ปัจจุบันเทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของธุรกิจ การสื่อสารทางการตลาดอย่างไรที่จะเข้าถึงผู้บริโภคในยุคที่โทรศัพท์เคลื่อนที่กลายเป็นปัจจัยที่ห้าของชีวิตไปแล้ว ยังเป็นโจทย์สำคัญสำหรับทุกธุรกิจ แม้การทำการตลาดในปัจจุบันจะมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย แต่นักการตลาดก็ยังเชื่อว่า SMS (Short Message Service) ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงอิทธิพลอยู่
เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ติดตัวผู้บริโภคอยู่ตลอด เวลา ดังนั้น SMS จึงเป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดทางตรงที่ทรงประสิทธิภาพ เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด และสามารถวัดผลตอบรับจากผู้บริโภคได้ เนื่องจากเป็นการสื่อสารหรือส่งข้อความที่ผ่านสื่อตรงไปยังผู้บริโภค ด้วยการการส่งข้อความสั้น (SMS) ไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยรูปแบบของการสื่อสารสามารถทำได้ทั้งการสื่อสารทางเดียวคือตรงไปถึงผู้รับหรือการสื่อสารสองทางคือมีการรับข้อความตอบกลับจากผู้รับด้วย ในรูปแบบของการเปิดให้โหวต การประกวดแข่งขันตอบคำถาม ทำแบบสำรวจ ฯลฯ
นอกจากนี้ข้อดีของ SMS Marketing คือสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายในการจัดส่งได้ชัดเจน สะดวกและประหยัดเวลา เพราะผู้ประกอบการสามารถส่งข้อความ ทั้งที่เป็นตัวอักษรและในรูปมัลติมีเดียที่มีทั้งภาพและเสียง (โดยขนาดของไฟล์ที่จะจัดส่งในรูปแบบ MMS ต้องไม่เกิน 200KB ) ถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมากพร้อมกัน สูงสุดถึง 50,000 หมายเลข ในทุกเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศรวมถึง SMS International ในราคาเริ่มต้นเพียง 0.90 บาทต่อข้อความ
ทำการตลาดผ่าน SMS อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้วยจุดเด่นของ SMS ที่สามารถสื่อสารทางตรงกับลูกค้าและสามารถรับข้อความตอบกลับ จึงทำให้หลายธุรกิจมีการทำ SMS Marketing กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ อาทิ ธุรกิจร้านทองที่ส่งข้อความอัพเดตราคาทองคำทุกวันไปยังกลุ่มลูกค้าที่สนใจ การส่งส่วนลดโปรโมชั่นต่างๆไปยังสมาชิกหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สามารถส่งแบบประเมินความพึงพอใจให้กับลูกค้าคอบกลับมาได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการทำการตลาดผ่าน SMS ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่จะสื่อสารให้ชัดเจนก่อน ว่าสินค้าหรือบริการที่เราต้องการสื่อสารทางการตลาดไปถึงลูกค้ากลุ่มไหน ชายหรือหญิง ช่วงอายุ ไลฟ์สไตล์ความสนใจ ตลอดจนรายได้ เป็นต้น นอกจากนี้ SMS ยังสามารถตั้งเวลาในการส่งข้อความได้ เช่นต่างกลุ่มเป้าหมายต่างเวลาหรือ ส่งข้อความเดิมซ้ำทุกวันก็ได้เช่นกัน ส่วนข้อความที่จะสื่อสารผ่านตัวอักษร ภาพ หรือเสียงควรออกแบบเนื้อหาให้สั้น กระชับ ชัดเจน และมีความน่าสนใจ
ที่สำคัญการส่ง SMS ยังมีระบบการวัดผลอย่างทันท่วงที ภายหลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว ระบบจะทำการรายงานผลการส่งว่าสำเร็จไปได้กี่เปอร์เซนต์และระบุเหตุผลด้วยว่าทำไมถึงส่งไม่สำเร็จ นอกจากนี้ระบบยังสามารถสรุปผลการส่งข้อความหรือผลสำรวจที่ลูกค้าส่งกลับมาได้เพื่อนำมารวบรวมเป็นคะแนนและสามารถนำไปวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าต่อไป
ดังนั้นในทางธุรกิจ SMS Marketing จึงเป็นรูปแบบการตลาดที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นการตลาดทางตรงที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งตอบโจทย์การทำธุรกิจและการแข่งขันของ SME ในยุคปัจจุบัน