ทำยังไงเมื่อคนรุ่นใหม่เลิกเล่น Facebook

     เชื่อไหมว่าเดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่เขาทยอยเลิกเล่นเฟซบุ๊กกันแล้ว หลายคนอาจคิดในใจ เลิกเล่นแล้วไง เกี่ยวอะไรกับเรา? เกี่ยวแน่นอนหากคุณทำธุรกิจออนไลน์และมี Facebook เป็นหนึ่งในช่องทางการขายหรือแม้แต่เพจข่าวสารต่างๆ ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้างไม่มากก็น้อย ทั้งตัว Facebook ที่ปรับ Algorithm ไม่หยุดหย่อน แถมวัยรุ่นเดี๋ยวนี้เขาก็หนีไปเล่น Social Network Platform อื่นๆ กัน มันเป็นเพราะอะไร แล้วต้องทำยังไงถึงจะหาตัวลูกค้าวัยรุ่นกลุ่มนี้เจอ?


     อาจจะไม่ใช่ millennial แบบ 100% ที่หันหลังให้ Facebook แต่ก็นับว่าเป็นตัวเลขที่ทำให้ Facebook มีปัญหาที่เรียกว่า Teen problem อีกด้วย ข้อมูลจาก eMarketer ได้นำเสนอว่าผู้ใช้งาน Facebook ที่อายุระหว่าง 18-24 ปีมีอัตรการใช้งานที่ลดลงประมาณ 5% โดยตัวเลขล่าสุดของผู้ใช้งานFacebook ที่อายุระหว่าง 18-24 ปีในประเทศอังกฤษอยู่ที่ 83% และคาดว่าจะลดลงเหลือ 81.5% ในปี 2021 สำหรับ Social Network ที่วัยรุ่นหันไปเล่นแทนเฟสบุ้คคือ Snap Chat, Instagram รวมถึง Twitter


     ด้วยความที่ตอนนี้มีกลุ่มผู้ใหญ่หรือกลุ่มพ่อแม่ ผู้ปกครองที่หันมาเล่นเฟซบุ๊กกันมากขึ้น ก็สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้วัยรุ่นยุคนี้อยากหนีการถูกติดตามบนโลกโซเชียล อีกทั้งยังเบื่อหน่ายกับพวก Fake News ต่างๆ ซึ่ง Facebook กลายเป็นโลกโซเชียลที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป หากว่าคุณเป็นแบรนด์ที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่น การทำตลาดผ่านโลกเฟซบุ๊กอาจจะไม่ใช่หนทางเดียวอีกต่อไป คุณอาจจะต้องมองในมุมใหม่และดูสิว่า ลูกค้าของคุณกลุ่มนี้ เขาอยู่ที่ไหนบนโลกออนไลน์กันแน่

 


 

1. อย่ายึด Facebook เป็นทำเลหลัก

     อาจแบรนด์ หลายธุรกิจที่เริ่มต้นกระโดดลงมาทำตลาดออนไลน์ในยุคดิจิตอล คงเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสร้างแฟนเพจและขายของบน Facebook เนื่องจากไม่ต้องลงทุนมากนัก แต่มาช่วงหลังนี้ หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องลงเงินค่าโฆษณาเยอะมากถึงจะทำให้กลุ่มผู้ติดตามเห็นโพสต์ แถมยังขายไม่ค่อยดี ลงสินค้าไปคนไม่ค่อยสนใจที่สำคัญคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล

     ดังนั้นการยึดเฟซบุ๊กเป็นทำเลหลักอาจทำให้คุณเสี่ยงเกินไป ลองปรับวิธีการนำเสนอบน Facebook ใหม่ด้วยการลดการขายลงแล้วเพิ่มการนำเสนอที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ข้อดีคือคุณจะได้ผู้ติดตามที่เป็นแฟนของคุณมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะโพสต์อะไร เขาจะสนใจและจะง่ายต่อการขาย นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอีกมากมายที่เหมาะสำหรับการขาย ไม่ใช่แค่ Facebook เพียงอย่างเดียว ลูกค้าวัยรุ่นยุคนี้ จะฮาร์ดเซลอะไรต้องคิดให้ดี  เพราะเขาไม่ซื้ออะไรถ้าไม่ถูกใจจริงๆ
 

2. ทำการตลาดบนแพลตฟอร์มอื่นบ้าง

     อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าในยุคนี้วัยรุ่นเขาสิงสถิตกันอยู่ที่ Social Network อีกมากมายไม่ใช่แค่ Facebook แล้ว หลายคนแทบไม่ได้ Log in เข้า Facebook เป็นเดือนๆ แต่กลับไปเล่น Twitter เพราะมี Privacy ที่มากกว่า หลายคนชอบเล่น Instagram ถ่ายรูปสวยๆ ได้ใกล้ชิดเหล่า Celebrity ระดับโลกแถมตอนนี้ยังมี IGTV ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ Facebook จึงกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆ ถ้าอยากจะท่องโลกออนไลน์ แบรนด์ของคุณจึงต้องตามโลกให้ไว วัยรุ่นอยู่ไหนต้องไปโชว์ตัวให้พวกเขาได้เห็น มีแบรนด์รุ่นใหม่จำนวนมากที่เข้าใจความต้องการของคนรุ่นใหม่ด้วยกันเอง บางคนเริ่มเปิดตัวแบรนด์จากบน Twitter บางคนเริ่มจาก Instagram เพราะเขาบอกว่าตอนนี้สำหรับคนหน้าใหม่ Facebook เป็นอะไรที่ยากและท้าทายมาก

     นอกจาก Social Network การขายสินค้าตาม Merketplace ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ มากมายที่คุณสามารถลงขายสินค้าได้โดยไม่ต้องเสียเงิน
 

3. วัยรุ่นยังต้องการออฟไลน์

     ความจริงแล้ววัยรุ่นยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่ความรวดเร็วสะดวกสบายซื้อของออนไลน์อย่างเดียว พวกเขาก็ยังคงต้องการจับต้องสินค้า ต้องการ Experience ที่ดีจากการช้อปปิ้ง ยกตัวอย่างจากเหล่า Multi-brand Store ทั้งหลายที่ขนขบวนแบรนด์ออนไลน์มาไว้แบบออฟไลน์เพื่อให้ลูกค้าวัยรุ่นได้รับประสบการณ์ซื้อสินค้าที่ต่างจากออนไลน์ที่จ่ายเงินแล้วจบ แต่การซื้อแบบออฟไลน์ ลูกค้ายังได้สัมผัส ได้กลิ่น ได้เห็น ได้ลองยิ่งถ้ามี Service ที่ดีรับรองว่าลูกค้าไม่หายไปไหนแน่นอน เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่รู้ว่าจะหาลูกค้าวัยรุ่นอยู่ไหน พวกเขาก็ยังเดินจับจ่ายใช้สอยกันอยู่ตามแหล่งการค้า ตาม Multi-brand Store ต่างๆ ไปจน Flea Market ที่ยังคงคึกคักและเป็นโอกาสที่ดีในการที่คุณจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าวัยรุ่นแบบ Face to face




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี