เครื่องจักรขนาดใหญ่ เด่นตระหง่านอยู่กลางงาน InterPlas Thailand 2017 ที่ผ่านมา อวดโชว์นวัตกรรมล่าสุดของแบรนด์ ไห่เทียน (Haitian) ผู้นำด้านเครื่องฉีดพลาสติกที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลก แบรนด์สัญชาติจีนที่พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับในระดับสากล สามารถส่งออกไปยัง 130 ประเทศทั่วโลก มีตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายอีกกว่า 60 ประเทศ ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มเครื่องจักรไฮดรอลิก เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ไห่เทียนเองก็เป็นเบอร์ 1 ในสนามนี้
“ตลาดพลาสติกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างเติบโตช้าหน่อย และต้องยอมรับว่ามีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาพอสมควร เราเองในฐานะที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ก่อน ก็แข่งขันกันอย่างยุติธรรมและเต็มที่ที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้ารายใหญ่มีการลงทุนที่ลดลงเราเลยขายเครื่องขนาดใหญ่ได้ค่อนข้างช้า แต่ที่น่าสนใจคือลูกค้า SME มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถขายเครื่องเล็กได้เยอะขึ้น เรียกว่าเพิ่มจากปีก่อนๆ เป็นเท่าตัว”
คำยืนยันจาก ชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการ บริษัท เอสพี อินเตอร์แมค จำกัด (SPI) ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเครื่องฉีดพลาสติกไห่เทียน (Haitian) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เผยผลลัพธ์ที่ทำให้ธุรกิจในไตรมาส 2 ของพวกเขา ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแรงผลักดันสำคัญก็คือกลุ่มลูกค้า SME ที่เขาเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะขายเครื่องให้กับรายย่อยได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 50 เปอร์เซ็นต์
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดประเทศไทย ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาไห่เทียน ประเทศจีน ตัดสินใจเปิดบริษัท ไห่เทียน แมชชีนเนอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้น เพื่อทำงานประสานมือกับ เอสพี อินเตอร์แมคอย่างใกล้ชิด พร้อมคลอดโชว์รูมเครื่องฉีดพลาสติกไห่เทียนแห่งแรกในไทยเพื่อสนับสนุนด้านการขายและงานบริการของพวกเขา แม้แต่วันที่ให้สัมภาษณ์ยังได้รับคำยืนยันจาก โทนี่ หรือ เจิง ซื่อ ผู้บริหารจากประเทศจีนที่มานั่งเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไห่เทียน แมชชีนเนอรี่ (ประเทศไทย) ช่วยย้ำชัดว่า ตลอด 15 ปีของความร่วมมือระหว่างไห่เทียน และ เอสพี อินเตอร์แมค ทำให้พวกเขากลายเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว ฉะนั้นบริษัทแม่ยินดีสนับสนุนเอสพี อินเตอร์แมคในการทำตลาดประเทศไทยอย่างเต็มที่
“วิสัยทัศน์ของไห่เทียนที่ทำให้เขากลายเป็นผู้นำได้คือ การที่เขามองว่าไม่ได้ต้องการผลิตเครื่องที่ดีที่สุดในโลก แต่ต้องการผลิตเครื่องที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่าการลงทุนที่สุดในโลก ฉะนั้นยุทธศาสตร์หลักของเขาคือความคุ้มค่าทั้งเรื่อง คุณภาพของเครื่อง การพัฒนานวัตกรรม ราคาที่สมเหตุสมผล และการบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งปัจจุบันด้วยความร่วมมือระหว่างเอสพี อินเตอร์แมคกับทางไห่เทียน ประเทศไทย ที่ได้ส่งคนจากบริษัทแม่เข้ามาช่วยเสริมทัพ ทำให้เชื่อว่าปีนี้การบริการหลังการขายของเราจะถูกยกระดับขึ้น และช่วยปรับปรุงในหลายๆ ด้าน เช่น การสื่อสารระหว่างเรากับจีนเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีและชัดเจนขึ้น สามารถให้บริการและผลิตสินค้าได้ตรงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการที่ทางไห่เทียนเองจะเพิ่มการนำเครื่องเข้ามาในไทยเพื่อให้ลูกค้าได้ชมและทดสอบประสิทธิภาพเครื่อง ซึ่งลูกค้าที่สนใจก็สามารถเลือกซื้อเครื่องที่มีในสต็อกได้ทันที”
การมาถึงของไห่เทียน ประเทศไทย ส่งอานิสงส์ถึงลูกค้า SME โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเพิ่มความยืดหยุ่นในการที่จะให้เครดิตกับลูกค้ารายเล็ก เพื่อให้ SME สามารถมีทางเลือกในการลงทุนที่ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนพิเศษจากบริษัทไห่เทียน ประเทศจีน
“ด้วยความที่เราก็เป็นผู้ประกอบการไทย และอยู่ในตลาดนี้มานาน เราพยายามสนับสนุนรายย่อยให้มีโอกาสเติบโตมากขึ้น นั่นคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเชิญไห่เทียน ประเทศไทยเข้ามาพูดคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครดิตเทอมต่างๆ ซึ่งส่วนมากลูกค้า SME ต้องการมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น รวมถึงการให้ความรู้สำหรับรายใหม่ โดยเรามีความพร้อมในการเข้าไปสนับสนุน ทั้งที่โรงงานของลูกค้า และผ่านศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ของเราเอง เรียกว่า ทั้งเรื่องการเงิน และโนว์ฮาว เราสามารถช่วยลูกค้า SME ได้” เขาย้ำ
ระหว่างการพูดคุย เครื่องจักรขนาดใหญ่ยังคงทำงานอยู่ ผู้บริหารเลยได้แนะนำนวัตกรรมล่าสุดของพวกเขา เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์จีนที่มุ่งวิจัยและพัฒนา มากกว่าขายในราคาถูกเหมือนภาพจำในอดีต ซึ่งนี่เองที่เป็นหัวใจสำคัญทำให้ไห่เทียนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ โดยปีนี้มีการเปิดตัวเครื่องใหม่ถึง 3 รุ่น คือ MA1600/540G : MAR Series เครื่องฉีดพลาสติกสเปกพิเศษที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานของตลาดในไทยและเอเชียโดยเฉพาะ VE1200II/210 : VENUS Series เครื่องฉีดพลาสติกระบบไฟฟ้า ที่มีความแม่นยำสูง และ JU4500II/2950 : JUPITER Series เครื่องฉีดพลาสติกระบบเซอร์ไวไฮดรอลิก ที่ประหยัดพลังงาน และประหยัดพื้นที่อีกด้วย
“ไห่เทียนพยายามพัฒนาเครื่องที่คุ้มค่ากับการลงทุนที่สุดให้ลูกค้า เอสพี อินเตอร์แมค ก็ต้องทำบริการหลังการขายให้ดีที่สุด เพื่อประกอบออกมาเป็นความคุ้มค่าที่แท้จริง แล้วลูกค้านั่นแหละจะเป็นคนขายให้เราเอง” เขาย้ำกลยุทธ์
ในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยมีมูลค่าการแปรรูปพลาสติกประมาณ 646,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.24 เปอร์เซ็นต์ หากรวมตลาดเม็ดพลาสติกด้วย พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 924,517 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.83 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ GDP ประเทศ ซึ่งนั่นยังเป็นโอกาสให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ โดยชัชชวีบอกเราว่า เชื่อว่าภาพรวมในปีนี้ธุรกิจจะยังเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายขึ้น และยังคงเน้นลูกค้า SME เป็นหลัก รวมถึงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าแบรนด์ระดับโลกไว้ โดยมุ่งไปยังตลาดกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนของรถยนต์ ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการเติบโตสูงเช่นกันในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล ที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับผู้ลงทุนรายย่อยไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ด้วย
และนี่คือเหลี่ยมยุทธ์ของวิถีแห่งผู้นำ ในวันที่ “ทะเล (ไห่) และ ท้องฟ้า (เทียน)” เดินทางมาประเทศไทย เพื่อสนับสนุน SME ไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับพวกเขา
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี