Main Idea
- ด้วยศักยภาพในการจับจ่ายทำให้ตลาดผู้สูงวัยนั้นหอมหวาน หลายธุรกิจต่างหันมาจับกลุ่มเป้าหมายในตลาดนี้ นำเสนอสินค้าและบริการที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสูงอายุกันมากขึ้น
- ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หรือพนักงานหน้าร้านมักเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งความต่างของวัยอาจเป็นอุปสรรคในการขายของให้ลูกค้าสูงอายุก็ได้ แต่ก็มีวิธีสร้างความเข้าใจระหว่างคนขายและผู้ซื้อสูงวัยอยู่เช่นกัน
ต้องยอมรับว่ากลุ่มผู้สูงวัยคือผู้บริโภคที่มีศักยภาพในการจับจ่ายสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อสัดส่วนของผู้ใหญ่วัยเก๋าเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น กลายเป็นตลาดที่หอมหวานสำหรับธุรกิจที่จะหันมาจับตลาดกลุ่มนี้ แต่เอาเข้าจริงผู้ประกอบการหรือพนักงานหน้าร้านก็มักเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่ากลุ่มเป้าหมายกันทั้งนั้น ความต่างของวัยอาจเป็นอุปสรรคในเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคเข้าก็ได้
เมื่อผู้ซื้อเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานกว่า เขาอาจจะไม่เชื่อถือคำพูดของคนขายวัยละอ่อน เพราะคิดว่าเราอาจไม่รู้จริงหรือไม่มีประสบการณ์มากพอ แล้วจะทำอย่างไรถึงจะดึงเงินออกจากระเป๋าเขาได้ล่ะ
เรามาว่ากันถึง 3 ขั้นตอนที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จะกุมหัวใจลูกค้าวัยเก๋าเอาไว้ได้กันดีกว่า
รู้จักและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ไม่มีอะไรจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าและบริการของเราจะตอบโจทย์ให้เขาได้ดีไปกว่าการที่เราพูดถึงปัญหาที่พวกเขากำลังเจอ ซึ่งการจะบอกอย่างนั้นได้ผู้ประกอบการก็ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเองให้ดีพอว่าเขากำลังเจอกับปัญหาหรือกังวลเรื่องอะไรอยู่
อ้างอิงความน่าเชื่อถือจากคนอื่น เมื่อลูกค้าสูงวัยยังไม่เชื่อใจคนขายวัยละอ่อน อย่าได้กังวลไป เพราะถึงประสบการณ์น้อยนิดของเราจะไม่สามารถทำให้พวกเขาเชื่อได้ ก็หยิบยกเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาบอกเล่าก็ได้ อย่างเช่น การบอกประสบการณ์ที่ลูกค้าคนอื่นได้รับจากสินค้าและบริการ หรืออ้างอิงตัวเลขสถิติที่เกิดขึ้นจริงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือก็ได้
ซึ่งบางครั้ง รีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าและบริการก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยที่จะทำให้เราสื่อสารกับลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
นำเสนอด้วยความมั่นใจ วิธีที่ใช้สื่อสารก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าสิ่งที่จะพูด ถ้าเรานำเสนอสินค้าและบริการด้วยความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่านี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่ท่องจำมา แต่เป็นความรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้น และสามารถบอกได้ว่าเหมาะกับลูกค้าอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถไว้วางใจสินค้าและบริการล่ะก็ ลูกค้าต้องรู้สึกว่าผู้ขายเคารพในความอาวุโสประสบการณ์ชีวิตของเขา ดังนั้น หากจะขายอะไรสักอย่าง สิ่งสำคัญคือต้องฟังมากกว่าพูด ถามและทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณกำลังเรียนรู้จากเขา ยิ่งทำมากแค่ไหนเขาก็จะเชื่อใจในแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น
ที่มา : Harvard Business Review
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี