เรื่อง : ยุวดี ศรีภุมมา
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ นั่นคือ การตัดสินใจและเลือกโครงสร้างทางกฎหมายสำหรับบริษัทของคุณ ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินธุรกิจแบบ Sole Proprietorship ประกอบกิจการด้วยตัวคนเดียวหรือ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน รวมไปถึงบริษัทมหาชน ซึ่งในการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการชี้อนาคตของธุรกิจคุณในแง่ของการจ่ายภาษีตามกฎหมาย การร่วมระดมทุนจากภายนอก รวมถึงกองเอกสารอีกมากมายที่คุณต้องเผชิญ แบบทดสอบนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าโครงสร้างแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
1. คุณมีการวางแผนอย่างไรในการนำเสนอสินค้าหรือบริการของแบรนด์คุณ
A. ผมวางแผน คิดและลงมือทำด้วยตัวของผมเอง
B. ผมและหุ้นส่วนช่วยกันวางแผน จัดการ แบ่งหน้าที่ตามที่ถนัดในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
C. ผมมีหน้าที่คิด วาดภาพสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นและมันจะถูกถ่ายทอดออกมาโดยคนอื่น
2. คุณเตรียมตัวที่จะรับมือกับการถกเถียงหรือการเจรจาในเชิงกฎหมายเพื่อขยับขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นหรือไม่
A. ผมต้องการคุยกับทนายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
B. ผมยินดีที่จะเจรจาในเชิงกฎหมายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
C. ผมยินดีที่จะจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งในอนาคตเพราะอย่างนั้นแล้วผมยินดีที่จะทำงานกับทนายเพื่อช่วยจัดการในเรื่องต่างๆ
3. คุณมีการวางแผนที่จะเปิดรับนักลงทุนจากภายนอกเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตหรือไม่
A. ผมวางแผนที่จะใช้เงินของตนเองเท่านั้น
B. แน่นอน แต่คงเป็นเงินลงทุนจากครอบครัวและเพื่อนๆ
C. ผมตื่นเต้นที่จะแสวงหาการสนับสนุนแบบ Venture Capital แหล่งเงินทุนที่อยู่นอกเหนือจากบุคคลรอบตัว
4. คุณมีการแยกทรัพย์สินส่วนตัวและทรัพย์สินของธุรกิจหรือไม่
A. ผมรวมทรัพย์สินทุกอย่างไว้ในกองเดียวกัน
B. ผมยินดีที่จะเสี่ยงในการใช้ทรัพย์สินส่วนตัวหากมันเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของผม
C. ผมไม่ยินดีที่จะให้ทรัพย์สินของผมต้องอยู่บนความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
5. ระบบราชการ ความยุ่งยากในกระบวนการเดินเรื่องและเอกสารสำหรับคุณคิดว่า...
A. ผมคิดว่าคือหายนะ
B. สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้หงุดหงิดเหมือนกันแต่ก็มีความจำเป็นเพื่อทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย
C. ผมคิดว่าระบบเหล่านี้สำคัญ บริษัทผมมีการใช้ระบบนี้ในการนำทางและผมไม่แคร์เรื่องเอกสารเพราะมันทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี
6. พูดถึงเรื่องของภาษี คุณมีวิธีจัดการมันอย่างไร
A. เป็นเรื่องง่ายๆ ผมสามารถจัดการเรื่องภาษีได้ด้วยตัวคนเดียวและไม่ต้องการจ้างใครมาดูแลเรื่องนี้
B. ผมและหุ้นส่วนมีการนั่งคุยเรื่องนี้และจัดการสิ่งต่างๆ ร่วมกัน
C. ที่บริษัทของผมเรามีการจัดทำเรื่องนี้กันอย่างเป็นระบบเพื่อกันความผิดพลาดยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
7. ในการดำเนินบริษัท คุณและหุ้นส่วนมีอำนาจ ค่าตอบแทนและมีส่วนแบ่งอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่
A. ผมดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเพราะฉะนั้นผมมีอำนาจมากที่สุด
B. ผมมีการดำเนินธุรกิจกับหุ้นส่วนด้วยความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลตอบแทน อำนาจ หน้าที่ในการจัดการ
C. ผมมีหน้าที่วางแผนและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตแต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยในเรื่องของการตัดสินใจที่สำคัญ
8. คุณวางแผนที่จะขายหุ้นในบริษัทเมื่อไหร่กันนะ
A. ผมไม่คิดถึงเรื่องนั้น
B. ยังไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นเรากำลังทำอะไรอยู่
C. แน่นอน ผมมีความกระตือรือร้นที่จะพุ่งเข้าสู่ทุกโอกาสที่ผ่านมา
9. คุณวางแผนที่จะผลักดันให้บริษัทเป็นมหาชนหรือไม่
A. ผมกลัวว่าจะเสียความอิสระไป
B. ผมไม่ค่อยแน่ใจแต่ก็ไม่อยากที่จะให้คนอื่นเข้ามามีบทบาทในพื้นที่ของผม
C. ผมต้องการเป็นบริษัทมหาชนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
10. คุณมองในเรื่องของผลประโยชน์ที่ลูกน้องควรได้รับมากน้อยแค่ไหน
A. ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ภาษีและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
B. ผมคิดว่าประกันสังคมเพื่อสุขภาพก็น่าจะเพียงพอ
C. สำหรับผม ลูกน้องควรจะได้รับโบนัส บัตรเครดิตองค์กรและสิ่งต่างๆ อย่างที่พวกเขาสมควรได้
เฉลย
ถ้าคุณตอบ A มากที่สุด
คุณเหมาะสมที่จะดำเนินธุรกิจแบบ Sole Proprietorship หรือดำเนินธุรกิจด้วยตัวคนเดียวไม่มีหุ้นส่วน ไม่มีบริษัทลูกหลายบริษัทให้ยุ่งยาก ทุกอย่างดูเรียบง่ายภายใต้การตัดสินใจที่เด็ดเดียว รวดเร็วของเจ้าของ มีอิสระโดยสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คุณจะไม่เจอกับปัญหาของความขัดแย้งกับหุ้นส่วนทั้งเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว การตัดสินใจที่แตกต่างกันแต่คุณจะต้องแบกภาระที่มากมายเอาไว้ด้วยตัวคนเดียว ลองชั่งใจดูว่า คุณจะสามารถแบกรับทุกอย่างเอาไว้ได้นานมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้อาจทำให้คุณไม่สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดดเหมือนในรูปแบบอื่น
ถ้าคุณตอบ B มากที่สุด
คุณเหมาะสมที่จะดำเนินธุรกิจแบบ Partnership หรือบริษัทจำกัดก็ได้ มันเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบห้างหุ้นส่วนและนิติบุคคลที่จะช่วยปกป้องทรัพย์ส่วนบุคคลของคุณออกจากหนี้ของบริษัท แต่สิ่งสำคัญที่คุณต้องระวังในการดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้คือการจัดสรรปันส่วนและทำข้อตกลงระหว่างคุณกับหุ้นส่วนให้เป็นอย่างดี เพราะเรื่องของผลประโยชน์และอำนาจต่างๆ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซึ่งสามารถทำให้คุณมีปัญหาได้ในภายหลัง
ถ้าคุณตอบ C มากที่สุด
คุณควรที่จะมองหาแหล่งเงินทุนในการขับเคลื่อนบริษัท เป้าหมายของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย คุณมีการวางเป้าหมายในระยะไกล การจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนและเปิดรับแหล่งเงินทุนจากภายนอกคือสิ่งที่คุณต้องการ ดังนั้นคุณควรจะเตรียมตัวรับมือกับเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของเอกสาร ตั้งชุดคณะกรรมการ มีทนายคอยให้คำปรึกษา เตรียมความพร้อมภายในเพื่อให้มีความน่าสนใจแก่นักลงทุนในอนาคต แม้ว่าการดำเนินการรูปแบบนี้จะมีความเสี่ยงที่สูงแต่ก็ยังมีผลกำไรที่หอมหวานรออยู่เพียงแต่ว่าเส้นทางที่จะเดินไปสู่จุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ที่มองไกลอย่างคุณแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่นัก
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี