Text : กองบรรณาธิการ
Photo : ฝ่ายภาพ SME Thailand
ถ้าพูดถึงรูปแบบการชงกาแฟแบบดริป ร้านแรกเลยที่จะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก Gallery กาแฟดริป ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งตัวอยู่บนชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ย่านสี่แยกปทุมวัน ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างกระแสโด่งดังให้กับวงการกาแฟไทย โดยเป็นร้านกาแฟร้านแรกที่มีการนำวิธีการชงแบบดริปมือมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าแบบเต็มรูปแบบ โดยไม่ใช้เครื่องชง ทำให้ผู้คนต่างหันมาทดลองเสพกาแฟในรูปแบบที่ดื่มด่ำเรียนรู้รสชาติที่หลากหลายมากกว่าแค่การดื่มกาแฟเพื่อคลายง่วง โดยชั่วระยะเวลาให้หลังเพียง 3 เดือนจากที่เปิดร้าน ชื่อของ Gallery กาแฟดริป ก็เริ่มติดลมบน สื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสื่อออนไลน์ต่างๆ ให้ความสนใจมารุมล้อมสัมภาษณ์ไม่ขาดสาย พอๆ กับปริมาณลูกค้าที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงไปเลย ยังไม่นับรวมถึงการมาเยี่ยมเยือนเป็นลูกค้าจากผู้บริหารของร้านกาแฟเชนใหญ่ที่ต้องการมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่มีคำว่าฟลุกแน่นอน อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ร้านกาแฟเล็กๆ ดังกล่าว สร้างอิทธิพลต่อวงการกาแฟไทยได้ถึงเพียงนี้ ปิยชาติ ไตรถาวร หนึ่งในเจ้าของร้าน Gallery กาแฟดริป จะมาเปิดเผยสูตรโมเดลการทำธุรกิจอย่างคนบ้ากาแฟให้ฟัง
เลือกทำสิ่งที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน
ด้วยความที่มีอาชีพเป็นช่างภาพและเป็นคนที่ชอบกาแฟอย่างมาก จึงได้ถ่ายรูปกาแฟมาเรื่อยๆ จนเริ่มมีคนให้ความสนใจ ขอนำรูปไปใช้บ้าง ระหว่างนั้นก็เริ่มศึกษาอุปกรณ์กาแฟต่างๆ ไปด้วย จนมาเจอกับเครื่องบดมือหมุนโบราณที่ทำให้สามารถบดกาแฟดื่มเองได้ง่ายๆ และได้สั่งเข้ามาลองใช้เองก่อน จนคนอื่นเห็นก็อยากได้บ้าง และรู้ว่าเราสามารถซ่อมให้ใช้งานได้ด้วย จึงเริ่มสั่งเข้ามาเรื่อยๆ จากสองสิ่งนี้จึงทำให้ชื่อของปิยชาติค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในวงการกาแฟ จนวันหนึ่งเมื่อคิดที่จะเปิดร้านของตัวเองขึ้นมา โจทย์แรกคือ ทำอย่างไรให้เป็นที่รู้จัก เปิดมาแล้วไม่เคว้ง พยายามนึกถึงสิ่งที่ยังไม่มีคนทำมาก่อน หรือยังไม่มีคนทำสำเร็จ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบชงกาแฟแบบดริปดื่มเอง และไม่เห็นว่ามีใครเอามาทำเป็นรูปแบบร้านจริงจัง ทั้งที่เป็นวิธีที่มีมานาน หลายร้านก็มีขาย แต่ไม่ได้ถูกชูให้เป็นพระเอก จึงคิดทำขึ้นมา เป็นวิธีคิดแบบง่ายๆ แต่ที่สำคัญคือ ต้องมองให้เห็นโอกาส ความน่าจะเป็นไปได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการหลับตาแล้วเดิน
หยั่งเสียงโหวต ปูเรื่องราวค่อยๆ ให้ซึมซับไปเรื่อยๆ
เมื่อตัดสินใจว่าจะทำร้านกาแฟดริป ปิยชาติเริ่มสอบถามจากเพื่อนๆ ที่รู้จักทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ว่า ถ้าคิดทำแบบนี้ขึ้นมาจะมีคนสนใจไหม ซึ่งมีคนให้ความสนใจพอสมควร จึงเริ่มวางแผน หาทำเล จนมาได้ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ ระหว่างที่กำลังจะเปิดร้านก็เจอกับเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ต้องเลื่อนเวลาเปิดออกไป ระหว่างนั้นพยายามสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่กำลังจะทำ โดยเปิดเพจร้านขึ้นมา ค่อยๆ บิลท์เรื่องราวไปเรื่อยๆ คนก็เริ่มเข้ามากดไลค์เพจและติดตาม จนก่อนเปิดร้านเรามีลูกเพจประมาณ 7,000คนได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน และโชคดีอีกที่เคยทำงานด้านสื่อมวลชนมา เพื่อนๆ เห็นก็เข้ามาขอสัมภาษณ์ก่อนที่ร้านจะเปิดตัวอีก เพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่ ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน เรื่องราวของ Gallery กาแฟดริปจึงเหมือนถูกปูทางมาเรื่อยๆ และมีคนติดตามรอชม จนกระทั่งถึงวันเปิดร้านวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 มีคนให้ความสนใจมากันมาก ทั้งคนรู้จักและคนที่ไม่รู้จัก แต่สนใจ อยากมาดูว่าคืออะไร จึงกลายเป็นกระแสขึ้นมา ร้านเชนใหญ่ๆ อย่างสตาร์บัคส์ แบล็คแคนยอน ดิโอโร่ ฯลฯ มากันหมด ฉะนั้นกล้าพูดได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนบางอย่างของวงการกาแฟเมืองไทย ทำให้คนรู้จักกาแฟในอีกแง่มุมมากขึ้น
สร้างสัญลักษณ์ ปักหมุด ยืดหัวหาด
เมื่อเลือกวางตัวเองทำสิ่งที่แตกต่าง ปิยชาติบอกว่าก็ต้องทำให้ถึงที่สุด นอกจากลงทุนเรื่องร้านแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสัญลักษณ์ด้วย ด้วยการลงทุนทำดริปเปอร์ หรือกรวยดริปกาแฟเซรามิกขึ้นมาเป็นของตัวเอง เป็นเจ้าแรกๆ อีกเหมือนกันที่คิดทำขึ้นมาในเมืองไทย แม้ในแง่ของต้นทุนจะสูงมากแต่ก็ต้องทำ เพราะถือเป็นการปักหมุดไปด้วยว่า Gallery กาแฟดริป คือ ผู้นำในด้านนี้เป็นคนแรก เหมือนการได้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นคนแรก ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน หรือจะมีใครทำขึ้นมาอีก แต่เราก็ได้เป็นคนแรกไปแล้ว เรียกได้ว่าใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ที่ทำให้แบรนด์ Gallery กาแฟดริปติดลมบน สร้างกระแสการรู้จักในวงกว้าง มีลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง มีสื่อเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ถ้านับตั้งแต่เปิดร้านมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งโซเชียลมีเดีย ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมๆ แล้วกว่า 20-30 แห่งได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการเลือกทำในสิ่งที่แตกต่าง
สัมพันธภาพ หัวใจสำคัญของการไปต่อ
การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักคือ สิ่งสำคัญ แต่จะรักษายังไงให้ไปต่อคือสิ่งสำคัญเหมือนกัน ทุกวันนี้คนมาที่นี่ไม่ใช่แค่มาสั่งกาแฟดื่ม จ่ายเงิน แล้วไป จบ บางคนไม่ได้อยากมาดื่มกาแฟ แต่อยากมาคุย บางคนมาแค่ฝากของ แวะมาทักก็มี มันเป็นความสัมพันธ์อีกขั้นหนึ่งไปแล้ว เป็นความยั่งยืนอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจ โดยพยายามคิดตลอดว่า ถ้าเราเป็นลูกค้า อยากจะได้อะไรจากร้านกาแฟแบบนี้ เราก็ทำแบบนั้น ซึ่งตอนที่เราเป็นคนกิน เราอยากรู้มากว่ากาแฟแต่ละตัวเลยว่ามีต้นกำเนิดมาจากไหน มีรสชาติโดดเด่นอย่างไร จึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ถ่ายทอดเรื่องราวของกาแฟแต่ละตัวออกไป ทั้งกาแฟไทย กาแฟต่างประเทศ พยายามปรับเปลี่ยนหาสิ่งใหม่ๆ มาให้ได้ทดลองอยู่เสมอ เพราะ Gallery กาแฟดริป คือร้านหนึ่งที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องกาแฟ ในการที่จะทำออกมาให้ดี ให้อร่อย เรียกว่าเป็นร้านของคนบ้ากาแฟก็ว่าได้ แต่นอกจากนั้นเรามีความจริงใจ มีความเป็นเพื่อนรวมอยู่ด้วย มีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: MARKETING
เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวนานาชาติ ททท.และสายการบิน EVA Air จึงขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวต่อเนื่อง 4 ปี ในการกระตุ้นตลาดหลักทั้งระยะใกล้และระยะไกลผ่านเครือข่ายเส้นทางการบินของ EVA Air
จากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย ทำให้หลายแบรนด์มุ่งหน้าบุกตลาดต่างจังหวัด และนี่คือเคล็ดลับ 10 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณรุกตลาดภูธรได้สำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน