เรื่อง คัมภีร์เงิน
ยอดขายสินค้าของคุณกำลังนิ่งหรือตกลงหรือเปล่า สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งคุณสามารถทำได้ ก็คือเข้าให้ถึง ‘inbox’ ของผู้บริโภค แต่สมัยนี้จะขออีเมล์จากผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องง่าย หากลองเปรียบเทียบกับที่เว็บไซท์ทั่วๆ ไปทำอยู่ก็คือแค่ใส่กล่อง sign-up ไว้บนเว็บไซต์แล้วบอกว่า ‘ต้องการรับข่าวสารหรือข้อมูลใหม่ๆ’ หากคุณคิดว่าแค่นั้นก็พอแล้ว ขอบอกว่านั่นเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุด อ้าว...แล้วจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคมาลงทะเบียนได้ล่ะ? คำตอบอยู่ด้านล่างนี้
1.หุ่นยนต์ หรือ มนุษย์
หากกิจการของคุณเป็นบริษัทคุณควรใส่หน้าคนลงในกล่องสำหรับ sign-up นั่นหมายถึงว่าคนในรูปจะเป็นคนส่งอีเมล์ตอบหาพวกเขา เป็นการทำให้ลูกค้ารู้สึกดีมากขึ้นว่ามีคนจริงๆ ตอบอีเมล์ไม่ใช่จากระบบอัตโนมัติ มีเจ้าของกิจการเล็กๆ รายหนึ่งที่กล่อง sign-up ดูเหมือนมาจากระบบอัตโนมัติ ถึงแม้เจ้าของจะเขียนเองทุกคำพูด เมื่อเขาใส่หน้าตัวเองเข้าไปในกล่อง sign-up ยอดลงทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 30% เลยทีเดียว (แนบไฟล์ต่างหากมาให้ เป็นหน้าผู้ชาย)
2. ‘แล้วฉันจะได้อะไร’
ผู้เขียนชอบการ์ตูนล้อเลียนด้านล่างนี้มาก (แนบไฟล์ต่างหากมาให้ด้วย) ‘เป็นป้ายยินดีต้อนรับสู่เมือง ไม่มีใครสนใจใคร (nobody cares) ประชากร 6 พันล้านคน’ และเมืองที่ถูกล้อเลียนนี้ก็คือโลกที่เราอาศัยอยู่นี่เอง การ์ตูนนี้ชวนให้คิดว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครสนใจคุณ บริษัทของคุณ หรือสินค้าของคุณหรอก พวกผู้บริโภคสนใจก็แค่ตัวเองเท่านั้น อาจฟังดูโหดร้ายแต่นี่คือความจริง ชีวิตของผู้บริโภคทุกวันนี้ถูกทำให้ไขว้เขวด้วยสื่อต่างๆ เคยได้ยินคนบ่นว่า ‘อยากได้รับอีเมล์เยอะๆ มั้ยล่ะ’ นี่ล่ะที่ทำให้คุณต้องมีเหตุผลดีดีที่จะทำให้ผู้บริโภคมาลงทะเบียนสมัครสมาชิกอีเมล์กับคุณ
วิธีการที่ง่ายที่สุด ก็คือมีของฟรีแจก เช่น รายงาน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือดาวโหลดของฟรีต่างๆ แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าน่าสนใจพอที่จะให้ลงทะเบียน การให้ลงทะเบียนแบบมีของแถมสามารถช่วยเพิ่มยอดลงทะเบียนได้ถึง 50% เชียวนะ ลองสมมติตัวเองเป็นผู้บริโภคแล้วถามตัวเองว่า ‘ฉันจะได้อะไรจากอีเมล์นี้’ จากนั้นให้หาคำตอบที่มันน่าจะดึงดูดผู้บริโภคได้หน่อย
3. ต้องโดดเด่น
ขอย้ำอีกทีว่าอีเมล์ลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญมากที่สุด ดังนั้นอย่าเอากล่อง sign-up สำหรับให้ลงทะเบียนไปไว้ด้านข้างของหน้าเว็บหรือห้ามเอาไปไว้ด้านล่างของหน้าเว็บเด็ดขาด คุณต้องให้กล่อง sign-up ดูเด่นในหน้าแรกของเว็บ วิธีการหนึ่งที่ดีก็คือการใช้ popover (คือวินโดว์เล็กๆ ที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าเว็บใหญ่ บ้างก็เรียก pop up) และเชื่อหรือไม่ว่าแค่ใช้ popover จะช่วยเพิ่มยอดการลงทะเบียนให้มากขึ้นได้ หากคุณไม่ชอบใช้ popover ก็ไม่เป็นไร ให้กล่อง sign-up ของคุณอยู่ในบริเวณที่เห็นชัดๆ เช่นตรงกลาง เพื่อที่จะช่วยให้คนมาลงทะเบียนได้ง่ายขึ้น
4 อีเมล์แรกต้องให้ประทับใจ
‘ความประทับใจแรกพบสำคัญกับเราฉันท์ใด มันก็สำคัญกับอีเมล์แรกด้วยฉันท์นั้น’ ดังนั้นเมื่อมีผู้ลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกข่าวสารทางอีเมล์ของคุณแล้ว ระบบจะต้องตอบกลับอัตโนมัติด้วยอีเมล์แรกทันที และอีเมล์แรกนี่แหละที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าอยู่หรือไป คุณต้องใส่เนื้อหาให้ดีและพอเหมาะ รวมถึงมีบอกด้วยว่าอีเมล์ครั้งต่อไปจะมีอะไร เพื่อให้ว่าที่ลูกค้ารู้สึกอยากติดตาม สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดก็คือ มีคนสมัครเป็นสมาชิกอีเมล์แล้วอีกไม่กี่นาทีก็เข้ามาบอกยกเลิก เพราะอีเมล์ฉบับแรกมันไม่ได้เรื่อง จงจำไว้ว่าอีเมล์ฉบับแรกของคุณต้องทำให้คนรับร้อง ‘ว้าว’ให้จงได้
5. ทดสอบหลายๆ ครั้ง
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า กล่อง sign-up ของคุณยังทำงานดีอยู่ คุณต้องหมั่นทดสอบกล่อง sign-up ของคุณจากเว็บบราวเซอร์ต่างๆ เพราะหากมีการเปลี่ยนลิ้งค์ไปเพียงนิดเดียว ผู้ใช้ภายนอกก็ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เสียอารมณ์แถมคุณอาจเสียลูกค้าไปตลอดกาลเชียวนะ นอกจากนี้แล้วคุณอาจสร้างแบบฟอร์มให้กรอกอย่างน้อยสองแบบ แล้วทดสอบทีล่ะแบบ ลองเข้าไปทดสอบที่ Google Website Optimizer ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)