เคล็ดลับการสร้างระบบชำระเงินออนไลน์ให้โดนใจลูกค้า

 

 

             ทุกวันนี้การจะขายของบนโลกออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นทุกวัน ด้วยช่องทางการขายที่เพิ่มขึ้น และเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีให้บริการอยู่มากมาย บางเว็บใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มธุรกิจออนไลน์ คุณควรทำความคุ้นเคยกับระบบต่างๆ ของเว็บไซต์โดยเฉพาะระบบการชำระเงินให้ดี หากไม่ใช้เวลาทำความเข้าใจ เมื่อลูกค้าต้องมาเผชิญกับปัญหาหรือพบข้อสงสัย เราอาจไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะตอบ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของลูกค้าได้ 
 

 

             เอาเป็นว่าเรามาดูวิธีการสร้างระบบชำระเงินออนไลน์ให้โดนใจลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและสร้างโอกาสในการชำระเงินสูงขึ้นดีกว่า
 

 

             1. สร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้า   

 

             ขณะที่ผู้ท่องโลกออนไลน์ส่วนใหญ่รู้จัก eBay และ PayPal ซึ่งมีระบบการชำระเงินที่ทันสมัยและปลอดภัย แต่คนกลุ่มเดียวกันนี้อาจไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์หรือสินค้าของคุณมาก่อนเลย การจะทำให้เขาสนใจและกล้าจ่ายเงินให้กับคุณได้ เว็บไซต์ของคุณควรมีระบบ Secure Sockets Layer หรือ SSL คือ ระบบความปลอดภัย ที่นิยมใช้กันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจซื้อสินค้าในเว็บไซต์ที่ไม่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย
 

 

             2. ไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้า

 

             อีกสาเหตุที่ไล่ลูกค้าได้เป็นอย่างดีก็คือ การบังคับให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหน้าเว็บไซต์ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถล็อคอินเพื่อซื้อสินค้าได้  เหมือนจะเป็นสิ่งดีที่ เพราะฐานข้อมูลที่ได้จากการสมัครสมาชิกนั้นสามารถทำให้เรานำข้อมูลไปต่อยอดและทำการตลาดซ้ำกับกลุ่มเป้าหมายเดิมได้ แต่จำไว้เสมอว่า ความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าต้องมาก่อน ลูกค้าอาจไม่ต้องการเสียเวลากรอกข้อมูลแม้จะใช้เวลาแค่ไม่นานก็เถอะ หรืออาจกลัวว่าให้ข้อมูลไปแล้วทางเจ้าของเว็บไซต์จะเอาไปทำอะไรต่อก็ไม่รู้ ข้อมูลจะหายหรือรั่วไหลไหม หรืออาจมองแค่ว่ายุ่งยากน่ารำคาญ แล้วก็ปิดหน้าเว็บไซต์ไปซะเฉยๆ โดยไม่กลับมาซื้อสินค้าอีกเลยก็ได้
 

 

             วิธีการแก้ปัญหาที่ทันสมัยในยุคนี้คือการลงทะเบียนโดยใช้เฟซบุ๊ค ซึ่งนั่นหมายความว่า เว็บไซต์ของคุณต้องมีความทันสมัย สามารถล็อคอินด้วยเฟซบุ๊คได้ทันที หรือถ้าเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ที่ไม่ต้องการลงทุนอะไรมาก ก็ลองใช้ระบบ Guest Checkout คือ มีช่องทางสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการสมัครสมาชิกให้สามารถซื้อสินค้าได้นั่นเอง

 

             3. มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย

 

             หลังจากลูกค้าเลือกสินค้าใส่ตะกร้ามาจนเตรียมที่จะชำระเงินแล้ว แต่คุณพระช่วย ต้องโอนเงินเพื่อชำระเงินเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ต้องบอกว่ายุคนี้คือยุคดิจิตอลแล้ว การสร้างตัวเลือกและช่องทางในการชำระเงินอย่างเปิดกว้าง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับเงินสูงขึ้น เช่น เพิ่มช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ชำระเงินผ่าน PayPal เป็นต้น
 

 

             4. ทำให้เว็บไซต์ดูง่ายและชัดเจน

 

             เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักมองข้าม เพราะพอมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้ขายสินค้า ก็จะพยายามตกแต่งให้สวยงาม มีรูป มีลาย ฟรุ้งฟริ้งไปเรื่อยโดยไม่ได้คิดว่าต้องมีการแบ่งสัดส่วนของเว็บไซต์ให้ชัดเจน การทำแบบนั้นอาจทำให้ลูกค้าที่กำลังชอปปิงสินค้าอยู่ หาไอคอนต่างๆ ไม่เจอ เช่น จะคลิกตรงไหนเพื่อสั่งซื้อ หรือคลิกตรงไหนเพื่อเลือกสินค้าลงตะกร้า และจะคลิกตรงไหนเพื่อยืนยันการชำระเงิน ซึ่งทางที่ดีควรออกแบบเว็บไซต์ให้ดูง่าย มองครั้งเดียวก็รู้เลยว่าจะซื้อสินค้าในเว็บนี้อย่างไร
 

 

             5. เชื่อมต่อระหว่างคลังสินค้าออนไลน์และออฟไลน์

 

             หากคุณมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง และใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติม การจัดการระบบเว็บไซต์ให้แสดงจำนวนสินค้าที่มีอยู่แบบออนไลน์ได้เลยนั้น เป็นเรื่องที่ดีและสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณขายเครื่องสำอาง หน้าร้านของคุณมีครีมทาผิวอยู่ 10 ขวด กับครีมอาบน้ำไข่มุกขายหมดแล้วอยู่ระหว่างการสั่งซื้อ แต่ลูกค้าออนไลน์สั่งซื้อครีมอาบน้ำไข่มุกไปแถมจ่ายเงินแล้ว รอเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่ได้ของ เพราะทางผู้จัดจำหน่ายผลิตไม่ทันหรือเหตุผลใดๆ ก็ตาม เชื่อเถอะว่าลูกค้าที่จ่ายเงินไปต้องมีอาการหน้าหงิกกันบ้าง เพราะกลัวโดนโกง กลัวไม่ได้ของ กลัวสารพัดจะกลัว และอาจใช้บริการคุณครั้งนี้เพียงครั้งเดียว 
 

 

             ทางที่ดี ควรระบุจำนวนสินค้าที่เหลืออยู่ในคลังลงในเว็บไซต์ จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลูกค้าอาจไม่ซื้อชิ้นนี้แต่ไปซื้อชิ้นนั้นแทน หรือรอจนกว่าของจะมาแล้วค่อยซื้อ เป็นต้น         

 

 

             การสร้างร้านค้าออนไลน์ขึ้นมานั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างประทับใจพร้อมกับความปลอดภัยในการชอปปิง ซึ่งคุณเป็นคนเดียวที่สามารถมอบประสบการณ์ดีๆ เหล่านี้ให้กับลูกค้าของคุณได้