เรื่อง นเรศ เหล่าพรรณราย
นับตั้งแต่ Facebook เปิดฟังชั่นให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายทอดสดได้ ทำให้เกิดเป็นกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ ชนิดที่บรรดาเซเลปทั้งหลายต่างพากันใช้เครื่องมือดังกล่าวเพื่อดึงแฟนคลับให้ติดตาม แม้กระทั่งสื่อกระแสหลักอย่างทีวีก็ยังต้องเกาะกระแสดังกล่าวไปด้วย
ในภาคธุรกิจ Facebook Live สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ได้เช่นกัน โดยมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เช่น
- โดดเด่นกว่าการใช้ Youtube แม้ว่า Youtube จะเปิดให้บริการถ่ายทอดสดก่อน แต่ต้องยอมรับว่าฐานผู้ใช้งาน Facebook มีจำนวนที่มากกว่าพอสมควร อีกทั้งพฤติกรรมของผู้ใ้ช้งาน Youtube ยังเป็นในรูปแบบของการตั้งใจเข้าไปชม แต่กับ Facebook ผู้ใช้อาจจะไม่ได้ตั้งใจเข้าไปชมก็เป็นได้ (ง่ายๆคือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนเราไปแล้ว) ทำให้โอกาสที่จะมีคนเห็นการถ่ายทอดสดของเรามีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนสำหรับผู้ที่กดติดตามแฟนเพจ ผู้ใช้สามารถโฆษณาล่วงหน้าได้อีกว่าจะมีการถ่ายทอดสดเกิดขึ้น ที่สำคัญยังสามารถรับชมย้อนหลังได้หากไม่ไปลบก่อน
- เปิดโอกาสให้ผู้ชมสามารถโต้ตอบได้ทันที ผู้ชมอาจจะแสดงความคิดเห็นต่อสินค้าและบริการที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ในเวลานั้น โดยที่เราสามารถโต้ตอบได้ทันที จึงเป็นการสื่อสารสองทางที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ต่อให้คนอื่นได้มีโอกาสเห็นการถ่ายทอดสดได้ทันที
- ผู้ชมมีปฎิกิริยาโต้ตอบกับการถ่ายทอดสดมากกว่าการชมคลิป โดยเฉพาะการถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญที่ชวนให้ติดตามต่อ (กรณีการถ่ายทอดสดเหตุการณ์คนคิดจะฆ่าตัวตายถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญ แม้คอนเทนท์จะไม่สร้างสรรค์) และการถ่ายทอดสดคนดังบนโลกออนไลน์จะทำให้ผู้ติดตามมีความรู้สึกเหมือนกับได้ติดตามคนๆนั้นอย่างใกล้ชิดจริงๆ
- ใช้ต้นทุนต่ำ แต่หวังผลได้สูง ต้นทุนในการทำ Facebook Live มีเพียงแค่ค่าอินเทอร์เนตและโทรศัพท์สามาร์ทโฟนเพียงเท่านั้น หากจะเพิ่มขึ้นมีเพียงแค่ไมโครโฟนเพื่อให้เสียงดังฟังชัดหรือขาตั้งโทรศัพท์เท่านั้น นอกนั้นเราสามารถเลือกสถานที่การถ่ายทอดสดได้ด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องจัดฉากให้สวยงามให้สิ้นเปลือง (ดูแสงอย่าให้มืดเกินไปก็พอ) แม้กระทั่งการถ่ายทอดสดจากข้างนอก เนื่องจากความคาดหวังของผู้ชมไม่ต้องการการจัดสถานที่ให้สวยงามเหมือนโทรทัศน์ แต่จุดขายอยู่ที่ความสดของคอนเทนท์มากกว่า
- Facebook จะพัฒนาฟังชั่นการถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้พัฒนาโปรแกรม API ให้สามารถถ่ายทอดสดได้ด้วยวิธีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ถ่ายทอดผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่มีการจัดหน้าจอสวยงามไม่แพ้การถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์ ในอนาคตคาดว่า Facebook จะต้องพัฒนาฟังชั่นในการขายโฆษณาออกมาอย่างแน่นอนซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของผู้ผลิตคอนเทนท์ในอนาคต
ปัจจุบันสื่อมัลติมีเดียอย่างคลิปวีดีโอสามารถกระตุ้น Engagement ของผู้ชมได้มากกว่าสื่อที่เป็น Text และกราฟฟิคเสียอีก โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดที่มีความตื่นเต้นกว่าคลิปวีดีโอปกติ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างคอนเทนท์ออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี