 102
สีเหลืองสดใสที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า
4. A soft gentle pink
สีชมพูอ่อนที่ดูสุภาพ นุ่มนวล เพราะว่าโลกของเราในยุคนี้ต้องการความของผู้หญิงมากขึ้น
5. Periwinkle
สีม่วงที่มีความลึกลับซับซ้อนแต่ว่ามีความขี้เล่นในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความผ่อนคลายและเงียบสงบด้วย
6. Mint green
ปิดท้ายด้วยสี Mint green สีเขียวมิ้นท์ที่มีความน่ารัก สดใหม่ มีความเป็นกลาง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี