ถ้าจะพูดถึงธุรกิจที่มีความท้าทายมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องยกให้กับ “ธุรกิจร้านอาหาร” ด้วยผู้บริโภคยุคนี้เต็มไปด้วยทางเลือกมากมาย มีร้านอาหารใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน คุณไม่สามารถห้ามให้ลูกค้าไปทดลองกินร้านอื่นได้ แต่สามารถทำร้านอาหารให้ดีที่สุด จนลูกค้าไปกินที่ไหนก็ไม่ติดใจเท่าร้านของคุณได้ อีกทั้งวันนี้การตัดสินใจเลือกร้านอาหารของผู้บริโภคไม่ได้เป็นอิสระอย่างแต่ก่อน เพราะการรีวิวบนโลกออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเป็นอย่างมาก
ข้อมูลเทรนด์ธุรกิจอาหารจาก Wongnai ได้เผยว่าในปี 2560 มีคนเข้ามาค้นหาข้อมูลกว่า 7,500,000 ครั้ง โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงถึง 60.2% และอยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปีมากที่สุด โดยคำค้นหายอดนิยมที่ผู้คนสนใจมีทั้งเมนูอาหาร ชื่อร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งย่านที่เหล่านักกินสนใจไปตามรอย เรียกได้ว่า ยิ่งร้านไหนที่มีการถูกพูดถึงและมีรีวิวที่ดีบนโลกออนไลน์ ยิ่งมีแนวโน้มว่าจะขายดีและประสบความสำเร็จมากเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจาก CMMU ที่ทำวิจัยเรื่อง Influencer Marketing ได้เผยว่า 75% ของผู้บริโภคเคยตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากที่เห็นรีวิว นั่นหมายความว่าการรีวิวมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขาถึง 3 ใน 4 เลยทีเดียว อีกทั้งอาหารและเครื่องดื่มยังเป็นสิ่งที่พวกเขาซื้อตามหลังจากเห็นรีวิวถึง 46.5% ด้วยกัน ส่วนร้านอาหารอยู่ที่ 38.8% โดยผู้บริโภคมีการติดตาม Influencer หรือ Blogger วงการอาหารประมาณ 53.6% เรียกได้ว่าการทำธุรกิจอาหารในยุคนี้ต้องครอบคลุมทั้งความอร่อย ความสะอาด ความแปลกใหม่ ไปจนถึงการทำอย่างไรให้เข้าตาผู้บริโภคและนักรีวิว
เคล็ดลับปรับกลยุทธ์ให้ร้านเข้าตาลูกค้าและบล็อกเกอร์
หากคุณมั่นใจว่าอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านของคุณผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งความอร่อยและความสะอาดแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณจำเป็นต้องเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น คือการดีไซน์แต่ละเมนูให้มีความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกวัตถุดิบจากสถานที่ที่มีเรื่องราว การผสมผสานสิ่งใหม่ให้กลายเป็นเมนูฟิวชั่น นอกจากนี้ การตกแต่งจานหรือดีไซน์การเสิร์ฟให้น่าสนใจ มีความสร้างสรรค์ ก็ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ และอยากที่จะแชร์ร้านคุณออกไปให้คนอื่นได้รับรู้ ด้วยการถ่ายภาพ การรีวิวบนโลกออนไลน์ รวมทั้งการบอกปากต่อปาก
นอกเหนือจากเรื่องของการสร้างสรรค์เมนูอาหารและเครื่องดื่มให้น่าสนใจ การตกแต่งร้านให้สวยงามก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึง เนื่องจากผู้บริโภคในยุคนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ผูกติดอยู่บนโลกโซเชียล ไม่ว่าพวกเขาจะเดินทางไปไหน หากสถานที่นั้นสวย ดึงดูดให้น่าถ่ายรูป ก็จะทำให้พวกเขาสนใจเป็นพิเศษ พร้อมทั้งยังแชร์ร้านคุณผ่านสังคมออนไลน์ของพวกเขาให้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินใด ๆ ในการโปรโมทอีกด้วย
เมื่อคุณมีเมนูที่น่าสนใจและร้านสวย ๆ แล้ว การพาร้านอาหารของคุณเข้าไปอยู่บนโลกออนไลน์ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยทำผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram สร้างแฟนเพจเพื่อตอบโต้กับลูกค้าของคุณ นอกจากนี้การทำให้ร้านของคุณมีตัวตนในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันรีวิวร้านอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น
Wongnai คือเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่รวบรวมฐานข้อมูลร้านอาหารไว้มากมาย เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้บริโภคได้เข้ามารีวิวประสบการณ์ร้านอาหารที่ตนเองเคยใช้บริการ หากพูดถึงทางฝั่งของผู้บริโภค Wongnai ถือเป็นเว็บไซต์อันดับ 1 ที่ทุกคนนึกถึงเมื่อต้องการค้นหาร้านอาหารหรือดูรีวิวร้านที่กำลังสนใจ แต่สำหรับทางฝั่งของผู้ประกอบการ Wongnai คือช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภคที่สำคัญ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำตลาดที่จะช่วยให้ร้านอาหารของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยทาง Wongnai จะมี Wongnai for business ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้กว่า 8,000,000 คน/เดือน จะมีการให้บริการโปรโมทธุรกิจของคุณผ่านสื่อต่าง ๆ ของ Wongnai ดังนี้
- แนะนำร้านอาหารของคุณบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันผ่านการค้นหาหรือที่เรียกว่า Listing Ads ช่วยเข้าถึงลูกค้าผ่านการแนะนำร้านโดยทีมงานมืออาชีพของ Wongnai
- โปรโมทร้านอาหารของคุณผ่านโซเชียลมีเดีย Wongnai เช่น Facebook, Instagram และ Twitter ซึ่งมีผู้ติดตาม รวมแล้วกว่า 9,600,000 บัญชี เพิ่มยอดขายและฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
- โปรโมทร้านอาหารของคุณด้วย VDO Story แนะนำเรื่องราวและที่มาของร้านคุณ สัมภาษณ์เจ้าของร้านผ่านบทความ 1 เรื่อง ครอบคลุมทั้งเนื้อหา รูปภาพและวีดีโอ นอกจากที่ร้านอาหารของคุณจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้วยังทำให้โปรไฟล์ของร้านมีความน่าเชื่อถือ ช่วยให้คุณได้สื่อสารกับลูกค้าถึง Passion และความตั้งใจในการทำธุรกิจผ่านคลิปวีดีโอ
แม้ว่าการทำธุรกิจร้านอาหารจะท้าทายมากเพียงใด แต่หากคุณเข้าใจลูกค้าในยุคนี้ รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร อีกทั้งยังพร้อมปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอเพื่อตามเทรนด์ให้ทัน การทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคุณ
สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่สนใจสิทธิพิเศษดังกล่าว สามารถสมัครร่วมแคมเปญได้ที่ SCB Business Center ทั้ง 5 สาขา ประกอบด้วย สยามสแควร์ ซอย 1, เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 (ฝั่งอิเซตัน), เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 3 (ฝั่งโรงภาพยนตร์), สำเพ็ง และเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ชั้น 5 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://businesscenter.scb.co.th หรือติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของ SCB SME ได้ที่ facebook.com/groups/scbsme
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี