แปลและเรียบเรียง : เจษฎา ปุรินทวรกุล
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประกอบธุรกิจ เป็นผู้ประกอบการ แต่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจดเครื่องหมายการค้า (Trademark) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อสั้นๆ ที่เรียกว่า “โลโก้” แล้วล่ะก็ ขอให้จงรีบทำความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการจดเครื่องหมายการค้าเป็นการด่วน เพราะว่านี่หมายถึงการสร้างสัญลักษณ์ทางการค้า หรือสร้างโลโก้ให้กับแบรนด์ เพื่อให้ผู้ซื้อจดจำ และมั่นใจในคุณภาพของสินค้าได้ในระยะยาว
ยิ่งในยุคปัจจุบัน ก็เป็นยุคที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะอิทธิพลของเครื่องหมายการค้าและชื่อเสียงของแบรนด์ดังๆ การจดเครื่องหมายการค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจ
ซึ่งในบทความนี้ Abigail Rubinstein หุ้นส่วนของบริษัท Weiss & Arons ซึ่งรับให้คำปรึกษาด้านการจดเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ การออกใบอนุญาตแทบทุกชนิด รวมถึงกวาดล้างเครื่องหมายการค้าที่ลอกเลียนแบบแบรนด์ดังๆ ในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยเธอได้ออกมาเปิดเผยว่าทำไมการจดเครื่องหมายการค้าถึงได้มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ
1. เครื่องหมายการค้าคือเครื่องมือสื่อสารอันทรงประสิทธิภาพ เครื่องหมายการค้าหรือโลโก้สามารถถ่ายทอดลักษณะทางความคิด ทางอารมณ์ และถ่ายทอดข้อความของคุณ ข้อความของบริษัท ชื่อเสียง รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการไปสู่ลูกค้าได้
เครื่องหมายการค้าไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเป็นตัวสื่อสาร การออกแบบที่ดีต้องทำให้ผู้คนจดจำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาภาษาหรือตัวอักษร เช่น ไนกี้ (Nike) ซึ่งใช้การออกแบบที่สามารถทำให้คนทั่วโลกจดจำได้ไม่ยากโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารแบรนด์เมื่อต้องไปขายในตลาดต่างประเทศ
3. ในโลกอินเทอร์เน็ต เครื่องหมายการค้าก็สร้างการจดจำได้ สิ่งแรกที่ลูกค้าหรือผู้ที่ค้นข้อมูลใน Google หรือข้อมูลในโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook จะสามารถเห็นความเป็นแบรนด์ของคุณได้ก่อนสิ่งอื่นใดก็คือ เครื่องหมายการค้า หรือโลโก้ นั่นเอง ยิ่งโลโก้มีความโดดเด่น มีลูกค้าเข้ามาปฏิสัมพันธ์ด้วยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คนอื่นๆ มีโอกาสจดจำแบรนด์และโลโก้ของเราได้มากขึ้นเท่านั้น
4. เครื่องหมายการค้าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า เครื่องหมายการค้าจะมีค่ามากขึ้นเมื่อวันเวลาผ่านไป และยิ่งชื่อเสียงของแบรนด์เติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ แบรนด์ก็จะมีคุณค่ามากตามไปด้วย โดยสามารถแตกประเภทธุรกิจออกไปได้ด้วย เช่น แบรนด์ให้บริการด้านสุขภาพและความงามแบรนด์หนึ่งสร้างชื่อมาในระยะเวลานานนับสิบปี มีโลโก้ที่คนทั่วประเทศสามารถจดจำได้เป็นอย่างดี แบรนด์นั้นสามารถขยายธุรกิจออกไปเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมทาผิว น้ำมันนวดตัวอโรม่า ครีมอาบน้ำบำรุงผิว ฯลฯ
หรือถ้าวันหนึ่งคุณรู้สึกเหนื่อยกับการทำธุรกิจจริงๆ ก็สามารถขายเครื่องหมายการค้าของตัวเองให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ เช่นเดียวกับเฟซบุ๊คที่กวาดซื้อกิจการน้อยใหญ่ทั่วสหรัฐฯ เป็นว่าเล่น ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้เห็นว่าเครื่องหมายการค้าเป็นสินทรัพย์ที่คล้ายกับพวกอสังหาริมทรัพย์ ที่เราสามารถซื้อขายมมันได้ แต่ต้องดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพ (ชื่อเสียง) ดี
5. เครื่องหมายการค้าทำให้จ้างพนักงานง่ายขึ้น แบรนด์สามารถสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับคนทั่วไปได้ไม่ยาก โอกาสที่คนจะสมัครงานแบรนด์ดังๆ หรือเป็นที่รู้จักก็ค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์ที่โนเนมไร้ชื่อเสียง ที่สำคัญหากพนักงานมีความรู้สึกที่ดี มีความภูมิใจต่อแบรนด์ และผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่ ก็จะทำให้องค์กรมีอัตราการลาออกจากงาน (Turnover Rate) ต่ำกว่าแบรนด์ทั่วไปด้วย
6. ไม่มีวันหมดอายุ เครื่องหมายการค้าของคุณจะไม่มีวันหมดอายุ เพียงแต่ต้องคอยต่ออายุทุกๆ 10 ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณต่ออายุเครื่องหมายการค้าอยู่เรื่อยๆ การที่แบรนด์ของคุณจะรักษาชื่อเสียงไปยาวนานนับ 50 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างแบรนด์ทั่วโลกก็มีแบรนด์ที่อายุนับ 100 ปี อยู่เต็มไปหมด เช่น บริษัท Mercedes ได้จดเครื่องหมายการค้าในช่วงปี ค.ศ. 1900 ส่วนบริษัท Pepsi-Cola เองก็จดเครื่องหมายการค้าในช่วงปี ค.ศ. 1902 แต่ทั้ง 2 แบรนด์ ยังคงมีชื่อเสียงโด่งดังมาได้จนถึงทุกวันนี้ หนำซ้ำ เครื่องหมายการค้าของทั้ง 2 แบรนด์นี้ นับวันก็ยิ่งทวีความมีค่าและมีราคามากยิ่งขึ้น
ก่อนการทำเครื่องหมายการค้า คุณควรแน่ใจเสียก่อนว่า เครื่องหมายการค้าที่กำลังจะทำนั้น ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน หรือไม่ได้ไปเลียนแบบใครมา ไม่งั้นจากที่จะสามารถสร้างแบรนด์ให้มีชื่อเสียง อาจกลายเป็นชื่อเสียไปได้ และสิ่งที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ โลโก้ของคุณจะต้องแตกต่างจากโลโก้ของสินค้าอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันโดยสิ้นเชิง เพื่อความชัดเจนในการทำธุรกิจและป้องกันความสับสนจากลูกค้า
Create by smethailandclub.com