นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมมาตรการสนับสนุนด้านการเงินแก่วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปลัดกระทรวงการคลัง ฯลฯ โดยได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หามาตรการสนับสนุนด้านการเงินให้กับเอสเอ็มอีอย่างสรุปชัดเจนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
โดยแนวทางที่สำคัญได้มอบให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เร่งค้ำประกันสินเชื่อให้ได้ตามวงเงินที่กำหนด 1 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปี 2560 เพราะเวลานี้มีการค้ำประกันอยู่ในเกณฑ์ต่ำมากเพียง 1.7 หมื่นล้านบาท ยังเหลือเงินค้ำประกันอีกถึง 8.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงให้พิจารณาเรื่องการขยายวงเงินขอค้ำประกันโดยไม่ใช้หลักทรัพย์จาก 23.75% ด้วย ส่วนจะขยายเป็นเท่าใดนั้น ต้องหารือร่วมกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง
นอกจากนี้ จะต้องหาข้อสรุปมาตรการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เพื่อสามารถส่งออกไปยังตลาดโลกได้ และเน้นส่งเสริมการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนหรือเฮดจิ้ง ซึ่งปัจจุบันยังมีแต่ในบริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) ควรมุ่งส่งเสริมให้เอสเอ็มอีลงทุนในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เวียดนาม) และต้องติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
ส่วนด้านองค์ความรู้ ต้องเริ่มนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้ในธุรกิจมากขึ้น พร้อมผลิตบุคลากรที่จะเป็นผู้ให้ความรู้แก่เอสเอ็มอี ช่วยให้คำแนะนำในการปรับตัว โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี