คิดว่าธุรกิจของคุณจะเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ตลอดเวลาไหม หากมันเริ่มผิดแผนขึ้นมาคุณจะทำยังไง คำตอบคือรื้อแผนการตลาดมาปัดฝุ่นสักนิดหนึ่ง แล้วดูว่ามีอันไหนใช้ได้อันไหนใช้ไม่ได้ จากนั้นค่อยลงมือสร้างแผนการตลาดที่จะนำไปสู่เป้าหมายใหม่อีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้น ลองมาเช็คดูกันว่าสัญญาณตัวใดที่บ่งชี้ว่าคุณควรปรับปรุงแผนการตลาดบ้าง
1. ขาดความชัดเจนในตัวแบรนด์
ทุกคำพูดของแบรนด์ คือสิ่งที่ผู้บริโภคเชื่อและคาดหวัง แต่ถ้าคำพูดกับการกระทำไม่สอดคล้องกัน เรื่องนี้ย่อมทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและผิดหวัง และยังเป็นการบังคับผู้บริโภคให้ไปมองหาแบรนด์อื่นที่มอบความคาดหวังให้กับเขาได้แทน
สิ่งที่ควรระวังเรื่องการสร้างความปฏิสัมพันธ์กันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคอีกอย่างก็คือ หากเนื้อหาของเว็บไซต์ ป้ายโฆษณา และสื่อทางการตลาดอื่นๆ มาจากหลายๆ บริษัทที่คุณจ้างให้เขาทำ ต้องคอยติดต่อบริษัทนั้นๆ ให้ทำเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกันในทุกสื่อตลอดเวลา เพราะหากเกิดการผิดพลาด แบรนด์ย่อมขาดความชัดเจนและน่าเชื่อถือ
2. คุณเริ่มมองไม่เห็นอนาคต
ลองคิดเล่นๆ ดูว่า ในอีก 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า ธุรกิจคุณจะก้าวไปอย่างไร และไปถึงจุดไหนได้ ถ้าคุณไม่สามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้ นั่นหมายความว่าแผนการตลาดในปัจจุบันมันถึงทางตันแล้ว ดังนั้นต้องเริ่มมองหาเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เพื่อปรับปรุงแบรนด์ตลอดจนแผนการตลาดเพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวไปถึงจุดหมายได้
3. คุณเริ่มไม่รู้วิธีเข้าหาลูกค้า
ถ้าคุณเริ่มไม่รู้ว่าจะติดต่อลูกค้าผ่านสื่อไหนด้วยวิธีอย่างไร นั่นก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า การตลาดของคุณไม่ครอบคลุมเรื่องการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า แม้ว่าทุกวันนี้สื่อจะมีให้ใช้งานค่อนข้างหลากหลาย แต่อย่าไปสับสนกับมัน
คุณต้องพยายามกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มผู้รับสาร และค้นหาให้พบว่าข้อมูลหรือเนื้อหาใดมีประโยชน์กับลูกค้า ซึ่งต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับทุกช่องทาง ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุโซเชียลมีเดีย การอ่านบล็อกและอื่นๆ ทั้งนี้ เมื่อเราสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ก็จะทราบความต้องการของเขาเพื่อนำความตอบสนองกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป
4. คุณพูดถึงแต่ตัวเอง
คงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับคุณ ถ้าวันๆ คุณเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง “ฉันสวย” “ฉันมีของดีจะอวด” “ฉันมีของลดราคา” “ฉัน...” อวดได้ไม่กี่วัน รับรองเพื่อนที่มีอยู่จะค่อยๆ หายไปจากตัวคุณ
บนโลกของการทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน การเอาแต่พูดถึงตัวเองไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ คุณต้องหัดทำความรู้จักผู้คน ทั้งรายบุคคล ในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ฯลฯ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเขา ซึ่งการปลูกฝังความสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยสร้างความจงรักภักดีกับแบรนด์ได้ภายในอนาคต
5. คู่แข่งดูดีกว่าเรา
หากดูจากภาพรวมการตลาดของคู่แข่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน เห็นว่าเขาเริ่มบดบังรัศมีของเรามากขึ้นทุกวันๆ ก็ถือเป็นอีก 1 สัญญาณที่เราต้องปรับปรุงการตลาดเช่นกัน
จังหวะนี้ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบการตลาดของคู่แข่ง เพราะการลอกเลียนแบบไม่สามารถทำให้เราก้าวนำเขาไปได้ แต่ให้ลองค้นหาดูว่ามีอะไรที่คุณทำให้ลูกค้าได้ แต่คู่แข่งทำไม่ได้ แล้วเริ่มสร้างกลยุทธ์จากตรงนั้นเพื่อให้ทั้งโลกได้รู้จักกับคุณซะ
สุดท้ายอย่าลืมว่าความประทับใจครั้งแรก (First Impressions) เป็นสิ่งสำคัญมาก แถมลูกค้าในโลกออนไลน์ก็คิดไว ตัดสินใจไวกันแทบทั้งนั้น ถ้าคุณไม่สามารถบอกพวกเขาได้ว่าคุณเป็นใคร ทำอะไร จะช่วยอะไรเขาได้อย่างไร ภายในเวลา 2-3 วินาที ลูกค้าบนโลกออนไลน์ก็จะคลิกเมาส์ย้ายหน้าหนีไปในทันที
ทั้งนี้ การปรับปรุงแผนการตลาดอาจมอบโอกาสสำคัญที่จะทำให้บริษัทของคุณไม่ถอยหลัง ก้าวนำคู่แข่ง และไดรู้จักกับกลุ่มลูกค้าที่กว้างกว่าเดิม แต่อย่าเสี่ยงทำให้ความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มเก่าต้องพังทลายไปเพราะการปรับปรุงแผนการตลาดเชียว เพราะมันไม่คุ้มเลย
เรียบเรียงจากบทความของ Susan Gunelius ซีอีโอ (CEO) บริษัท KeySplash Creative ซึ่งเป็นบริษัทการสื่อสารการตลาด สร้างแบรนด์และโซเชียลมีเดีย และรับเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดด้วย