เรื่อง เจษฎา ปุรินทวรกุล
การสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คืออะไร มีผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างเดียวคงไม่พอ มีผู้เข้าชมมหาศาลก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ซะทีเดียว ขายสินค้าได้ก็ยังไม่ใช่คำตอบที่สมบูรณ์แบบ
เฉลยดีกว่า นั่นก็คือ การสร้างเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจ มีผู้เข้าชมจำนวนมากและสามารถขายสินค้าได้อย่าง “ต่อเนื่อง” นั่นจึงจะทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ คำถามต่อมาคงไม่พ้น แล้วจะสร้างเว็บไซต์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ซึ่งจะช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ไม่ยาก
คอนเทนท์คือสิ่งสำคัญที่สุด
หลังจากที่เจ้า SEO (Search Engine Optimization) อย่าง Google ได้พัฒนาระบบการสืบค้นให้ดียิ่งขึ้น การทำคอนเทนท์ของเว็บไซต์ต่างๆ ก็ต้องพยายามปรับตัวเพื่อให้แบรนด์หรือสินค้าของตัวเองขึ้นแท่นอันดับต้นๆ ในการสืบค้นโดย Google
การสร้างคอนเทนท์ให้น่าสนใจนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่การพาดหัวเรื่องให้น่าสนใจ ใช้รูปภาพ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิกประกอบเพื่อเพิ่มความเข้าใจหรือทำให้เนื้อหาเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบและ
จำไว้เสมอว่าเนื้อหาที่สร้างขึ้นมา ทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายอ่าน ไม่ได้สร้างขึ้นมาแบบขอไปที หมายความว่าควรเน้นที่คุณภาพไม่ใช่เน้นไปที่ปริมาณ
นอกจากนั้นควรสร้างลิงค์ภายในคอนเทนท์ให้เชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ หรือลิงค์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือเนื้อหาที่เราพูดถึงด้วย เพราะจะมีประโยชน์กับระบบ SEO ที่จะพิจารณาอันดับของเรา
ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าถึงเว็บไซต์
โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างมากในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค โดยข้อมูลจาก www.statista.com แสดงให้เห็นถึงปริมาณการใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลก ดังนี้ เฟซบุ๊ค 1,550 ล้านบัญชี อินสตาแกรม 400 ล้านบัญชี ทวิตเตอร์ 316 ล้านบัญชี พินเทอเรส 100 ล้านบัญชี และลิงค์อิน 96 ล้านบัญชี ซึ่งเราสามารถใช้ช่องทางที่หลากหลายนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้
ลูกเล่นหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทในเพจเฟซบุ๊คที่ใช้ทำธุรกิจกันก็คือปุ่ม “Call-to-Action” หรือแปลเป็นไทยอย่างทะแม่งๆ ว่า “สร้างปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการ” ซึ่งเวลาที่โฆษณาของเราไปปรากฏบนข่าวฟีดของผู้ติดตามหรือกลุ่มเป้าหมายก็จะช่วยให้ผู้ติดตามสามารถเข้าถึงกิจกรรม หรือใช้เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น หากปุ่ม Call-to-Action ไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ ปุ่มนี้ก็จะเปรียบได้กับปุ่ม “Buy Now” หรือ “สมัครสมาชิก” หรือ “หยิบใส่ตะกร้า” และอีกหลายปุ่ม เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ชัดเจนว่าหากจะซื้อสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์ ต้องทำอย่างไร หรือคลิกตรงไหน
หากเป็นทวิตเตอร์ ก็ต้องพยายามใช้ตัวอักษร 140 ตัว สร้างเรื่องราว เนื้อหา หรือข่าวสารที่ให้ผู้รับสารเกิดความสนใจอยากไปติดตามต่อ หรืออยากคลิกไปดูรายละเอียดแบบเต็มๆ ที่เว็บไซต์ อาจใช้แฮชแท็กเพื่อตามกระแส ใช้กับกิจกรรมของเราโดยเฉพาะ คำที่กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสค้นหา หรือสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจ แต่ต้องใช้อย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะถ้ามากจนเกินไปกลุ่มเป้าหมายอาจรำคาญและมองว่าเป็นแสปม
การใช้มัลติมีเดีย = การสร้างจุดสนใจ
รูปภาพและวิดีโอ เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ดังนั้น พยายามใส่ภาพและวิดีโอ ในบล็อก เว็บไซต์ และสื่อโซเชียลมีเดียที่คุณมี พร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับคุณสมบัติ วิธีใช้ของสินค้าหรือบริการ เพื่อเพิ่มอันดับในการสืบค้นบน Google
ซึ่งนี่คือความจริงที่เรียบง่าย ลองคิดง่ายๆ ระหว่างหนังสือที่มีตัวหนังสือล้วนๆ กับหนังสือที่มีภาพประกอบ หนังสือชนิดใดเห็นแล้วน่าสนใจและน่าหยิบขึ้นมาดูมากกว่ากัน การดึงดูดและจูงใจกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้เลย
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)