Text : กองบรรณาธิการ
เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับเทศกาลกินเจปี 2560 จะเห็นได้ว่าปัจจุบันคนที่กินเจ ไม่ได้มีเฉพาะแต่กลุ่มสูงอายุเท่านั้น กลุ่มวัยรุ่น คนวัยทำงานก็เริ่มหันมากินเจมากขึ้นทุกปีจนทำให้มูลค่าของตลาดนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างในปีที่แล้วเม็ดเงินในช่วงกินเจก็สะพัดกว่า 4,500 ล้านเลยทีเดียวและในปีนี้คาดว่ากระแสคนกินเจจะเยอะขึ้นแน่นอน ทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจร้านอาหาร ขายวัตถุดิบอาหารเจที่จะต้องหันมาจับทางลูกค้าให้ตรงจุด เงินก็จะไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน
1. Offline ต้องเน้น Online ต้องมา
สำหรับธุรกิจร้านอาหารสาย Healthy หรือคนที่ทำอาหารคลีนอยู่แล้วก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีและได้เปรียบเพราะคุณมีฐานลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพอยู่ในมือ ซึ่งกลยุทธ์ในช่วงกินเจ นอกจากที่คุณจะบริการพวกเขาในร้านอาหารหรือขายแบบหน้าร้านแล้ว อีกหนึ่งช่องทางที่ห้ามพลาดและต้องทำจริงจังเลยคือช่องทางออนไลน์ ขายผ่านโซเชียลมีเดียและส่งตรงถึงมือลูกค้าแบบ Delivery เพราะผู้บริโภคที่กินเจยุคใหม่จะเป็นกลุ่มคน Gen Y คนทำงานมากขึ้น ไลฟ์สไตล์พวกเขาชอบความรวดเร็ว มีความเร่งรีบในแต่ละวัน อยากที่จะทำดี กินเจแต่ก็ติดปัญหาในเรื่องของภาระหน้าที่และเวลาที่ไม่ค่อยจะมี ลองจับทางพวกเขาให้ถูก พวกเขาก็จะเลือกเป็นร้านอาหารเจในดวงใจช่วงนี้แน่นอน
2. งานดีไซน์ก็สำคัญไม่แพ้รสชาติ
ใครว่าอาหารเจจะต้องรสชาติจืด เลี่ยนๆ มันๆ อย่างเดียว เดี๋ยวนี้ทั้งอาหารเจ อาหารคลีนหรืออาหารสุขภาพไปจนถึงอาหารมังสวิรัติ ก็มีการดีไซน์และใช้วัตถุดิบอร่อยๆ แถมยังทำให้ออกมาเหมือนเนื้อสัตว์เป๊ะ โดยธุรกิจอาหารที่อยากจะขายดีในช่วงกินเจจะต้องสร้างสีสันด้วยการใช้ดีไซน์ในการทำอาหารเข้ามาช่วย เช่น ใช้ผักหลายสีในหนึ่งเมนู จัดจานให้เก๋พร้อมถ่ายรูป ลองใช้วัตถุดิบแทนเนื้อสัตว์ทำเมนูเจช่วยให้ลูกค้ากินง่ายมากขึ้น สร้างสรรค์เมนูเจใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ผัดหมี่ ผัดผักหรืออะไรเดิมๆ ลองใช้เมนูที่มีความฟิวชั่น เช่น แฮมเบอร์เกอร์เจ ผัดไทเจ พิซซ่าเจ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะ
3. อย่าลืม Content Marketing
ในยุคที่ Content is king แบบนี้ ช่วงเทศกาลเจก็ต้องไม่ลืมที่จะใช้คอนเทนต์เข้าถึงลูกค้า โดยแบรนด์ต่างๆ อาจจะเริ่มปูทางก่อนถึงเทศกาลเจด้วยข้อดีของการกินเจ รวมทั้งกินเจในช่วงนี้เป็นการทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวงรัชการที่ 9 นอกจากนี้ยังสามารถทำคอนเทนต์ทั้ง Infographic หรือเขียนเป็นบทความสั้นๆ ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น การนับแคลอรี่ในอาหารเจ กินเจอย่างไรไม่ให้น้ำหนักพุ่งกระฉูด ไปจนถึงการทำ Video Content เช่น วิธีทำอาหารเจทานเองง่ายๆ แต่แอบแฝงโฆษณาให้มาซื้ออาหารเจที่ร้านคุณได้สารอาหารครบกว่า อร่อยกว่า ราคาไม่แพง ลองใช้ความคิดสร้างสรรค์และสร้างคอนเทนต์เจ๋งๆ ไม่เหมือนใครในช่วงกินเจก็จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
4. จัดหน้าร้านให้เข้า Theme
สำหรับร้านค้า ร้านอาหารในช่วงกินเจ การตกแต่งหน้าร้านหรือแม้แต่การแต่งตัวของพนักงานคนขายก็สำคัญ อย่างที่เขาบอกว่าเทศกาลกินเจคือช่วงถือศีลกินเจ ตามร้านรวงต่างๆ จะเต็มไปด้วยป้ายประดับตกแต่งสีเหลืองและธงสีเหลืองที่เป็นสัญลักษณ์ในช่วงนี้ พ่อค้าแม่ค้าอาจจะเน้นการนุ่งขาวห่มขาวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านของตนเอง รวมทั้งอาจจะมีการวางวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารในช่วงนี้ เช่น ซอสถั่วเหลืองสูตรเจ น้ำมันเจ น้ำปลาเจ ซอสปรุงรสเจ รวมถึงนำผักต่างๆ มาตกแต่งหน้าร้านให้ดูเข้ากับกระแสกินเจและยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านของคุณว่าใช้วัตถุดิบที่ดีในการทำอาหารเจจริงๆ
5. สร้างแคมเปญ ทำความดี
สำหรับกลยุทธ์สุดท้ายที่จะทำให้ลูกค้าเลือกคุณเป็นร้านเจในดวงใจก็คือการทำความดี โดยใช้แคมเปญ เช่น คุณจะนำเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญหลังจากหมดเทศกาลเจหรือ ซื้อ 1 จานแถม 1 จานให้เด็กยากไร้ การใช้วิธีทำความดีแบบนี้จะช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกว่านอกจากจะได้ทำความดีด้วยการกินเจแล้วยังได้บุญเพิ่มขึ้นถ้าเลือกกินเจกับร้านของคุณ เงินที่พวกเขาจ่ายไปไม่สูญเปล่าแต่จะได้ช่วยเหลือสังคมไปพร้อมๆ กัน กลยุทธ์แบบนี้ก็ดีมากเช่นกันในช่วงเทศกาลกินเจ แต่อย่าลืมว่าต้องทำออกมาด้วยใจด้วยนะ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี