Text : กองบรรณาธิการ
การนำวีดิโอเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นวีดิโอเพื่อความบันเทิง เพื่อให้ข้อมูลหรือคำแนะนำ ทั้งหมดนี้ล้วนถูกใช้เพื่อตอบสนองกลยุทธ์ทางการตลาดและการสร้างแบรนด์จนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ อ้างอิงจากผลสำรวจของ Demand Metric บริษัทวิจัยด้านการตลาดชื่อดังระดับโลก เปิดเผยข้อมูลว่า นักการตลาดในปัจจุบันเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้วีดิโอในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งในจำนวนนั้นมีถึง 82 เปอร์เซ็นต์ที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จ ตัวเลขที่สูงขนาดนี้น่าจะเป็นเหตุผลให้เราหันกลับมาเริ่มต้นการตลาดด้วยวีดิโอ (Video Marketing) กันไม่มากก็น้อย โดยเริ่มจาก
1. ระบุเป้าหมาย
เริ่มต้นด้วยการคิดถึงวัตถุประสงค์ และเป้าหมายในการทำวีดิโอขึ้นมา เช่น ต้องการสร้างความโดดเด่นหรือความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ ใช้เพื่อประชาสัมพันธ์หรือให้คำแนะนำในบางเรื่อง หรือทำเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เป็นต้น เพราะการกำหนดเป้าหมายจะทำให้เราสามารถกำหนดเนื้อหา ช่องทางและวิธีการในการเผยแพร่ได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังควรต้องกำหนดดัชนีชี้วัดความสำเร็จด้วย ยกตัวอย่างเช่น กำหนดความสำเร็จด้วยยอด View หรือกำหนดด้วยยอด Share เป็นต้น
2. สร้างเนื้อหาให้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อมีเป้าหมายในการสร้างวีดิโอแล้ว พยายามคิดต่อไปว่าใครจะเป็นผู้ชมวีดิโอนี้บ้าง เพื่อพัฒนาเนื้อหา คำพูด บท และรูปแบบให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ดูแล้วเข้าใจง่าย นอกจากนี้อย่ามองข้ามเรื่องความสร้างสรรค์และความแปลกใหม่ของเนื้อหา เพื่อสร้างการดึงดูดและความโดดเด่นให้กับวีดิโอด้วย
3. ควรมี Call to action
Call to Action คืออะไร เจ้าสิ่งนี้ก็คือ ปุ่มหรือแบนเนอร์ต่างๆ หากอยู่ในเว็บไซต์ก็จะเป็นปุ่มสมัคร (Sign Up) ซื้อสินค้า (Buy Now) หรือในปัจจุบันหากเป็นการชมวีดิโอก็อาจจะเห็นปุ่มสมัครสมาชิก (Subscribe) เพื่อสมัครสมาชิกโผล่ขึ้นมา เป็นต้น ทั้งนี้ไม่ว่าวีดิโอของเราจะยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ก็อาจไม่สามารถทำให้เป้าหมายที่วางไว้เกิดผลสำเร็จได้หากปราศจากปุ่ม Call to Action ดังนั้น พยายามนึกถึงสิ่งที่เราต้องการให้ผู้ที่ได้รับชมวีดิโอลงมือทำหลังจากชมวีดิโอเสร็จ เช่น ใส่ปุ่มสั่งซื้อ เข้าชมเว็บไซต์ หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมใน Facebook เพิ่มเข้าไปในวีดิโอ
4. เผยแพร่วีดิโอหลายๆ ช่องทาง
การกำหนดช่องทางการเผยแพร่วีดิโอนั้น ไม่ใช่เผยแพร่แค่หน้าเว็บไซต์หรือ Facebook ของตัวเอง พยายามนึกถึงโซเชียลมีเดียประเภทอื่นๆ ที่เหมาะสมหรือกลุ่มเป้าหมายนิยมใช้โซเชียลมีเดียประเภทนั้นๆ อยู่ด้วย รวมถึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าวีดิโอของเราสามารถรับชมผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้
ในอนาคต ปริมาณวีดิโอบนโลกออนไลน์จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะทำวีดิโอเพื่อความบันเทิงและให้ข้อมูลออกมา แบรนด์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ จึงต้องพยายามต่อสู้กันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยวีดิโอให้ครอบคลุมเนื้อหาแบบไม่น้อยหน้าคู่แข่ง เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างแบรนด์ และสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี