Main Idea
- แม้จะเริ่มต้นมาจากเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าที่โด่งดังด้านการประมูล แต่ ณ ปัจจุบันหลังจากได้ก้าวมาสู่การเป็น Market place อย่างเต็มตัว ทำให้ข้าวของที่ขายบน eBay ส่วนใหญ่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ คือ สินค้าที่สามารถซื้อขายได้ทันที มีราคาตายตัว โดยไม่ต้องรอการประมูลอีกต่อไป
- แม้วันนี้การแข่งขันของเว็บไซต์ Market place ขายสินค้าออนไลน์จะเข้มข้นและรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ eBay ก็มีจุดแข็งในด้านสินค้าเฉพาะที่ไม่เหมือนกับ Market place อื่น เป็นของสะสม ของหายากที่มาจากทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้สินค้าที่หาได้บน eBay ไม่ซ้ำใคร และเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้ซื้อเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เรื่อยๆ
แม้จะเริ่มต้นมาจากเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าที่โด่งดังด้านการประมูล แต่ ณ ปัจจุบันหลังจากได้ก้าวสู่การเป็น Market place อย่างเต็มตัว ทำให้ข้าวของที่ขายบน eBay (อีเบย์) ส่วนใหญ่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ คือ สินค้าที่สามารถซื้อขายได้ทันที มีราคาตายตัว ไม่ต้องรอประมูล จึงทำให้ eBay กลายเป็นหนึ่งใน Market place สำคัญของโลก ไว้ลายเว็บไซต์ขายออนไลน์ยุคแรกที่แม้จะเริ่มต้นมาก่อน แต่ก็สามารถปรับตัวตีคู่มากับรุ่นน้องได้ทัน แถมยังคงเอกลักษณ์ในการเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกต่างหาก ทำให้ ณ ปัจจุบันจากสถิติตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว eBay สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดได้กว่า 95,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้มากกว่า 190 ประเทศ และมีผู้สนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 180 ล้านคนทั่วโลก
จากยุคประมูล สู่เว็บไซต์ Market place เต็มตัว
เจนนี หุย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเบย์ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน ได้เปิดเผยข้อมูลว่าหลังจากที่ eBay ได้ก้าวเข้าสู่การเป็น Market place อย่างเต็มตัว ในปี 2561 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 95,000 ล้านเหรียญ ตลอดเวลาที่เป็น Market place ดำเนินการเชื่อมผู้ซื้อและผู้ขายมากกว่า 190 ประเทศ โดยมีจำนวนผู้ซื้อผู้สนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 180 ล้านคนทั่วโลก
โดยสินค้าที่ขายบน eBay ส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันส่วนใหญ่กว่า 89 เปอร์เซ็นต์เป็นสินค้าที่สามารถซื้อได้ทันที มีราคาตายตัว ไม่ต้องรอประมูล โดยการประมูล ณ ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งของที่คนนิยมซื้อกว่า 79 เปอร์เซ็นต์ คือ สินค้าใหม่ ไม่ใช่สินค้ามือสอง หรือสินค้าใช้แล้วเหมือนเช่นในยุคเริ่มต้น โดยปัจจุบันรายได้ของ eBay ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายต่างประเทศ (นอกสหรัฐอเมริกา) มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดในองค์กร โดยมี Cross Border Trade หรือ CBT เป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของ eBay
ซึ่งแม้วันนี้การแข่งขันของเว็บไซต์ Market place ขายสินค้าออนไลน์จะเข้มข้นและรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ eBay ก็มีจุดแข็งในด้านสินค้าเฉพาะที่ไม่เหมือนกับ Market place อื่น เป็นของสะสม ของหายากที่มาจากทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้สินค้าที่หาได้บน eBay ไม่ซ้ำใคร และเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้ซื้อเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เรื่อยๆ
เอเชียแปซิฟิกขึ้นแท่นค้าปลีกข้ามประเทศใหญ่ที่สุด
โดยในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นตลาดค้าปลีกออนไลน์ระดับโลก eBay ได้นำเสนอข้อมูลงานวิจัย รวมถึงบทวิเคราะห์การเติบโตของตลาดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนับว่ามียอดการเติบโตสูงขึ้นแท่นเป็นภูมิภาคที่มีการค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศใหญ่ที่สุดในตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก โดยในปี 2561 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวม 23.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะเติบโตสู่มูลค่า 102 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ภายในปี 2568 สำหรับประเทศไทยเอง ซึ่งอยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของภูมิภาคมาก่อน ในปี น่าจะมีมูลค่าทางการตลาดธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมากถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เจนนี หุย ยังกล่าวต่ออีกว่าองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เอเชียแปซิฟิกมียอดการเติบโตสูงนั้น มาจาก 3 องค์ประกอบด้วยกัน ได้แก่ 1.สินค้าเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อบน eBay เป็นสินค้าเด่นที่มีการคัดสรรมาแล้ว 2.การที่ eBay มีโปรแกรมจัดการข้อมูลที่แบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถหาสินค้าได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น 3.ราคาที่ถูกกว่าถ้าเทียบกับตลาดอื่น ทำให้สามารถแข่งขันได้ดี
โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายดีในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเฉพาะที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เช่น ฮ่องกง สินค้าขายดี คือ สินค้าด้านอิเล็กทรอนิกส์ ไต้หวัน ได้แก่ อะไหล่รถยนต์ และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี ญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของใช้ของสะสม
ในส่วนของพฤติกรรมผู้ซื้อบนอีเบย์มีความคาดหวังในการซื้อออนไลน์ไมต่างจากการซื้อในออฟไลน์ เช่น การคืนสินค้า การบริการหลังการขาย และระยะเวลาขนส่งที่ต้องทำให้รวดเร็ว
CBT อี-คอมเมิร์ซที่กำลังมา
เจนนี หุย กล่าวว่าส่วนสำคัญหนึ่งที่ช่วยทำให้ตลาดการค้าอี-คอมเมิร์ซโลกเติบโตได้เพิ่มมากขึ้น คือ การค้าออนไลน์แบบข้ามประเทศ (Cross Border Trade) โดยซอร์จัยเซนึง 13 พันล้านคาดว่าในปี 2025 จะมีมูลค่าุ
รซื้อขายบนอีเบย์ และกลับมาซื้อซ้ำสามารถชำระพบว่าการซื้อขายแบบ CBT มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ชในตลาดทั่วโลกมากกว่า 1 เท่า โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าการตลาดซื้อขายออนไลน์ข้ามประเทศจะเติบโตถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563
ซึ่งหากมองเจาะลึกเข้าไปในตลาด CBT ในสมัยแรกเริ่มการซื้อขายออนไลน์ข้ามประเทศจะเป็นกิจกรรมที่ง่ายๆ เริ่มจากสินค้ามักจะเป็นสินค้าที่น้ำหนักเบา และราคาไม่แพง แต่ว่าถ้าเทียบการแข่งขันในตลาดค้าปลีกออนไลน์ข้ามประเทศในทุกวันนี้กิจกรรมการตลาดจะซับซ้อนขึ้นมาก เริ่มจากสินค้าไม่ได้มีข้อจำกัดแบบเดิมว่าต้องน้ำหนักเบาหรือราคาถูกเสมอไป ปัจจุบันนี้สินค้าขนาดใหญ่ก็สามารถส่งข้ามประเทศกันได้ และสินค้ามีแบรนด์ ราคาสูง หรือคุณภาพดีก็ได้ นอกจากนี้ผู้ขายก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาก จากการเป็นบุคคลธรรมดาค้าขายในลักษณะคอนซูมเมอร์ถึงคอนซูเมอร์ ก็พัฒนาขึ้นเป็นลักษณะของธุรกิจที่มีการจัดการเป็นระบบ มีการใช้ระบบไอทีเข้ามาใช้วางแผนการทำงานมากขึ้น ในด้านผู้ซื้อเองก็มีความคาดหวังในการซื้อขายออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน เช่น ถึงแม้จะซื้อขายออนไลน์ก็จริง แต่ก็ต้องได้รับบริการที่ดีมาก ไม่ต่างจากการซื้อหน้าร้านตามปกติ
ในอดีตตอนที่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ข้ามประเทศเพิ่งเริ่มต้นใหม่ๆ หรือ CBT 1.0 สมัยนั้นการซื้อขาย ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้า หรือขนส่งของ เหมือนจะเป็นการสื่อสารทางเดียวแล้วก็จบไป สั่งซื้อ จ่ายเงิน ส่งให้แล้วก็จบไป แต่หากเทียบกับปัจจุบันนี้การซื้อขายออนไลน์ข้ามประเทศ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างข้อมูลสินค้าที่ซับซ้อนกว่าเดิมมาก ถ้าสังเกตไปในเชิงข้อมูลจะพบว่ามีการใช้ Big data มาวิเคราะห์ธุรกิจค่อนข้างมาก อะไรขายดี พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างไร รวมถึงมีการใช้โซเซียลมีเดีย ผู้ซื้อและผู้ขายนิยมใช้มัลติสกรีน คือ มีหลายจอ มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มากกว่าหนึ่งจอ
ในด้านโลจิสติกส์เองมีการพัฒนาค่อนข้างสูง อาทิ มีการนำสินค้าไปเก็บไว้ในโกดังสินค้าต่างประเทศ เพื่อรอจัดส่งให้ถึงมือลูกค้า โอกาสในการเข้าถึงตลาดง่ายขึ้นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย การติดตามสินค้าที่ทันสมัยเพิ่มมากขึ้น ไปจนถึงการรับคืนสินค้าหากชำรุดเสียหาย หรือผู้ซื้อไม่พึงพอใจ ซึ่งในอดีตเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับรูปแบบการค้าออนไลน์
ไทยติดอันดับ 1 ใน 3 ขายดีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับการค้าขายบน eBay ในประเทศไทยเองนั้น ติดอยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสินค้าขายดีบน eBay มีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1.เครื่องประดับ 2.สินค้าสุขภาพ ความงาม 3.อะไหล่รถยนต์ 4.เครื่องใช้ในบ้าน ตกแต่งสวน 5.ของโบราณ ที่ระลึก สะสม โดยสินค้าที่ขายดีอันดับ 1 คือ เครื่องประดับ เนื่องจากช่างไทยมีฝีมือดี ละเอียด ประณีต โดยตลาดผู้ซื้อส่วนใหญ่มาจาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน รัสเชีย
โดยจุดแข็งที่เอกลักษณ์ของผู้ประกอบการไทย คือ มีสินค้าโดดเด่น แตกต่าง สามารถจูงใจผู้ซื้อบน eBay ได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีจุอ่อน คือ การใช้ภาษาในการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือที่ช่วยในการค้าขายยังทำได้น้อยอยู่
ในด้านสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าแปรรูป มีโอกาสขายได้บน eBay เช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องสอดคล้องกับตลาดผู้ซื้อ ยกตัวอย่างเช่น ใบชา หรือเมล็ดกาแฟ มีผู้นิยมอยู่มากบน eBay
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี