Text : Kritsana S.
เมื่อพูดถึง Digital Marketing หลายคนต่างเชื่อว่า การตลาดวิธีนี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ ทำได้ง่ายกว่าการตลาดวิธีเดิมๆ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ฯลฯ แต่ความเชื่อที่กล่าวมานี้จะเป็นจริงมากน้อยเพียงใด
1. ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจ ความเชื่อนี้ผิด เพราะ Digital Marketing เป็นเพียงหนึ่งในวิธีทำการตลาด และวิธีทำการตลาดแบบดั้งเดิม เช่น โฆษณาแบรนด์ผ่านโทรทัศน์ นิตยสาร และป้ายประกาศยังใช้ได้ผล เพราะมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่เชื่อข้อมูลในสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์มากกว่าข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ต
2. เข้าถึงลูกค้าเร็ว ในยุคนี้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลใหม่ๆ ของแบรนด์ได้ทันทีหลังจากที่แบรนด์กดโพสต์ แต่การเข้าถึงอย่างรวดเร็วนี้ก็มีข้อเสีย นั่นคือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะถูกทำลายเร็วเช่นกัน หากพวกเขาเกิดความไม่พอใจในแบรนด์ หรือไม่เห็นด้วยกับข้อมูลที่แบรนด์นำเสนอ และการทำ Digital Marketing ให้ได้ผลต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และการมีส่วนร่วม เช่น การแชร์หรือไลค์เพื่อให้โพสต์แสดงบนหน้าฟีดของบุคคลอื่น
3. ต้องเป็นไวรัล การตลาดแบบ Digital Marketing ไม่ได้จบแค่โพสต์แคมเปญในโซเชียลมีเดีย แต่ต้องทำให้เป็นไวรัลด้วย ซึ่งการจะเป็นไวรัลได้นั้น เนื้อหาต้องโดนใจลูกค้า ต้องมีแผนดำเนินงาน รวมทั้งแผนโปรโมตที่ดี และต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะไม่ใช่ทุกแคมเปญที่จะกลายเป็นไวรัลได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
4. ฟรี ความเชื่อที่ว่าสามารถทำ Digital Marketing ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ใช่ความเชื่อที่ผิด แต่หากต้องการให้โพสต์ถูกเห็นมากก็ต้องซื้อโฆษณา โดยข้อมูลจาก HubSpot ผู้นำด้านซอฟต์แวร์สำหรับการทำ Inbound Marketing ระบุ แบรนด์ต่างๆ มีงบสำหรับทำ Digital Marketing 28 เปอร์เซ็นต์จาก 35 เปอร์เซ็นต์ของงบการตลาดทั้งหมดในปี 2559
5. ได้ผลตอบแทนทันที ผู้ประกอบการมักเชื่อว่า ทันทีที่ปล่อยแคมเปญไปบนโลกออนไลน์ พวกเขาจะได้กำไรอย่างน้อย 3-4 เท่าทันที แต่จากการศึกษาพบว่า มีผู้ประกอบการเพียง 45 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถทำได้
6. ยอดไลค์ ยอดแชร์ยิ่งเยอะยิ่งดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สนใจเพียงว่า ทำอย่างไรให้โพสต์และวิดีโอมียอดไลค์ ยอดแชร์ และยอดวิวมากๆ ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกนำเสนอข้อมูลที่ถูกพูดถึงในขณะนั้นเป็นหลัก และไม่สนใจว่าข้อมูลที่นำเสนอจะเชื่อมโยงกับแบรนด์หรือไม่ ซึ่งการทำเช่นนี้แม้จะเรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ได้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้
7. ใช้ได้ผลเฉพาะกับวัยรุ่น ความเชื่อนี้ผิด เพราะคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการตลาดแบบ Digital Marketing ได้ โดยข้อมูลจาก Emarketer เว็บไซต์รวมรวบข้อมูลและงานวิจัยเกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์ ระบุ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี มีเพียง 29.7 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานทั้งหมด และข้อมูลจาก International Business Times เว็บไซต์ข่าวธุรกิจของสหรัฐฯ ระบุ กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อมากที่สุด คือ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 25-55 ปี