ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา กาแฟดอยช้าง ถือเป็นกาแฟสัญชาติไทยเจ้าแรกที่นำเอาอัตลักษณ์ความเป็นไทยและเมล็ดกาแฟคุณภาพระดับสูงไปปักหมุดและสร้างชื่อเสียงอยู่ในแผนที่กาแฟโลก เทียบเท่าแหล่งผลิตกาแฟระดับโลกอย่าง บราซิล และ โคลอมเบีย เพราะนอกจากรสชาติอันเข้มข้นและกลิ่นหอมแล้ว กาแฟดอยช้างยังเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษคุณภาพสูง (Specialty Coffee) ที่มาจากแหล่งผลิตเฉพาะ (Single Origin) บริเวณดอยช้าง จังหวัดเชียงราย แหล่งเดียวเท่านั้น ซึ่งผลผลิตเมล็ดกาแฟจากดอยช้างจะมีเอกลักษณ์ด้านกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เจือรสชาติอมเปรี้ยว และมีคาเฟอีนต่ำ ทำให้กาแฟทุกแก้วของดอยช้างมีรสชาติกลมกล่อม จนได้รับการยอมรับในเวทีโลกและมีมาตรฐานระดับสากล อาทิ USDA Organic, EU Organic Farming, EU Geographical Indication และ Specialty Coffee Association เป็นเครื่องการันตีคุณภาพ
ปณชัย พิสัยเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา กาแฟดอยช้างมีช่องทางการขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เฉลี่ยเป็นอัตราส่วนในประเทศ 30% และต่างประเทศ 70% โดยกาแฟดอยช้างเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันกาแฟดอยช้างสามารถผลิตกาแฟตอบสนองตลาดพรีเมียมได้ ไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อปี โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาในประเทศมากกว่า 200 สาขา ทั้งในระบบแฟรนไชส์และร้านกาแฟพันธมิตร และอีกกว่า 50 สาขาในต่างประเทศ อาทิเช่น แคนาดา อังกฤษ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และ เมียนมา เป็นต้น โดยหากสามารถบรรลุแผนการดำเนินงานที่ตั้งเอาไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้ กาแฟดอยช้างจะสามารถเพิ่มงานและรายได้อีกมากมายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ
ขณะที่พิษณุชัย แก้วพิชัย ประธานที่ปรึกษาด้านธุรกิจ บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดและแนวโน้มของธุรกิจของกาแฟดอยช้างว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา กาแฟดอยช้างยังคงยึดมั่นคำสัญญาในการนำส่งกาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษคุณภาพสูง (Specialty Coffee) ออกสู่ผู้บริโภค ซึ่งหลักการทำกาแฟที่มีคุณภาพสูงและมีความพิถีพิถัน เปรียบได้กับการทำไวน์ชั้นเลิศ โดยองค์ประกอบของกาแฟดี ได้แก่ สายพันธุ์กาแฟ ดิน อากาศ เกษตรกร กระบวนการทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว และแบรนด์ดิ้ง การได้รับรางวัลด้านมาตรฐานระดับสากล ทำให้ยิ่งมั่นใจว่ากาแฟดอยช้างเป็นกาแฟระดับพรีเมียมที่อยากนำเสนอให้คอกาแฟคนไทยได้ลิ้มรส เราจึงได้ปรับมุมมองการบริหารธุรกิจกาแฟดอยช้าง จากธุรกิจเพื่อชุมชน สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มคอกาแฟตัวจริง
สำหรับการรุกตลาดประเภท B2C (Business-to-Consumer) เพื่อขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป ดอยช้าง คาเฟ่ (Doi Chaang Caffe’) คือ สิ่งที่จะตอบโจทย์กลยุทธ์นี้ โดยรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ของกาแฟดอยช้าง มี 2 รูปแบบ คือ Coffee venue และ Stand alone ซึ่งแบ่งพื้นที่ในการลงทุนออกเป็น 3 ขนาด คือ S : 30 – 50 ตรม. / M : 51 – 100 ตรม. / L :101 – ตรม. ขึ้นไป ทางกาแฟดอยช้างพร้อมสนับสนุนทั้งเรื่องการดำเนินงานและการบริหารธุรกิจร้านกาแฟด้วยทีมงานมืออาชีพ อีกทั้งการให้คำแนะนำและการฝึกอบรมพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านของการชงและด้านการบริการ รวมไปถึงคู่มือการปฏิบัติงานที่ได้มาตรฐานสากล การจัดหาและการส่งมอบวัตถุดิบต่างๆ พร้อมแผนการตลาดที่จะทำให้กาแฟดอยช้างเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ ยังได้ปรับภาพลักษณ์ทั้งในเรื่องโลโก้ บรรจุภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดและที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ รูปแบบของงานดีไซน์และการตกแต่งดอยช้าง คาเฟ่ โดยนำความทันสมัย โมเดิร์น แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพมาผสมผสานกับเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมชนเผ่า ทั้งนี้ ตั้งเป้าไว้เพื่อขยายเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ไว้ที่จำนวน 50 สาขาต่อปี ซึ่งภายในปี 2565 จะมีร้านกาแฟดอยช้างมากกว่า 300 สาขา มากกว่าในปัจจุบันถึง 5 เท่า
“หากมองย้อนกลับไป จำนวนการเติบโตของสาขากาแฟดอยช้างอาจจะยังไม่สูงมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราพิถีพิถันในการเลือกทำเลและสถานที่ตั้ง เพราะเราอยากมั่นใจว่าร้านกาแฟดอยช้างจะอยู่บนทำเลที่ดีและเหมาะสม นอกจากนี้ การคัดเลือกคู่ค้าธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มีใจรักในการดื่มกาแฟพรีเมียม มีความเข้าใจในการบริหารธุรกิจร้านกาแฟ และพร้อมที่จะบริหารร้านกาแฟด้วย “ใจ” ก็เป็นอีกส่วนที่อย่างมาก เพราะเราอยากให้ระบบแฟรนไชส์ของเรามีมาตรฐานและความพร้อม เพื่อที่จะสามารถส่งมอบกาแฟคุณภาพพรีเมียมและประสบการณ์กาแฟที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา”
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการบุกตลาดประเภทธุรกิจโฮเรกา (HORECA : Hotel - Restaurant - Café and Catering) เนื่องจากภาพรวมธุรกิจโฮเรก้าในปีที่ผ่านมามีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยว ส่งผลให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟผุดขึ้นทุกถนน โรงแรมที่พักหรือแทบทุกเมืองที่เป็นทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักหรือเมืองรอง ต่างก็มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟหน้าใหม่เกิดขึ้น จึงเล็งเห็นว่าหากกาแฟดอยช้างสามารถผลิต ’กาแฟสด’ ในรูปแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในธุรกิจนี้ได้ จะทำให้เปิดโอกาสทางธุรกิจไปสู่อีกกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์และยกระดับการให้บริการกับโรงแรมนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ พิษณุชัย ได้กล่าวประเมินทิศทางตลาดกาแฟในประเทศว่า “ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาตลาดกาแฟในประเทศไทยมีความคึกคักและตื่นตัวค่อนข้างสูง ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะเห็นร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ทำให้ตลาดร้านกาแฟบ้านเรามีมูลค่าสูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ถึง 2 ดิจิต เพราะพฤติกรรมการดื่มกาแฟนอกบ้านของผู้บริโภคนั้นยังคงขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกาแฟดอยช้างจะขอมุ่งเน้นไปที่การเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบกาแฟพรีเมียม หรือ กาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษคุณภาพสูง (Specialty Coffee) ที่เน้นคุณภาพของเมล็ดกาแฟ อันเป็นหัวใจหลักของกาแฟดอยช้างเป็นสำคัญ”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี