ทุกคนคงรู้ดีว่า Platinum Fashion Mall เป็นแหล่งค้าปลีกค้าส่งสินค้าแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยสำหรับคนซื้อแล้วที่นี่คงเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายที่รวมทุกอย่างไว้ครบ จบ ในที่เดียว แต่หากมองในแง่ของพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจเปิดร้านขายของบนแพลทินัม ก็คงเรียกได้ว่าตลาดแห่งนี้คือ Red Ocean ดี ๆ นี่เอง
ในความเป็น Red Ocean ของแพลทินัมนั้น ย่อมนำมาซึ่งการแข่งขันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าของพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องพยายามพัฒนาสินค้าและหาสารพัดกลยุทธ์เพื่อมามัดใจลูกค้า และหนึ่งในร้านค้าที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ “ร้านแคทวอร์ค” ของ “อังคณา วชิระอารีรัตน์” โดยเธอเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามาเปิดร้านขายเสื้อผ้าในแพลทินัม เธอเริ่มต้นทำธุรกิจขายส่งกางเกงยีนส์มาก่อน แต่เมื่อมีโอกาสเข้ามาเปิดร้านอยู่ที่แพลทินัมชั้น 1 จึงได้แตกไลน์เสื้อผ้าให้เข้ากับกลุ่มคนเดินแพลทินัมมากขึ้น จึงกลายมาเป็นร้านแคทวอร์คที่ขายเสื้อผ้าแฟชั่นสุดเปรี้ยว ในตอนนี้ โดยมี 2 สาขาอยู่ในแพลทินัมด้วยกัน คือชั้น 1 และชั้น 4
“เสื้อผ้าของร้านเราจะมีทั้งขายส่งกางเกงยีนส์และเน้นไปทางเสื้อผ้าที่สไตล์วิบวับ มีเลื่อม เรามีตั้งแต่เสื้อสายเดี่ยว เสื้อมีแขน แจ็คเก็ต หมวก เนคไท เครื่องประดับต่าง ๆ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใส่ไปงานปาร์ตี้ งานเลี้ยงบริษัท งานราตรี งานแต่งงาน หรือกลุ่มนักเต้นก็มีที่เป็นลูกค้าเรา”
ด้วยความที่ร้านค้าบนแพลทินัมมีค่อนข้างมาก ทำให้หลายครั้งต้องเจอกับปัญหาการขายตัดราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้า เรียกได้ว่าการทำร้านให้ประสบความสำเร็จบนแพลทินัมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“เวลาที่เราต้องขายสินค้าท่ามกลางร้านอื่น ๆ เราต้องพยายามที่จะหาแบบไม่ชนกับร้านอื่นๆ ต้องมีออเดอร์ของตัวเอง เอาแบบไปสั่งทำให้ไม่เหมือนใคร บางทีถ้าแบบชนกันเราก็ต้องเริ่มหาวิธีการใหม่ เช่น ทำโปรโมชั่น มีการลดราคา เพราะชั่วโมงนี้ถ้าขายของเหมือนกัน ทำกำไรได้ยาก เพราะตัดราคาสู้กัน เราเลยต้องหาแบบที่ไม่เหมือนใครเลย เราก็จะขายของได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวใครตัดราคา ต้องทำตัวเองให้แตกต่าง มีโปรโมชั่นให้ลูกค้าบ้าง อย่างลูกค้ากางเกงยีนส์ขายส่ง ถ้าซื้อถึงยอดก็จะได้ราคาพิเศษหรือลูกค้าหน้าร้าน ซื้อครบ 3 ตัวก็จะได้ราคาส่ง ด้วยความที่สินค้าในร้านเราค่อนข้างเยอะ นอกจากเสื้อผ้าก็มีพวกหมวก เครื่องประดับ เวลาที่ลูกค้าเลือกซื้อ สามารถคละกันได้หมด เขาก็จะได้เลือกซื้อทั้งชุด พอยิ่งได้ราคาส่งอีก ลูกค้าก็แฮปปี้”
นอกจากจะใช้เรื่องของความต่างและกลยุทธ์ด้านโปรโมชั่น เป็นจุดที่ทำให้ร้านค้าสามารถแข่งขันได้แล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ร้านแคทวอร์คเลือกใช้ เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ นั่นคือ การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแอปพลิเคชัน Platinum Guide ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ SCB พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายในแพลทินัมให้เจอกันได้ง่ายขึ้น โดยผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าในแพลทินัมสามารถเสิร์ชความต้องการลงไป จากนั้นจะมีลิสต์ร้านค้าขึ้นมาให้เลือกมากมายพร้อมกับที่ตั้งของร้าน อีกทั้งยังสามารถกดแผนที่ให้นำทางไปที่ร้านได้เลยทันที ส่วนข้อดีของฝั่งพ่อค้าแม่ค้าบนแพลทินัม ก็จะได้นำเสนอร้านของตัวเองให้ลูกค้าได้เห็นก่อน สามารถใส่โปรโมชั่น ใส่รูปภาพ มีข้อมูลการติดต่อแบบครบถ้วน ช่วยให้ลูกค้ารู้ว่าคุณมีสินค้าอะไรที่โดนใจพวกเขาบ้าง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้ได้อีกด้วย
“ร้านพี่ก็อยู่บน Platinum Guide พี่เองก็เป็นลูกค้าของ SCB พอเริ่มมี Platinum Guide เข้ามา ตั้งแต่แรก ๆ เลยก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยจัดการให้ร้านเราขึ้นไปอยู่บน Platinum Guide มันดีนะ บางทีลูกค้าหาร้านเราไม่เจอก็สามารถเปิดจากตรงนี้ได้เลย หรือบางทีเขาเสิร์ชอยากได้ชุดไปงานปาร์ตี้ ชุดเลื่อม พอเสิร์ชแล้วก็จะเจอร้านเรา ทำให้ลูกค้าสามารถหาร้านค้าได้ง่ายขึ้น และเราเองก็มีโอกาสที่จะปิดการขายได้มากขึ้นด้วย เพราะลูกค้าจะเห็นหมดเลยว่าในร้านนั้นขายสินค้าอะไรบ้าง ตอนนี้มีโปรโมชั่นอะไรอยู่ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น”
ในบางครั้งการจะทำธุรกิจให้สำเร็จอาจต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์และตัวช่วยที่ดี เพื่อจะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและ Platinum Guide นี่แหละคือเครื่องมือที่ทำให้ร้านค้าในแพลทินัมสามารถทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและพร้อมสำหรับการแข่งขัน สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่สนใจนำร้านค้าแพลทินัมของคุณขึ้นบน Platinum Guide สามารถสมัครได้ที่ https://goo.gl/rH2GvU ส่วนนักช้อปที่ไม่อยากพลาดร้านเด็ด ๆ บนแพลทินัม สามารถดาวน์โหลดแอปฯ Platinum Guide ได้ทั้งจาก iOS และ Android ได้ที่ลิ้งค์นี้ https://goo.gl/vcCyBK
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี