Photo : Wilkins
Main Idea
- หลายธุรกิจที่ฝันอยากเติบโตในต่างแดนอาจจะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย จนในที่สุดก็ต้องพับไอเดียกลับบ้านเมื่อธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ฝัน
- Wilkins หนึ่งในผู้ประกอบการไทยที่เคยเกือบถอดใจ ได้ลุกขึ้นมาบุกต่างประเทศอีกครั้งด้วยการใช้แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Amazon เพียงแค่ 6 เดือน สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ก้าวย่างของธุรกิจขนาดย่อมที่ฝันไปเติบใหญ่ในตลาดโลก อาจดูเหมือนเป็นเส้นทางที่ยาวไกล ต้องใช้พละกำลังมหาศาลในการพาธุรกิจออกนอกประเทศด้วยตัวเอง แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเปิดตลาดต่างประเทศให้คุณได้นั่นคือการขายบน E-commerce Platform ระดับโลกอย่าง Amazon
เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายคนในยุคนี้คงเริ่มคุ้นชินกับการขายออนไลน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และหากใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ในการพาแบรนด์ของคุณไปดังอยู่ใน Amazon ต้องลองฟังประสบการณ์จริงจาก 1 ในผู้ประกอบการไทยที่พาแบรนด์ Made in Thailand อย่าง Wilkins Original ไปขายอยู่บน Amazon เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ยอดขายของ Wilkins Original ก็เติบโตขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์
เปรม สุดสังเกตุ ชายหนุ่มผู้รักรองเท้าเป็นชีวิตจิตใจ จนได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลรองเท้าแบรนด์ Wilkins สำหรับจุดเริ่มต้นของการพาตัวเองเข้าไปขายใน Amazon เริ่มจากที่เปรมอยากลองตลาดต่างประเทศ เขาจึงสร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้น ผลปรากฏว่ามีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ แต่ติดปัญหาอยู่ที่ค่าขนส่งไปต่างประเทศค่อนข้างสูง
“ราคาสินค้าเราอยู่ที่ 300-400 บาท ทำให้ค่าส่งสินค้าไปต่างประเทศแต่ละทีไม่คุ้ม เพราะค่าส่งแพงกว่าค่าสินค้า วันหนึ่งได้เห็นโฆษณาของ Amazon ที่เป็นโครงการ JumpStart ซึ่งสามารถส่งสินค้าล็อตใหญ่ไปเก็บไว้ในโกดังสินค้าของ Amazon ได้เลย ผมเลยเรียนรู้จากตรงนั้นว่ามันช่วยเรื่องการขนส่งได้ ช่วยเรื่องการจัดการสต็อกสินค้าได้ ผมเลยเริ่มทำตลาดต่างประเทศจากจุดนั้น”
หลังจากที่เปรมได้ส่งสินค้าของเขาขึ้นสู่เว็บไซต์ Amazon ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศค่อนข้างดี สินค้าหลักของทาง Wilkins คือ Midsole Marker ปากกาที่ช่วยเปลี่ยนพื้นโฟมของรองเท้าให้กลับมาขาวเหมือนใหม่ ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครทำให้สินค้านี้กลายเป็นสินค้ายอดนิยมและได้รับรีวิวดีๆ จากลูกค้าที่ใช้จริงเป็นจำนวนมาก
เปรมจึงได้แชร์เคล็ดลับในการทำตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ได้ฟังดังนี้
- ดูความต้องการของตลาด
- สินค้าต้องดีจริง
- หมั่นเช็กเสียงตอบรับจากลูกค้า
หลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าจากคุณเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะมีการแสดงความคิดเห็นให้กับร้านค้าของคุณ และในบางครั้งพวกเขาอาจจะแสดงความคิดเห็นในแง่ลบ ตำหนิผลิตภัณฑ์ของคุณ และสิ่งต่างๆ เหล่านี้นี่แหละคือวิธีการพัฒนาสินค้าของคุณให้ดียิ่งขึ้น
“แบรนด์ของผมจะมีการพัฒนาตัวสินค้าตลอดเวลา ผมจะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด เพราะหากเราไม่พัฒนาก็เท่ากับว่าเราอยู่ที่เดิม สิ่งสำคัญคือการรับฟังเสียงจากลูกค้า ดูรีวิวว่าเขาชอบสินค้าเราตรงไหน มีตรงไหนบ้างที่เป็นข้อเสียของสินค้าเรา หากมีตรงไหนที่ไม่ดี เราก็พร้อมจะปรับปรุงและแก้ไขโดยไว ยกตัวอย่าง ปากกาทำความสะอาดรองเท้า ช่วงแรกเราจะได้รับรีวิวจากต่างประเทศที่ไม่ค่อยดีว่าหัวปากกาจะหลุดออกจากตัวปากกาค่อนข้างง่าย ซึ่งที่ผมขายในไทยยังไม่เคยเจอปัญหานี้ แต่ลูกค้าต่างประเทศเขาจะให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามาก พอเขาเจอแบบนี้เขาก็มารีวิวเลยว่า หัวปากกาไม่ค่อยดีนะ พอผมเห็นเสียงตอบรับ ผมก็ต้องรีบปรับปรุงสินค้าตัวนั้นให้ดีที่สุด จนได้รับการตอบรับที่ดีกลับมา” เขาบอก
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี