ในยุคนี้จะเห็นได้ว่า มีคนจำนวนมากที่ก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของกิจการตั้งอายุยังน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามามีส่วนช่วยให้ก่อร่างสร้างธุรกิจได้ง่ายขึ้น แต่ทางเดินคงไม่ได้สวยหรูเหมือนสิ่งที่วาดฝัน เพราะในความง่ายได้แฝงอุปสรรคเอาไว้ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะ 3 ข้อนี้ที่นักธุรกิจรุ่นใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้และก้าวข้ามไปให้ได้
1.มีใจ แต่ไร้ประสบการณ์
ในยุคนี้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองทั้งสิ้น เรียกได้ว่า ตั้งแต่อายุยังน้อยก็เริ่มมองหาลู่ทางในการทำธุรกิจ ด้วยความที่เป็นมือใหม่ ย่อมมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจไม่มากนัก ทำให้ต้องประสบกับปัญหาหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรธุรกิจ เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้ อาจยังไม่เคยผ่านประสบการณ์การทำงานในองค์ธุรกิจมาก่อน จึงทำให้ไม่รู้หรือมองข้ามไป ฉะนั้นเวลาที่ต้องมาบริหารธุรกิจของตัวเองจึงเกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น
2.กล้าเสี่ยงเกินไป จนจุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อน
แม้จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการเพิ่มโอกาสไปสู่ความสำเร็จ เพราะถ้าไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงมือทำ ความสำเร็จย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แต่ความกล้าก็เหมือนดาบสองคม หลายครั้งเราจะเห็นว่า มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ไม่น้อยที่ต้องพลาดท่าเสียที ล้มเหลวลงไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเกิดจากความมั่นใจมากเกินไป คิดเร็ว ทำเร็ว จนขาดความรอบครอบ ทั้งในแง่ความคิด และการลงมือทำ จนทำให้จุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อนในที่สุด
3.เอาแต่วางแผน จนลืมวางรากฐาน
จะเห็นว่า นักธุรกิจรุ่นใหม่จะมีไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงช่องทางการตลาดที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้วอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับนักธุรกิจเหล่านี้ คือ ขาดการบริหารจัดการทางการเงินที่ดี โดยเฉพาะเรื่องบัญชีและภาษี หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ตัวเองไม่มีความถนัดในเรื่องนี้ จนละเลยและไม่ใส่ใจ ทั้งที่เป็นรากฐานสำคัญ จนสุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลร้ายอย่างมหันต์ต่อธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นักธุรกิจควรเข้าใจตลาดและตามกระแสของเศรษฐกิจที่กำลังเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดให้ทัน อย่างน้อยก็จำเป็นต้องเรียนรู้ว่า ทุกวันนี้มีธุรกิจใดบ้างที่กำลังมาแรง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่ยังมีบางธุรกิจที่มีโอกาสจะเติบโตได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากนโยบายภาครัฐและกระแสของเมกะเทรนด์ ไปดูกันว่าธุรกิจใดที่ยังมีอนาคต
ธุรกิจการท่องเที่ยว ถือเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่มีอัตราการเติบโตเป็นบวกในปีนี้ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่เป็นแนวโน้มเดียวกันทั่วโลก เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ
ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่เป็นโอกาสของนักลงทุนอย่างเช่น โฮสเทล น่าจะเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนที่สุด เนื่องจากสามารถดัดแปลงบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยมาเป็นโฮสเทลได้โดยใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก นอกจากนี้การสร้างเครือข่ายให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวก็สามารถทำได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์อย่าง Agoda, Booking หรือแม้แต่ Airbnb
นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรมยังมีธุรกิจสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชน ที่ยังมีแนวโน้มเติบโต ถ้าหากสามารถบริหารจัดการสิ่งที่มีอยู่ในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวตามธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ และทำการตลาดให้เป็นที่รู้จักก็สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน
ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ยังคงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ยังคงมีอัตราเติบโตต่อเนื่องไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ เป็นเพราะกระแสการดูแลรักษาสุขภาพที่ยังไม่ตกลง โดยธุรกิจสุขภาพสามารถแตกแขนงออกมาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเสริมความงาม ธุรกิจอาหาร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย ฯลฯ
นอกจากโอกาสในประเทศที่เติบโตแล้ว ยังมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างกลุ่ม CLMV เป็นเพราะประเทศเหล่านี้มีเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น กำลังซื้อที่สูงขึ้นทำให้เกิดความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความงามและสุขภาพ อีกทั้งธุรกิจคนไทยยังเป็นที่ยอมรับอีกด้วย รวมถึงการเปิดตลาดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ใช้บริการด้านสุขภาพยังมีความเป็นไปได้เช่นกัน
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการมาของคลื่นสี่จีรวมถึงนโยบายสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและดิจิทัลอีโคโนมี่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจที่นำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนทั้งหมด จากเดิมที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เนื่องจากอุปสรรคทางด้านเทคโนโลยี ตอนนี้สามารถทำงานต่างๆได้ผ่านแอปพลิเคชันซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งคนทำธุรกิจและลูกค้า
นอกจากนี้นโยบายสนับสนุนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Payment ยังสนับสนุนให้การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลง่ายและลดต้นทุนไปได้อย่างมาก เช่น การจ่ายเงินออนไลน์ การใช้บัตรเครดิตชำระเงินได้ทุกแห่งผ่านเครื่อง EDM ฯลฯ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถออกแบบธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่พะวงเรื่องของเทคโนโลยีอีกต่อไป
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนจีน แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีการเติบโตที่ลดน้อยลงจากหลายปีก่อน จนนักเศรษฐศาสตร์มองว่าอาจจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจากประเทศจีนในอนาคต แต่ถึงอย่างไรจีดีพีของจีนยังคงเติบโตในระดับสูงกว่าประเทศอื่นอยู่ดี และคนจีนยังคงเป็นผู้บริโภครายใหญ่ของโลก เห็นได้จากแบรนด์สินค้าชั้นนำทั่วโลกต่างพุ่งตรงไปยังตลาดจีนแทบทั้งสิ้น
ส่วนของสินค้าจากประเทศไทย ถือมีข้อได้เปรียบจากการที่คนจีนมีความนิยมชมชอบสินค้าจากประเทศไทยในระดับสูง โดยเฉพาะสินค้าประเภทผลไม้ ความงามและงานศิลปะ นอกจากนี้ จีนกำลังผ่อนคลายกฎระเบียบทางด้านการค้า เช่น การเปิดทางให้สามารถซื้อขายสินค้าด้วยเงินหยวนได้โดยตรง ซึ่งช่วยในการลดต้นทุนการส่งออกนำเข้าของผู้ประกอบการลงไปได้มาก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนจีน จึงยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ทั้งการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวการส่งออกไปยังตลาดจีนแม้แต่การไปเปิดธุรกิจโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือกำลังซื้อของคนไทยยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เหตุผลหลักมาจากการส่งออกที่ยังไม่เติบโต เงินเฟ้อที่ยังต่ำ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง การตัดสินใจเปิดธุรกิจหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่จึงต้องมีความรอบคอบอย่างมาก รวมถึงความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน จากนโยบายทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนของประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลก นักธุรกิจยังต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
โลกธุรกิจในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์ที่แม่นยำและรวดเร็ว จะช่วยให้นักธุรกิจสามารถปรับตัวเองได้ทันต่อสถานการณ์ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรี www.krungsri.com
อยากขอเจ้านายขึ้นเงินเดือน แต่ไม่กล้าหรือไม่รู้จะเริ่มยังไง
เรามี 10 วิธีขอขึ้นเงินเดือนแบบได้ใจเจ้านายมาฝากกันครับ
เรามี 10 วิธีขอขึ้นเงินเดือนแบบได้ใจเจ้านายมาฝากกันครับ