เรื่อง นิธิดา วงศาโรจน์
ว่ากันว่า ยิ่งคุณสามารถทำให้ลูกค้ามีความสุขกับแบรนด์ของคุณมากเท่าไหร่ พวกเขามีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการ ซื้อของจากคุณมากเท่านั้น เพราะประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์คุณทำให้พวกเขาเกิดความประทับใจ และความประทับใจจะช่วยให้คุณดึงเงินจากกระเป๋าพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวน การสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ก็แสนจะยากเย็น เราลองมาดูเคล็ดลับทำเงิน สร้างรายได้ให้มากขึ้นกันดีกว่า
1. เริ่มเล็กๆ แต่สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
หนึ่งในปัญหาของผู้ประกอบการที่มักจะจะเจอคือ พวกคุณคงมีความสงสัยและกังวลว่า จะสามารถเดินทางไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ ดังนั้น หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มกังวลในเรื่องนี้ ทำไมคุณไม่ลองเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ก่อนล่ะ เช่น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจะขายสินค้าชนิดใหม่หรือเปลี่ยนรูปแบบสินค้า คุณแค่เริ่มต้นลองตลาดด้วยการผลิตสินค้าล็อตเล็กๆ เพื่อจะได้ทราบว่า ผู้บริโภคชอบสินค้าคุณมากแค่ไหน ถ้าหากว่าไม่เวิร์ก คุณก็จะไหวตัวได้ทัน
2. ลองปรับปรุงการนำเสนอดูซิ
เชื่อไหมว่าเพียงแค่ Detail เล็กๆ ของการจัดวางสินค้า หรือการที่คุณตกแต่งหน้าร้านก็สามารถดึงดูดความสนใจลูกค้า หรืออาจจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแบรนด์ของคุณได้เช่นกัน คุณต้องมั่นใจว่า การจัดวางสินค้าหรือการนำเสนอสินค้า ไม่ว่าจะทั้งช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ได้ถูกคิดมาอย่างพิถีพิถันและใส่ใจ พยายามใส่ตัวตนของแบรนด์คุณลงไป ใช้วิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ ถ้าจะเรียบแต่ก็ไม่ควรทำให้ดูน่าเบื่อหรือจืดชืด แต่ถ้าหากจะทำให้มีสีสันก็ไม่ควรดูยุ่งเหยิงจนเกินไป
3. โฆษณาได้ผล
เหล่าเอสเอ็มอีที่มีกำเงินงบประมาณเพียงน้อยนิด อย่าเพิ่งคิดว่าการจ่ายเงินค่าโฆษณาเป็นการลงทุนเกินตัว เพราะความจริงแล้วโฆษณา ถือเป็นตัวช่วยอันยอดเยี่ยมในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ได้ดียิ่งขึ้น หากคุณตั้งเป้างบโฆษณาไว้ไม่เยอะ ลองเริ่ม Social Media ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมายทั้งยอดนิยมอย่าง Facebook หรือที่กำลังมาแรงอย่าง Line@ ส่วนที่น่าสนใจและควรศึกษาเอาไว้บ้างก็ Pinterest แม้เป็นโซเชียลที่คนไทยยังไม่คุ้นแต่ทั่วโลกมีคนใช้กว่า 80 ล้านคนแล้ว โดยรูปแบบช่องทางเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้นำเสนอสินค้าได้อย่างอิสระ และยังสามารถควบคุมเงินซื้อโฆษณาได้เองด้วย และหากสินค้าโดนใจแล้วอาจจะสร้างผลตอบแทนกลับมาให้คุณได้อย่างมหาศาล
4. ทุกอย่างควรมาพร้อมกับราคา
อย่าให้ลูกค้าเริ่มต้นคำถามกับคุณว่า สินค้าราคาเท่าไหร่ ทางที่ดีคุณควรทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวสินค้า และทำให้แบรนด์ของคุณชัดเจนในเรื่องราคาไปเลย ด้วยการติดป้ายหรือบอกพวกเขาให้รับรู้เลยว่า สินค้าของคุณราคาเท่าไหร่ หากคุณมั่นใจว่าสินค้าดีจริง คุณไม่จำเป็นต้องกลัวหรือปิดบังในเรื่องของราคาเพราะลูกค้าในยุคนี้ฉลาด และชอบเปรียบเทียบราคาเป็นเรื่องปกติ ถ้าสินค้าคุณโดนใจพวกเขาละก็ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนลูกค้าก็เต็มใจที่จะจ่ายเงินแน่นอน
5. อย่าลืมช่องทางการติดต่อ
มีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากที่มักจะลืมช่องทางการติดต่อให้ครบถ้วน บางคนอาจใส่อีเมลเพียงอย่างเดียว หรือบางคนใส่เบอร์โทรศัพท์เพียงอย่างเดียว ทางที่ดีคุณควรใส่ช่องทางการติดต่อให้ครบถ้วนเพื่อให้ลูกค้าของคุณมีตัวเลือกว่าจะสะดวกติดต่อไปทางไหน ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรนด์ ชื่อของคุณ เบอร์โทรศัพท์มีกี่เบอร์ใส่ให้หมด อีเมล ที่อยู่ร้านของคุณ แผนที่ รวมไปถึงเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าไปดูตัวอย่างสินค้าประกอบการตัดสินใจ เพียงแค่นี้คุณก็อาจจะได้ใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี