เดี๋ยวนี้การเป็นเจ้าของธุรกิจบนโลกออนไลน์มันช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณมีอีเมล กดสมัคร สร้างร้านค้า เท่านี้คุณก็เริ่มต้นธุรกิจ สร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ได้แล้ว ด้วยความง่ายแบบนี้ทำให้ใครหลายคนกระโดดเข้ามาเล่นบนโลกออนไลน์ ทุกโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยแบรนด์ต่างๆ ที่ลงแข่งขัน นอกจากคู่แข่งจะเยอะแล้ว ลูกค้ายังตัดสินใจซื้อสินค้ายากขึ้นด้วย หลายแบรนด์โอดโอยเป็นเสียงเดียวกันว่าขายยากเหลือเกินในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและขายดีบนโลกออนไลน์ ต้องวางกลยุทธ์ให้ดี โดย 10 Checklist ต่อไปนี้จะทำให้คุณตัวเองว่ายังขาดอะไรบ้าง
เป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น การตั้งเป้าหมายต้องเริ่มจากการที่คุณรู้จักตัวเองดีพอ รู้ว่าคุณคือใคร คุณกำลังทำอะไรและคุณต้องการอะไร ถ้าคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ คุณก็จะสามารถสื่อสารให้ทุกคนรู้จักคุณได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนยังทำให้คุณสามารถกำหนดธีมของแบรนด์ ธีมการทำคอนเทนต์ไปจนถึงการขายสินค้าให้ตรงจุด
กลุ่มผู้ชมในที่นี้ก็คือลูกค้าของคุณนั่นเอง เหล่าผู้ชมที่จะติดตามคุณในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter ไปจนถึงผู้ชมในเว็บไซต์ของคุณนั้น ใช่คนที่คุณตามหาหรือยัง ถ้าคุณตอบว่าใช่ คำถามต่อมาคือคุณรู้จักพวกเขาดีแค่ไหน การที่คุณรู้จักกลุ่มผู้ชมของคุณเป็นหัวใจสำคัญในการทำ Online Marketing
ตอนนี้มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้เยอะมากบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ในการสร้าง Community หรือสร้างกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน Youtube ที่เหมาะสำหรับการทำคอนเทนต์วีดีโอ หรือ Instagram ที่สามารถให้คุณสามารถโชว์รูปสวยๆ เปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดรวมไปถึงการลงเรื่องราวของแบรนด์คุณแบบเรียลไทม์ใน Story
- คิดถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์
เชื่อว่าทุกแบรนด์ต้องมีเรื่องราว ที่มาที่ไปกว่าจะก่อร่างสร้างตัวมาเป็นธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณได้ในทุกวันนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือการสื่อสารออกไปให้ชัดเจนว่าทำไมลูกค้าถึงต้องเลือกคุณ คุณพิเศษกว่าอีกหลายหมื่นแบรนด์บนโลกออนไลน์อย่างไรด้วยการใช้คอนเทนต์เป็นเครื่องมือ นี่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากทีเดียว คุณต้องมองจากวัตถุดิบในมือที่คุณมี เช่น ที่มาของแบรนด์คุณน่าสนใจ คุณมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่หาไม่ได้จากที่อื่น แบรนด์ของคุณดีต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ร้านของคุณตกแต่งไม่เหมือนใครไปจนถึงวิธีการทำงานของคุณและอีกหลายอย่างที่ลูกค้าอยากรู้
- รู้จักคีย์เวิร์ดของตัวเอง
การรู้จักคีย์เวิร์ดของตัวเองจะทำให้คุณสามารถสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น เช่น ถ้าคุณนึกถึง Apple จะต้องนึกถึง iPhone, iPad, Technology, Smart ความฉลาดของผู้ก่อตั้ง เพราะ Apple มีการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้คนคิดถึง Apple ก็สามารถนึกภาพได้เป็นฉากๆ ถึงสินค้าของแบรนด์ ที่คุณต้องทำคือการหาคีย์เวิร์ดของตัวเอง พยายามใช้คีย์เวิร์ดในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณในโซเชียลมีเดียต่างๆ นอกจากนี้การใช้ Hashtag ก็มีพลังในการสื่อสารเช่นเดียวกัน ลองหา Hashtag ที่ใช่สำหรับแบรนด์คุณและอย่าลืมใส่ Hashtag ที่จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใช่ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องมีคือการจัดตารางในการโพสต์และนำเสนอเนื้อหาต่างๆ คุณอาจจะสร้างเป็นตารางประจำเดือนหรือประจำสัปดาห์เพื่อช่วยทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของการนำเสนอเนื้อหาทั้งหมด นอกจากนี้ยังทำให้คุณควบคุมความสมดุลระหว่างเนื้อหาการขายและเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ด้วย
เวลาที่คุณใช้ Social Media หลายๆ แพลตฟอร์มพร้อมกันอาจจะทำให้คุณรู้สึกปวดหัวขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเวลาโพสต์ในแต่ละช่องทาง การเก็บสถิติ โพสต์แบบไหนดี แบบไหนไม่ดี ลองใช้ Social Media Tool เพื่อควบคุมการทำงานบน Social Media ของคุณดีกว่า เช่น Hootsuite เป็น social media management ช่วยให้คุณจัดการ Social ของคุณทุกช่องทางได้พร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาแถมยังมี Report ดูสถิติได้ง่ายๆ
- อย่าลืมทบทวนตัวเองตลอดเวลา
ความสะดวกของการใช้ Social Media ในการทำแบรนด์คือการที่คุณสามารถ Tracking ตัวเลขได้ตลอดเวลา ต่างจากการทำ Marketing แบบ Manual ที่เก็บสถิติได้ยาก อย่างการดูตัวเลขบน Facebook ง่ายๆ ก็คือการดูยอดคนเข้าถึงโพสต์ จำนวนคนไลค์ คนแชร์แถมยังมีหลังบ้านให้คุณดูตัวเลขแบบ Insight การนำตัวเลขเหล่านี้มาวิเคราะห์บ่อยๆ จะทำให้คุณรู้ว่าผู้คนใน Social Media ของคุณชอบเรื่องราวแบบไหน เวลาไหนเป็นเวลาที่ดีที่สุด พวกเขามี Reaction อย่างไรกับโพสต์ของคุณ
ด้วยความที่ Social Media เป็นอะไรที่เร็ว เปลี่ยนได้ตลอดเวลาอีกทั้งพฤติกรรมของลูกค้าบนโลกออนไลน์ยังเข้าใจได้ยาก วันนี้ชอบแบบนี้ พรุ่งนี้อาจจะชอบอีกแบบ ทำให้คุณต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตัวเอง อย่าหยุดนิ่ง คล้ายกับเป็นการทำงานทดลอง อะไรที่โดนใจก็เก็บไว้ทำต่อ อะไรที่ไม่โดนใจวันหน้าอาจจะโดนใจก็ได้ เพราะฉะนั้นต้อง Active ตัวเองอยู่เสมอ
ในการจับตาดูคู่แข่ง ไม่ได้หมายความว่าให้คุณก็อปปี้ความสำเร็จของเขา แต่เป็นการเรียนรู้เขาอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไร อะไรที่เขาทำแล้วดีก็เรียนรู้ไว้ อะไรที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจก็ต้องจดจำไว้และอย่าทำแบบนั้นเด็ด อย่ามองว่าคู่แข่งคือคู่แข่ง มองว่าพวกเขาเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ต้องเรียนรู้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี