​17 แบรนด์ดัง กับความหมายที่ซ่อนอยู่ใต้ชื่อ

 
 
     เคยสงสัยไหมว่าหลายบริษัทดังทั่วโลกเขามีที่มาของแบรนด์หรือชื่อบริษัทจากไหน โอเคว่าเราอาจจะรู้จักและคุ้นเคยเพราะบริษัทเหล่านั้นประสบความสำเร็จทางธุรกิจ  แต่ทราบหรือไม่ว่าชื่อบริษัทหรือแบรนด์มักมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ มาดูกันว่า 17 บริษัทข้ามชาติเขามีวิธีการตั้งชื่ออย่างไร และมีความหมายเช่นไร

 
IKEA

     Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้งบริษัท ตั้งชื่อโดยนำอักษรแรกของชื่อและนามสกุลของเขามารวมกับอักษรแรกของฟาร์ม Elmtaeyd และหมู่บ้าน Agunnaryd ที่เขาเติบโตมา
 

Canon

     ชื่อเดิมคือ Kwanon หรือพระโพธิสัตว์ในภาษาญี่ปุ่น โดยหวังว่าพระองค์จะอำนวยให้ประสบความสำเร็จในการผลิตกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดในโลก ปี 1935 เปลี่ยนชื่อเป็น Canon เพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น
 

LEGO 

     มาจากรากศัพท์ LEG GODT ในภาษาเดนิชแปลว่า play well หรือการเล่นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องบังเอิญที่ LEGO ในภาษาละตินนั้นยังมีความหมายว่าต่อเข้าด้วยกันอีกด้วย
               

Sony

     มาจากภาษาละติน Sonus แปลว่า “เสียง” ช่วงทศวรรษ 1950 มีคำว่า Sonny boy เกิดขึ้นกลายเป็นแสลงหมายถึง Smart Presentable Young Men และต่อมาชื่อแบรนด์ถูกเปลี่ยนเป็น Sony
               

Haagen-Dazs

     ชื่อที่ไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด เจ้าของแบรนด์เพียงต้องการตั้งชื่อให้ดูเป็นภาษาเดนิชเพื่อจะสื่อถึงเดนมาร์กเป็นที่รู้จักดีในเรื่องของผลิตภัณฑ์จากนม และเป็นประเทศที่มีภาพลักษณ์ดีในสหรัฐฯ
               

WD-40

     น้ำมันเอนกประสงค์ยอดนิยมยี่ห้อนี้ ใช้อักษร WD = water displacement (ไล่น้ำ ไล่ความชื้น) ส่วนตัวเลข 40 มาจากการทดลองสูตรที่ล้มเหลว 39 ครั้ง ก่อนจะประสบความสำเร็จในการทดสอบครั้งที่ 40 จึงมีการตั้งชื่อแบรนด์ WD-40
               

Yahoo

     เป็นคำย่อของ Yet Another Hierarchical Officious Oracle และ “ยาฮู” ยังเป็นชื่อตัวละครหนึ่งในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “การเดินทางของกัลลิเวอร์” ของโจนาธาน สวิฟต์
               

Pepsi

     ชื่อเดิมของน้ำอัดลมแบรนด์นี้คือ Brad’s Drink ตั้งตามชื่อ Caleb Bradham ผู้คิดค้นเครื่องดื่มนี้ ต่อมาปี 1898 เปลี่ยนแบรนด์เป็น Pepsi มาจาก dyspepsia ศัพท์ทางการแพทย์ หมายถึงภาวะอาหารไม่ย่อย การเปลี่ยนเป็น Pepsi เพื่อสื่อว่าเป็นเครื่องดื่มช่อยย่อย


Google

     แผลงจาก googol เป็นศัพท์คณิตศาสตร์หมายถึงจำนวนมหาศาล คือเป็นจำนวนซึ่งมีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลัง 100 หรือเลข 1 ที่มีเลขศูนย์ตามอีก 100 ตัว
               


Virgin

     ในการระดมความคิดเพื่อตั้งชื่อแบรนด์ สมาชิกหญิงคนหนึ่งในทีมของริชาร์ด แบรนสัน ผู้เป็นเจ้าของบริษัทนำเสนอชื่อ virgin หมายถึงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ด้วยเหตุผลที่ทีมงานยังใหม่ต่อธุรกิจ
               


Blackberry

      เนื่องจากอุปกรณ์สื่อสารส่วนบุคคลแบรนด์นี้ ปุ่มตัวอักษรหน้าจอมีลักษณะเรียงกันเหมือนผิวของผลแบล็คเบอร์รี่
               

Spotify

      บริการเช่าเพลงออนไลน์ยอดนิยม เกิดจากผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คนตะโกนคุยกันข้ามห้องเพื่อเช็คสถานะโดเมนเนมว่าชื่อไหนว่าง ปรากฏว่าอีกคนฟังผิด เลยใช้ Spotify มาตลอด แต่แก้เขินด้วยการบอกว่ามาจากคำว่า spot + identify
   
            
Oracle

     เป็นชื่อรหัสโปรเจกต์ที่แลร์รี่ เอลลิสัน และบ็อบ โอทส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทดำเนินการให้กับหน่วยข่าวกรอง CIA ของสหรัฐฯ โปรเจกต์นี้เกี่ยวเนื่องกับการทำฐานข้อมูลที่สามารถตอบคำถามได้ทุกอย่าง
 

Starbucks

     อดีตเคยใช้ชื่อ Starbo ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชื่อตัวละครในหนังสือเรื่อง Moby Dick ส่วนโลโก้มาจากการค้นพบรูปแกะสลักโบราณสมัยศตวรรษที่15 นางเงือกไซเรนสองหาง (Norse Siren) เป็นเทพนิยายปรัมปรา ชวนให้นึกถึงการผจญภัยในทะเล
               

Reebok

     สะกดได้อีกแบบคือ Rhebok เป็นศัพท์แอฟริกัน+ดัทช์หมายถึงสัตว์ประเภทละมั่ง ตั้งใจสื่อถึงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปราดเปรียวและสง่างาม
 

Skype

     มาจากคำว่า Sky-peer-to-peer หมายถึงการติดต่อกับเพื่อนผ่านสัญญาณในอากาศ ต่อมาเปลี่ยนเป็น Skyper แต่ชื่อโดเมนเนมนี้มีคนใช้แล้ว จึงตัด R ออก เหลือเป็น Skype ในที่สุด
 

Amazon

     เจฟ เบซอส ผู้ก่อตั้งอเมซอนต้องการชื่อบริษัทขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A เมื่อไล่เรียงดู จึงตัดสินใจเลือกชื่อ Amazon เพราะต้องการให้บริษัทของเขายิ่งใหญ่ดังผืนป่าอเมซอน
 
 

ที่มา
https://www.inc.com/adam-fridman/why-your-company-name-is-as-important-as-your-company-function-adam.html
http://www.businessinsider.com/how-17-famous-companies-got-their-names-2015-7



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี